สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
News

5 พัดลมมินิมอล พัดลมดีไซน์เรียบง่าย เข้ากับทุกห้องในบ้าน

พัดลมมินิมอล

พัดลมมินิมอล นับว่าเป็นดีไซน์ของพัดลมที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องตามหาอย่างแน่นอน เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์ผู้ผลิตพัดลมมักจะมีการดีไซน์พัดลมให้มีสีสันที่หลากหลาย ซึ่งจะค่อนข้างจะสวนทางกับความต้องการของคนในปัจจุบัน ที่มักจะออกแบบห้อง หรือ บ้าน ให้มีดีไซน์มินิมอล และเรียบง่าย ซึ่งการที่เราจะหาซื้อพัดลมให้มีดีไซน์มินิมอลให้เข้ากับดีไซน์ของบ้านจึงอาจจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 พัดลมดีไซน์มินิมอลมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยากได้ทั้งพัดลมดี ๆ ไว้ใช้งาน พร้อมดีไซน์ที่เข้ากับบ้านของเรา

พัดลมมินิมอล จาก 5 แบรนด์ดัง ที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ 

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตามหา พัดลม มินิมอล วันนี้เว็บไซต์ของเราได้รวบรวม 5 พัดลมสไตล์มินิมอล ที่ให้ทั้งลมแรง คงทน และ ดีไซน์สุดเรียบง่าย 

พัดลมมินิมอล
  • Xiaomi Smart Standing Fan 2 Pro

พัดลมมินิมอล Xiaomi รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นแบบไร้สาย จึงทำให้มีดีไซน์ที่เรียบง่าย ทันสมัย และไม่มีสายไฟมารุงรังรำคาญสายตา โดยรุ่นนี้นอกจากจะเป็นแบบไร้สายแล้ว ยังมาพร้อมไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ ใบพัดลมสองชั้น 7+5 ใบ ที่ให้ลมเย็น ไม่แรงปะทะตัวจนเกินไป และกระจายลมไปถึง 140 องศา ควบคุมการทำงานด้วยเสียง อีกทั้งแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมงสำหรับโหมดการระบายอากาศมาตรฐาน ความเร็วระดับ 1 

ราคา: 2,990 บาท

พัดลมมินิมอล
  • พัดลมตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ R12A-HRB

พัดลมมินิมอล Mitsubishi ที่มีให้เลือกถึง 2 สี คือ ขาว และ ดำ โดยรุ่นนี้มาพร้อมใบพัดขนาด 12 นิ้ว ความเร็ว 1,170 รอบต่อนาที ระดับแรงลม 3 ระดับ ควบคุมได้ง่ายจากระยะไกลด้วยรีโมท เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือ ไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อป้องกันการเกินไฟไหม้ 

ราคา: 2,200 บาท 

พัดลมมินิมอล
  • Alectric พัดลมตั้งพื้น OF2 

พัดลมจากแบรนด์ Alectric ใบพัดใหญ่ขนาด 16 นิ้ว ที่สามารถปรับระดับลมได้ 3 ระดับ แรงดันไฟ 220V

ระดับความสูงของพัดลมสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ โดยความสูงระดับ 3 สูงสุด 130 ซม. และกระจายลมได้ถึง 180 องศา จึงสามารถกระจายลมเย็นได้ทั่วทั้งห้อง 

ราคา: 1,990 บาท 

พัดลมมินิมอล
  • Venz F0FWS18

พัดลม 3 ขา ใบพัดใหญ่ 18 นิ้ว ที่มาพร้อมขาไม้ดีไซน์เรียบง่าย และแข็งแรง เหมาะกับการใช้งานภายในตัวบ้าน เช่น การปาร์ตี้ในสวน เป็นต้น โดยฝาครอบใบพัดจะเป็นแบบตะแกรงตาข่าย เพิ่มความปลอดภัยและสวยงาม ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ แรงลม 1,450 รอบต่อนาที และที่สำคัญคือเพิ่มความปลอดภัยด้วยเทอร์โมสตัทตัดไฟเมื่ออุณหภูมิสูงเกิน 100 °c 

ราคา: 5,990 บาท 

พัดลมมินิมอล
  • Venz Rattan Tube Collection Sunrise

พัดลมหวายจาก Venz ดีไซน์สไตล์ Handcraft ซึ่งเป็นงานหัตถกรรม จากช่างฝีมือคนไทย เหมาะกับทั้งใช้งาน และ ตกแต่งบ้านและสวน โดยรุ่นนี้มีใบพัดขนาด 12 นิ้ว ที่ปรับแรงลมแบบ Dimmer แรงลมตั้งแต่ 950 -1,320 รอบต่อนาที และด้วยมาตรฐานของแบรนด์รุ่นนี้จึงมาพร้อมเทอร์โมสตัทตัดไฟเมื่ออุณหภูมิสูงเกิน 100 °c

ราคา: 5,400 บาท

ข้อดีของพัดลมตั้งพื้น ที่ทำให้จำเป็นต้องมีทุกบ้าน

พัดลมมินิมอล

สำหรับพัดลมตั้งพื้น ไม่ว่าจะเป็นพัดลมมินิมอล หรือ พัดลมตั้งพื้นแบบทั่ว ๆ ไป ข้อดีของพัดลมเหล่านี้คือ การกระจายลมเย็นไปเป็นบริเวณกว้าง และทั่วถึงพื้นที่ที่เราต้องการ เนื่องจากพัดลมเหล่านี้จะมาพร้อมฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งความสามารถในการปรับระดับความเย็น เลือกให้ส่ายหน้า หรือ ปล่อยลมตรงไปยังจดใดจุดหนึ่งได้ เครื่องย้ายได้สะดวกสบาย และที่สำคัญหากเป็น พัดลมมินิมอล18นิ้ว ก็จะเป็นขนาดที่ใหญ่พอสำหรับใช้งานนอกตัวอาคารได้ 

พัดลมมินิมอล

นอกจากนี้หากบ้านคุณเป็นบ้านที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว พัดลมแบบมินิมอล หรือพัดลมประเภทอื่น ๆ ยังเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เครื่องปรับอากาศของคุณทำงานไม่หนักเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากเมื่อเปิดพัดลมควบคู่กับเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้ห้องของคุณเย็นเร็วยิ่งขึ้น จึงทำให้คุณไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งคืน

ด้วย UFABET เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์เดิมพันที่ดีที่สุดโดยไม่ผ่านเอเย่นต์ สนุกไปกับเกมที่หลากหลายและมีความน่าเชื่อถือ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

Xiaomi 13 Series เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกล้องจาก Leica 

Xiaomi 13 Series

Xiaomi 13 Series มือถือซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากXiaomiที่เปิดตัวมาพร้อม 2 รุ่นย่อยได้แก่ Xiaomi13 และXiaomi 13Pro แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมสุดยอดกล้องหลักจาก Leica แบรนด์ผู้ผลิตกล้องระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเราเชื่อว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้อย่างแน่นอน

Xiaomi 13 Series กล้องหลัง Leica 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 50MP 

Xiaomi 13 Series

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าXiaomi 13Series เปิดตัวมาพร้อมรุ่นย่อยทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi13 และ Xiaomi13Pro ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสเปคของมือถือทั้ง 2 รุ่นว่าจะมีความน่าสนใจและจะมีความเทพขนาดไหน และเราขอมาเริ่มในส่วนของรุ่นเริ่มต้นของซีรีส์อย่าง Xiaomi13 กันก่อนเลย 

Xiaomi 13 Series

โดย Xiaomi 13 เป็นมือถือที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว FHD+ 1080 x 2400 อัตรารีเฟรชหน้าจอที่ 120Hz ความสว่างสูงสุด 1900 nits ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 RAM LPDDR5X 12GB และ ROM UFS 4.0 256GB อีกทั้งยังรองรับทั้งสัญญาณ 5G, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.3 และในส่วนของแบตเตอรี่ก็ให้มาใหญ่แบบจุใจถึง 4500mAh มีระบบเทอร์โบชาร์จแบบมีสาย 67W ที่สามารถชาร์จเต็ม 100% ใน 38 นาทีเทอร์โบชาร์จไร้สาย 50W และที่สำคัญยังสามารถชาร์จย้อนกลับแบบไร้สาย 10W จึงทำให้มือถือรุ่นนี้เป็นเหมือนเพาเวอร์แบงค์ไปในตัวได้อีกด้วย 

Xiaomi 13 Series

สุดท้ายสิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ “กล้อง” โดยกล้องหลังจาก Leica ให้มาทั้งหมด 3 เลนส์ด้วยกัน ได้แก่ กล้องหลัก 50MP, Telephoto 10MP และ Ultrawide 12MP โดยกล้องหลังสามารถบันทึกวิดีโอ HDR ด้วย Dolby Vision สูงสุด 4K@60fps หรือ 8K (7680×4320) ที่ 24fps ได้อีกด้วย ส่วนกล้องหน้าก็ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 32MP เลยทีเดียว

Xiaomi 13 Series

สำหรับ Xiaomi 13Pro ก็จัดสเปคมาให้สมกับการเป็นรุ่นโปรจริง ๆ โดย Xiaomi 13 Series5G รุ่นโปรจะมาพร้อมหน้าจอ AMOLED WQHD+ขนาด 6.73 นิ้ว 3200 x 1440 อัตรารีเฟรชหน้าจอแบบไดนามิกตั้งแต่ 1-120Hz การตอบสนองในการสัมผัสสูงสุด 240Hz ความสว่างสูงสุด 1900 nits ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 RAM LPDDR5X 12GB ROM UFS 4.0 512GB และในส่วนของแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุที่ 4820mAh มีระบบชาร์จเร็ว 120W ชาร์จเต็ม 100% ใน 24 นาที (โหมดมาตรฐาน) เทอร์โบชาร์จแบบไร้สาย 50W และการชาร์จย้อนกลับแบบไร้สาย 10W 

Xiaomi 13 Series

สำหรับกล้องหลังของรุ่นโปรก็จัดหนักไม่แพ้กัน โดยกล้องหลักมีขนาดใหญ่ 1 นิ้ว และเซนเซอร์ 1 นิ้ว ความละเอียด 50MP, กล้อง Telephoto ลอยตัว 50MP และ Ultrawide 50MP ซึ่งทั้งหมดก็มาจาก Leica เช่นกัน ซึ่งความพิเศษของกล้องรุ่นโปรคือจะมาพร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยให้ภาพถ่ายของคุณถ่ายออกมาได้สวยตลอดทุกช่วงเวลา และส่วนกล้องหน้าก็เป็นความละเอียดเดียวกับรุ่นเริ่มต้นคือ 32MP

มือถือกล้องไลก้า ราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ว

Xiaomi 13 Series

สำหรับ Xiaomi13Series ทั้ง 2 รุ่นที่เราพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ ถูกนำเข้ามาจำหน่ายผ่านตัวแทนและผู้นำเข้าอิสระแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย Xiaomi 13 seriesราคา เริ่มต้นที่ 29,990 บาท สำหรับ Xiaomi13 และ 39,990 บาท สำหรับXiaomi 13 Pro และที่สำคัญคือค่ายสัญญาณมือถือบางค่ายก็ได้มีการจัดจำหน่ายพร้อมราคาโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งในส่วนของราคาค่าเครื่องเมื่อเทียบกับราคาของมือถือกล้องไลก้ารุ่นอื่น ๆ จากXiaomi ที่เคยเปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ต้องขอบอกเลยว่าราคาน่ารักพอสมควร และแทบจะไม่แตกต่างหรือไม่โดดไปจากรุ่นก่อน ๆ มากเท่าไรนัก อีกทั้งรุ่นเริ่มต้นยังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ White, Black และ Flora Green ในขณะที่รุ่นโปรจะไม่มีสี Flora Green 

เรียนรู้เกมพนันไทยและความตื่นเต้นที่สุดกับ ไฮโลไทย ค้นพบพื้นฐานเกมพนันไฮโลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎของเกมและวิธีเล่นในหน้าเนื้อหานี้!

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

Xiaomi Book S แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.4 นิ้ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home

Xiaomi Book S

Xiaomi Book S แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากXiaomi โดยรุ่นนี้ถูกพัฒนามาให้มีสเปคที่ดีเยี่ยม พร้อมรองรับปากกาและคีย์บอร์ดอัจฉริยะ ซึ่งนับว่าเป็นเหมือนการยกระดับสินค้าให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคหลายกลุ่มมากยิ่งขึ้น 

Xiaomi Book S แท็บเล็ตสเปคเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น

หากใครที่เคยชมการเปิดตัว หรือ เคยใช้แท็บเล็ตจาก Xiaomi และ Redmi ก็คงจะทราบกันดีว่า แท็บเล็ตจากทั้ง 2 แบรนด์จะถูกพัฒนามาให้ตอบโจทย์กับการใช้เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้สำหรับการเล่นสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ เท่านั้น แต่ล่าสุดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา Xiaomi ก็ได้เปิดตัว Xiaomi BookS ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอใหญ่ขนาด 12.4 นิ้ว และถูกพัฒนามาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสาร, วาดภาพ หรือแม้แต่กระทั่ง การครีเอทชิ้นงานต่าง ๆ เป็นต้น 

Xiaomi Book S

โดยXiaomiBook S 12.4 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8cx Gen 2 Octa-core CPU GPU Qualcomm Adreno 680 ขนาด 7nm RAM 8 GB ความจุ 258 GB และมีหน้าจอ LED ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 (WQHD+) อัตรารีเฟรช 60Hz สัดส่วนภาพ 16:10 ความสว่างของหน้าจอ 500nits และ 10 point multi-touch 

Xiaomi Book S

นอกจากนี้ แท็บเล็ต Xiaomi มาพร้อม all – New Windows 11 ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับแล็ปท็อป 2-in-1 จึงทำให้คุณใช้คีย์บอร์ด แทร็คแพด และ Smart Pen ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีโหมดการใช้งานที่โดดเด่น 3 โหมด ได้แก่ Canvas Mode, Laptop Mode และ Tablet Mode จึงให้แท็บเล็ตรุ่นนี้ใช้งานได้อย่างหลากหลายแล้ว และประสบการณ์การใช้งานที่มากกว่าที่เคย

Xiaomi Book S

กล้องหลังความละเอียด 13MP และ กล้องหน้าสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p และ ไมโครโฟนคู่ที่รองรับ Qualcomm Aqstic ECNS (เทคโนโลยีตัดเสียงก้องและตัดเสียงรบกวน) จึงทำให้การประชุมผ่านวิดีโอของคุณจะดีขึ้นกว่าที่เคย อีกทั้งยังมาพร้อมลำโพงคู่ที่ให้เสียงสเตอริโอและประสบการณ์เสียงที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะอยู่ในการประชุมทางวิดีโอ ดูวิดีโอ หรือแค่ฟังเพลง เป็นต้น

Xiaomi BookS 12.4 ราคา 699.99 ยูโร ปัจจุบันยังไม่ถูกนำเข้าไทย

Xiaomi BookSปัจจุบันถูกว่าจำหน่ายในหลาย ๆ ประเทศในยุโรป โดยราคาเปิดตัวในปี 2022 อยู่ที่ 699.99 ยูโร หรือราว ๆ 25,725 บาท และสำหรับใครที่เป็นเจ้าของ miXiaomi book sและอยากใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพคุณจำเป็นที่จะต้องซื้อคีย์บอร์ด และ ปากกา โดยXiaomi BookS 12.4 Keyboard มีราคาอยู่ที่ 150 ยูโร หรือประมาณ 5,512 บาท และ XiaomiSmart Pen ราคา 100 ยูโร หรือประมาณ 3,675 บาท 

หากคุณสนใจเล่น บาคาร่า888 คุณสามารถเข้าสู่ระบบและสมัครสมาชิกได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ของบาคาร่า888 โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงเลือกที่จะเป็นสมาชิก กรอกข้อมูลส่วนตัว และฝากเงินเข้าบัญชีผ่านวิธีการที่รองรับ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

Realme C55 มือถือดีไซน์เรียบหรู ราคาหลักพัน

Realme C55

Realme C55 มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากRealmeที่มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรู ดูแพง พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง แต่เปิดตัวมาพร้อมราคาเพียงหลักพัน และที่สำคัญสเปคที่จัดให้กลับให้มาแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก พร้อมให้คุณใช้งานจึงทำให้มือถือรุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานหลาย ๆ ประเภท ดังนั้นวันนี้เราจึงนำข้อมูลเกี่ยวกับสเปคและการสั่งจองของมือถือรุ่นนี้มาฝากเพื่อน ๆ ที่อยากได้มือถือที่ทั้งถูกและดีไปไว้ใช้งานทุกคนแล้ว

สเปค Realme C55 มือถือที่มาพร้อม กล้อง AI 64MP

Realme C55

Realme C 55 มาพร้อมหน้าจอ FHD+ 1080×2400 ขนาด 6.72 นิ้ว อัตรารีเฟรช 90Hz Touch sampling rate 180Hz ความสว่างสูงสุดที่ 680 nits RAM 6GB/8GB ROM 128GB/256GB อีกทั้งยังรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 1TB (SSD) Realme C55สเปค ของชิป รุ่นนี้มาพร้อม MediaTek Helio G88 ซึ่งเป็นชิปรุ่นใหม่ที่ทาง MediaTek พึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาก CPU Octa-core, 12 นาโนเมตร, สูงถึง 2.0GHz และGPU ARM Mali-G52

Realme C55

Realme C55กล้อง ก็ให้มาแบบจัดเต็ม ทั้งกล้องหลัง 2 เลนส์ ได้แก่ กล้องหลัก 64MP และ B&W 2MP (กล้อง AI 3 เลนส์ 60MP) ที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080P@60fps และ 30fps หรือการถ่ายวิดีโอ 720p@60fps และ 30fpsอีกทั้งยังรองรับฟังก์ชันการถ่ายภาพ 14 โหมด ได้แก่ Photo, AI Beauty, Filter, AI Scene Recognition, Night Mode, Professional, Panoramic view, Portrait Mode, Street, HDR, 64MP Mode, Starry, Chroma Boost, Bokeh Flare Portrait และ AI Color Portrait

Realme C55

สำหรับกล้องหน้า หรือกล้องเซลฟี่เป็นกล้อง AI ความละเอียด 8MP ที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080P@30fps และ 720P@30fps อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพสูงสุดถึง 8 โหมด ได้แก่ Photo, Beauty, Filter, Night Mode, Panoramic view, Portrait Mode, HDR และ AI Scene Recognition ซึ่งโหมดการถ่ายภาพแต่ละโหมดก็สามารถทำออกมาได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว 

Realme C55

นอกจากนี้ในส่วนของแบตเตอรี่ RealmeC55 2023 ก็อึดสุด ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว SUPERVOOC 33W ที่ให้คุณสามารถชาร์จจนเต็มความจุ 100% ในเวลาเพียง 63 นาที หรือสามารถชาร์จไฟจาก 0-50% ได้ในเวลาเพียง 29 นาที และถึงแม้แบตเตอรี่จะขนาดใหญ่ถึง 500mAh แล้ว แต่ตัวเครื่องยังมีขนาดบางเพียง 7.89 มม. ที่สำคัญเมื่อคุณใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน Ultra SavingMode แม้แบตเตอรี่จะเหลือเพียง 5% คุณก็จะสามารถเปิดสมาร์ตโฟนเพื่อรอรับสาย (สแตนด์บาย) ต่อไปได้อีกนานสูงสุดถึง 32 ชั่วโมงเลยทีเดียว

Realme C 55 ราคา เริ่มต้นเพียง 5,999 บาท พร้อม 2 สีสุดพิเศษให้เลือก

Realme C55

สำหรับRealme C55 เปิดตัวมาพร้อม 2 สีให้เลือกได้แก่ สีทอง Sun shower และ สีดำ Rainy Night ที่จะมีลูกเล่นเมื่อมีแสงตกกระทบ จึงทำให้มือถือรุ่นนี้มีความโดดเด่น หรูหรา และไม่เหมือนใคร และสำหรับราคาRealme C55เปิดตัวมาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 5,999 บาท และ 7,299 บาทสำหรับRealme C55 256GB และสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของมือถือรุ่นนี้ก็สามารถสั่งจองได้จากหลากหลายช่องทาง หนึ่งในนั้นคือ Banana Shop และสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30 มีนาคม 2023 และทาง Banana จะเริ่มจัดส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2023 เป็นต้นไป และจะมีค่ามัดจำสินค้าที่ 500 บาทเท่านั้น ดังนั้นใครไม่อยากพลาดมือถือสเปคดี ๆ แบบนี้ไม่รีบไม่ได้แล้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

จอมอนิเตอร์ Samsung รุ่น Smart Monitor M8 Iconic Slim Design ดีไซน์มินิมอล จอใหญ่จุใจ

จอมอนิเตอร์ Samsung

จอมอนิเตอร์ Samsung นับว่าเป็นหน้าจอมอนิเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง เนื่องจาก Samsung พัฒนาหน้าจอออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนหลายกลุ่ม เช่น Monitor Ultra-Wide, Monitor High Resolution, จอคอมเกมมิ่ง หรือ จอคอมธุรกิจ เป็นต้น และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “Smart Monitor M8 Iconic Slim Design” หน้าจออัจฉริยะที่มาพร้อมสไตล์สุดมินิมอล เป็นได้ทั้งจอสำหรับทำงาน และ อุปกรณ์แต่ห้องสวย ๆ 

เปิดสเปคของ Smart Monitor M8 Iconic Slim Design จอมอนิเตอร์ Samsung

จอมอนิเตอร์ Samsung

จอมอนิเตอร์Samsung รุ่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้คือ Smart Monitor M8 Iconic Slim Design หน้าจอมอนิเตอร์อัจฉริยะ ที่มาพร้อมคุณสมบัติการใช้งานที่ดีเยี่ยม เนื่องจากจอรุ่นนี้นอกจากจะใช้สำหรับทำงานทั่ว ๆ ไป เช่น งานเอกสาร, แต่งภาพ, เล่นเกม และเป็น IoT Hub แล้ว Smart Monitor M8 ยังเป็นเหมือนสมาร์ททีวี ที่รวมเอาสิ่งเอนเตอร์เทนเมนท์ต่าง ๆ มาไว้ในจอนี้แบบครบ จบในที่เดียว

จอมอนิเตอร์ Samsung

โดยจอรุ่นนี้เป็น จอคอม Samsung 32 นิ้ว ที่มีความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 4K 3,840 x 2,160 HDR10 อัตราส่วนภาพ 16:9 อัตราส่วนความคมชัดคงที่ 3,000:1(Typ.) เวลาตอบสนอง 4 ms (GTG) อัตรารีเฟรชสูงสุดที่ 60Hz และ sRGB 99% ซึ่งความพิเศษของจอ M8 รุ่นนี้นอกจากจะมีสเปคของจอภาพที่น่าสนใจแล้ว ในส่วนของระบบปฏิบัติการก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยคุณจะใช้งานแบบที่เชื่อมต่อ PC หรือไม่ก็ได้ เนื่องจากจอรุ่นนี้ให้ Microsoft 356 และ มีเว็บเบราว์เซอร์มาให้ในตัว ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการทำงานเอกสารทั่วไป ก็สามารถทำงานบนจอนี้ได้เลย 

จอมอนิเตอร์ Samsung

หรือคุณจะเชื่อมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์อื่นอย่าง PC, Mac หรือ Samsung Dex เพื่อแสดงภาพขึ้นบนจอก็สามารถทำได้เช่นกัน และพิเศษสุดคือคุณสามารถชาร์จโน้ตบุ๊คผ่าน USB – C 65 วัตต์ได้ด้วย นั่นจึงหมายความว่าในขณะที่คุณเชื่อมต่อภาพของโน้ตบุ๊คขึ้นบนจอ จอภาพก็จะทำการชาร์จไฟไปยังโน้ตบุ๊คของคุณนั่นเอง สำหรับความเป็นสมาร์ททีวิของจอรุ่นนี้ก็แทบจะไม่ต้องพูดอะไรมาก เนื่องจากฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ให้มาบน M8 ก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากสมาร์ททีวี Samsung เลยทีเดียว อีกทั้งยังมาพร้อมรีโมทที่ให้คุณสามารถควบคุมการใช้งานต่าง ๆ ได้เหมือนสมาร์ททีวี รวมไปถึงการสั่งงานด้วยเสียง นอกจากนี้จอยังรองรับการเชื่องต่อ Bluetooth ดังนั้นคุณจึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

จอ monitor 4k Samsung ราคาปัจจุบันอยู่ที่หลักหมื่นต้น ๆ พร้อม 4 สีให้เลือก

จอมอนิเตอร์ Samsung

จอมอนิเตอร์ Samsungรุ่น Smart Monitor M8 Iconic Slim Design ที่เราพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ ถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา โดยเปิดตัวมาพร้อมราคา 23,990 บาท อีกทั้งยังมีสีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ Cloud Pink, Spring Green, Daylight Blue และ Warm Light ซึ่งปัจจุบันคุณสามารถสั่งซื้อ สมาร์ทมอนอเตอร์ รุ่นนี้ผ่าน Samsung Thailand โดยปัจจุบันลดราคาสูงสุด 7,000 บาท เหลือเพียง 16,990 บาทเท่านั้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

NAS ที่เก็บข้อมูลทุกที่จะทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่

NAS

NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลยุคใหม่ ที่จะทำให้คุณบันทึกและเข้าถึงข้อมูลของคุณได้จากทุกที่ โดยที่คุณไม่ต้องกังวลว่า Google Drive ของคุณจะเต็มอีกต่อไป เพราะ NAS จะเข้ามาเป็นตัวช่วยใหม่สำหรับคนที่ต้องเก็บข้อมูลสารสนเทศจำนวนมากจน Google Drive แบบฟรีอาจจะไม่เพียงพอ

แนะนำ NAS 3 รุ่นจาก Synology ที่เก็บข้อมูลได้เยอะแถมปลอดภัย

NAS

NASคืออะไร เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ได้ยินคำว่า “NAS” คงต้องเกิดคำถามนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ NASคือ เซิร์ฟเวอร์ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ที่ให้คุณสามารถบันทึกและเข้าถึงข้อมูลได้แบบออนไลน์ คล้ายกับ Google Drive แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือคุณสามารถมารถเพิ่มหรือลดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้ด้วยตัวเอง ซึ่งพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นจะเป็นการซื้อขาด และแน่นอนว่ามันคุ้มกว่าการเช่า

แนะนำ NAS 3 รุ่นจาก Synology ที่คุ้มค่า และราคาไม่แรง

  • DiskStation DS120j
NAS

NASรุ่นเริ่มต้นจาก Synology โดยนับว่าเป็นรุ่น ระบบNAS ในบ้าน เลยก็ว่าได้เนื่องจากฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ โดยรองรับสูงสุด 1 Bay พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 108 TB สามารถใช้งานได้สูงสุด 512 แอคเคาท์ 128 กลุ่ม Shared Folder สูงสุด 256 แชร์ ซิงค์ Shared Folder สูงสุด 2 ซิงค์ และรองรับทั้ง Google Chrome, Firefox, Microsoft Edge และ Safari

ราคา: เริ่มต้น 4,190 บาท 

  • DiskStation DS220j
NAS

NASที่เป็นเป็นฮับของสื่อภายในบ้าน ที่สามารถสตรีมเนื้อหาดิจิตอลทั้ง เพลง วิดีโอและภาพ ไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านของคุณ เช่น คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์มือถือ, Samsung TV, Apple TV, Google Chromecast และอุปกรณ์ DLNA เป็นต้น โดยรุ่นนี้รองรับสูงสุด 2 Bays พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 108 TB บัญชีผู้ใช้ภายในสูงสุด 1,024 แอคเคาท์ 256 กลุ่ม Shared Folder สูงสุด 256 แชร์ และซิงค์ Shared Folder สูงสุด 2 ซิงค์ 

ราคา: ราคาเริ่มต้น 6,790 บาท

  • DiskStation DS423+
NAS

NASSynology ที่เหมาะกับ Hom Office หรือบริษัทขนาดเล็ก โดยรุ่นนี้รองรับสูงสุด 4 Bays และสล็อตไดรฟ์ M.2 2 สล็อต (NVMe) พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 108 TB บัญชีผู้ใช้ภายในสูงสุด 2,048 แอคเคาท์ 256 กลุ่ม Shared Folder สูงสุด 512 แชร์ และ ซิงค์ Shared Folder สูงสุด 8 ซิงค์ 

ราคา: เริ่มต้นประมาณ 20,000 บาท 

ที่เก็บข้อมูลNAS เหมาะกับใคร? 

สำหรับNASนอกจากจะเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลที่คุณสามารถเชื่อมต่อการใช้งานกับอินเตอร์เน็ตได้แล้ว NASเก็บข้อมูล ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูล และตั้งค่าการแบ็คอัพข้อมูล หรือแม้แต่กระทั่งบางรุ่นยังมีพื้นที่สำหรับการเพิ่มสล็อตไดรฟ์เพื่อให้การอัปโหลดข้อมูลเร็วขึ้น ซึ่ NASจากแต่ละ แบรนด์มักจะมีการออกแบบและพัฒนาเพื่อให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการใช้งานในรูปแบบครอบครัว ออฟฟิศ สำนักงานเล็ก ๆ หรือแม้แต่กระทั่งระดับอุตสาหกรรม 

NAS

ซึ่งราคาของตัวเครื่องก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นNASจึงเหมาะกับคนทุกกลุ่มเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องบันทึกไฟล์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากทั้งไฟล์ภาพ เอกสาร และวิดีโอต่าง ๆ ซึ่งจะคุ้มค่ามากกว่าการเช่าพื้นที่การจัดเก็บอย่างไดรฟ์ หรือ Cloud เป็นต้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
แนะนำแอปฯ

Huawei Watch GT3 สมาร์วอทช์รุ่นปี 2021 จาก Huawei ที่ดีไซน์เท่ และดูดี 

Huawei Watch GT3

Huawei Watch GT3 สมาร์ทวอทช์จากHuaweiที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา โดยHuawei WatchGT3เปิดตัวทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Active Edition, Elegant Edition, Elegant Edition with Leather Strap และ Classic Jupiter ซึ่งเป็นรุ่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ด้วย 

Huawei Watch GT3 รุ่น Classic Jupiter สเปคเยี่ยม สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส

Huawei Watch GT3

Huawei Watch GT3รุ่น Classic Jupiter เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ หรือ ขนาด โดย HUAWEI WATCH GT 3 Classic Jupiter มีขนาดของตัวเรือนอยู่ที่ 46 มม. หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว คมชัดระดับ 466 x 466 HD ตัวเรือนด้านหน้าเป็นสแตนเลส สตีล ตัวเรือนด้านหลังเป็นพลาสติก และสายของรุ่นนี้เป็นสายหนัง สีน้ำตาล

Huawei Watch GT3

ขนาดของตัวเรือนที่ใหญ่ถึง 46 มม. จึงทำให้Huawei Watch GT 3 46 mm. มีแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยรุ่นนี้จะสามารถใช้งานได้งาน 14 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป และ 8 วันสำหรับการใช้งานหนัก และในส่วนของฟังก์ชันการใช้งาน และฟีเจอร์ต่าง ๆ สมาร์ทวอทช์หัวเว่ย GT3 ก็ให้มาอย่างครบครัน ทั้งโหมดสำหรับออกกำลังกายกว่า 100 โหมด, ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยระบบ HUAWEI TruSeen™ 5.0+ 8 โฟโตไดโอด, วัดค่า SpO2 ตลอดวัน, AI Running Coach, ระบบนำทาง Route Back, dual-band, รองรับระบบดาวเทียม GPS, Beidou, GLONASS, Galileo และ QZSS รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทวอทช์เข้ากับมือถือของคุณผ่าน Bluetooth เพื่อให้รับสาย หรือ วางสาย ด้วยสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ เป็นต้น

Huawei Watch GT 3 46mm Classic Edition ราคาปัจจุบันไปถึงหลักหมื่น

Huawei Watch GT3

สำหรับHuawei Watch GT 3 รุ่นที่เรานำมาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ในวันนี้ ปัจจุบันมีราคา 8,490 บาท โดยสามารถสั่งซื้อได้ง่าย ๆ จากหลายช่องทาง ทั้งบนออนไลน์ หน้าร้าน หรือตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ นอกจากนี้สำหรับคุณผู้ชายคนไหนที่อยากได้สมาร์ทวอทช์ที่มีดีไซน์สปอร์ตกว่ารุ่นดังกล่าว Huawei Watch GT3SE หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ตัวเรือน 46 มม. ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง โดยรุ่นดังกล่าวมีราคาเพียง 6,499 บาท อีกทั้งยังเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา 

Huawei Watch GT3

นอกจากนี้สำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังตามหาสมาร์ทวอทช์ไว้สวมใส่ในหลาย ๆ โอกาสเช่นนี้ ก็ไม่ต้องเสียใจไป เนื่องจากHuawei watch GT 3 ก็มีรุ่นที่เหมาะกับคุณผู้หญิงเช่นเดียวกัน โดยรุ่นดังกล่าวคือ Elegant Edition with Leather Strap (สายหนัง) ราคา 6,999 บาท และ Elegant Edition (Gold, สายสแตนเลส) ปัจจุบันยังมีราคาอยู่ที่ 9,490 บาทเท่านั้น และที่สำคัญทั้ง 2 รุ่นมีขนาดของตัวเรือนอยู่ที่ 42 มม. 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
แนะนำแอปฯ

มารู้จักกับ 5 แอปพรีเซนต์งาน ที่จะทำให้การพรีเซนต์ของคุณน่าสนใจมากขึ้น!

แอปพรีเซนต์งาน

การพรีเซนต์งานนับว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับทั้งการเรียนและการทำงานของทุก ๆ คนเลยก็ว่าได้ และหากย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา แอปพรีเซนต์งาน หรือโปรแกมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงหนีไม่พ้น Microsoft PowerPoint อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้ดีกับระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งนับว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่คนใช้คอมพิวเตอร์ PC และ โน้ตบุ๊ค เป็นต้น แต่ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 แอป พรีเซนต์งาน ที่จะช่วยให้ Presentation ของคุณดูดี น่าสนใจ และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

5 แอปพรีเซนต์งาน ใช้งานง่าย ลูกเล่นเยอะ

แอปพรีเซนต์งาน

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้ แอป พรีเซนต์งาน ดี ๆ ใช้งานง่าย ลูกเล่นเยอะ ไปไว้ใช้ทำงาน Presentation ดี ๆ ไว้นำเสนออาจารย์ ลูกค้า หรือหัวหน้างาน วันนี้เรามี 5 แอปนำเสนองาน มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว โดยแอปต่าง ๆ มีดังนี้

  • Canva
แอปพรีเซนต์งาน

สุดยอด แอปพลิเคชันพรีเซนต์งาน ที่ได้รับความนิยม และกำลังมาแรงที่สุดในชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้ โดย Canva มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายรวมไปถึงการทำ Presentation ที่นอกจากจะมีเทมเพลตสำเร็จรูปให้เลือกใช้หลากหลายแล้ว เรายังสามารถออกแบบเทมเพลตและสร้างสรรค์ชิ้นงานสุดพิเศษของคุณได้ด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือคุณสามารถแชร์ไอเดียการออกแบบชิ้นงานกับเพื่อน ๆ ของคุณแบบออนไลน์ได้อีกด้วย

  • Keynote
แอปพรีเซนต์งาน

แอปพรีเซนต์งาน iPad ที่ชาวไอแพด หรือเหล่าสาวก Apple ควรมีติดอุปกรณ์ไว้ทุกคน ซึ่งความน่าสนใจของแอปนี้คือคุณสามารถใส่ไอเดียของคุณบนชิ้นงานได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และที่สำคัญการนำเสนองานก็ถูกพัฒนามาให้แบบล้ำหน้าสุด ๆ หรือแม้กระทั่งการทำงานร่วมกับ PowerPoint ได้อย่างราบรื่นแม้จะมาจากคนละค่าย

  • PicsArt
แอปพรีเซนต์งาน

นอกจากจะเป็นแอปพลิเคชันแต่งรูปที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ แล้ว “PicsArt” ยังเป็นแอปพลิเคชั่นที่ทุกคนสามารถออกแบบชิ้นงาน Presentation ได้ด้วย ซึ่งใครที่อยากได้ Presentation ที่มีความเก๋ ทันสมัย ดูเป็นวัยรุ่น แอปพลิเคชันนี้เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง 

  • Google Slides
แอปพรีเซนต์งาน

เว็บแอปพลิเคชันที่มีรูปแบบการใช้งาน รวมไปถึงหน้าตาแอปที่คล้ายกับ PowerPoint ดังนั้นใครที่อยากใช้อุปกรณ์ที่ไม่รองรับ PowerPoint และต้องทำงานพรีเซนต์ Google Slides ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะยิ่งคุณเป็นคนที่มีพื้นฐานการใช้งาน PowerPoint เป็นทุนเดิมอยู่แล้วแอปนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

  • PowerPoint
แอปพรีเซนต์งาน

PowerPoint ถึงแม้ว่าเป็นโปรแกรมที่เปิดตัวมานานหลายหลายสิบปี แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมนำเสนองานที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งเวอร์ชันใหม่ ๆ ยังมีลูกเล่นหลากหลาย ใช้งานง่าย อีกทั้งยังเป็นโปรแกรมที่ปลอดภัยมากพอสมควร

สร้างสรรค์ชิ้นงานได้ง่าย ๆ จากบนสมาร์ทโฟน

แอปพรีเซนต์งาน

ปัจจุบันแอปพลิเคชันหรือโปรแกมต่าง ๆ มักจะมีการพัฒนามาเพื่อให้ใช้งานได้บนหลากหลายอุปกรณ์ รวมไปถึงสมาร์ทโฟน ซึ่งแอปพรีเซนต์งานก็นับว่าเป็นหนึ่งในนั้น และแอปทั้ง 5 แอปที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ก็สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนเช่นเดียวกัน และที่สำคัญก็มีหลาย ๆ แอปที่เป็น แอปพรีเซนต์งาน ออนไลน์ ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการและรูปแบบการทำงานของยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังตามหา โปรแกรม ช่วยพรีเซนต์งาน เพื่อใช้เบื้องต้นบนมือถือก็สามารถก็สามารถค้นหาเพื่อดาวน์โหลดได้เช่นเดียวกัน หรือใครที่ขี้เกียจตามหาก็สามารถค้นหา และดาวน์โหลด แอปต่าง ๆ ที่เราแนะนำทั้ง 5 แอปในวันนี้ก็ได้เช่นกัน 

อ่านบทความอื่นๆ:

HILO-88.COM
HILO-88.COM