สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
สอนใช้ แนะนำแอปฯ

วิธีสตรีมการเล่นเกม XBOX ONE บนแอพ TWITCH ที่เหล่านักสตรีมเมอร์ไม่ควรพลาด

TWITCH

ทุกวันนี้ต้องยอมรับเลยทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย นี่จึงเป็นสาเหตุทำให้บริการสตรีมมิ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแอพ TWITCH แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ฟรีที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด ช่วยทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถรับชมการสตรีมมิ่งสดผ่านอินเทอร์เน็ตหรือแอพได้ ปัจจุบันมีนักสตรีมเมอร์หลายคนได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จจากการสตรีมการเล่นวิดีโอเกมยอดนิยมบน TWITCH ไม่เพียงเท่านั้น TWITCH ยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถสตรีมการเล่นเกม XBOX ONE ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณสามารถดาวน์โหลดแอพ TWITCH ใน XBOX STORE ได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีสตรีมการเล่นเกม XBOX ONE บนแอพ TWITCH ที่ถูกต้อง 

TWITCH คืออะไร?

TWITCH

อ้างอิงรูปภาพ

อย่างที่หลายคนทราบกันดี TWITCH คือ แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดการเล่นเกมและการแข่งขัน E-SPORTS ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นทั่วโลกเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น TWITCH ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสตรีมวิดีโอสด ตั้งแต่การทำอาหาร การเล่นดนตรี และการพูดคุยถาม&ตอบ แต่อย่างไรก็ตาม การสตรีมการเล่นเกมก็ถือเป็นความสำคัญหลักของ TWITCH สำหรับคนทั่วไปหรือนักสตรีมเมอร์ที่มี XBOX ONE คุณสามารถสตรีมการเล่นเกม XBOX ONE บน TWITCH ได้ง่าย ๆ โดยทำตามวิธีการด้านล่างนี้ 

ดาวน์โหลด TWITCH และเปิดการใช้งาน XBOX

ก่อนที่คุณจะเริ่มสตรีมไปยัง TWITCH คุณจะต้องดาวน์โหลดแอพ TWITCH บน XBOX ONE ของคุณเสียก่อน โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  1. ไปที่แดชบอร์ดของ XBOX ONE แล้วใช้คอนโทรลเลอร์เพื่อไปยัง แท็บ MICROSOFT STORE ทางด้านซ้ายของหน้าจอ
TWITCH

อ้างอิงรูปภาพ

  1. ไปที่แถบที่มีข้อความ SEARCH จากนั้นกดปุ่ม A บนคอนโทรลเลอร์ของคุณ
  2. ใช้คอนโทรลเลอร์พิมพ์ “TWITCH” รอสักครู่แอพ TWITCH จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ จากนั้นเลือกแอพTWITCH แล้วกดปุ่ม A บนคอนโทรลเลอร์ของคุณ
  3. เลือก GET แล้วกดปุ่ม A อีกครั้ง แอพ TWITCH จะเริ่มทำการติดตั้งโดยอัตโนมัติ 

ปรับการตั้งค่าสำหรับการสตรีมมิ่ง

TWITCH

อ้างอิงรูปภาพ

หลังจากที่คุณได้ทำการดาวน์โหลดแอพ TWITCH เรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องทำการปรับการตั้งค่าการสตรีมของคุณ โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 

  1. เปิดแอพ TWITCH แล้วเลือก SIGN IN ที่เมนูด้านบน ป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบสำหรับบัญชี TWITCH ที่คุณต้องการสตรีม
  2. คุณจะได้รับรหัส 8 หลักที่คุณต้องป้อนเพื่อเชื่อมโยงคอนโซล XBOX ONE กับบัญชี TWITCH ไปที่ LOGIN และป้อนรหัสเพื่อเปิดใช้งานคอนโซลของคุณ
  3. กดปุ่ม XBOX บนคอนโทรลเลอร์ของคุณ และไปที่แท็บ PROFILE & SYSTEM ทางด้านขวา แล้วเลื่อนลงและเลือก SETTINGS
  4. จากนั้นเลือก ACCOUNT แล้วเลือก PRIVACY & ONLINE SAFETY 
  5. เลือก XBOX PRIVACY
  6. เลือก VIEW DETAILS & CUSTOMIZE
  7. เลือก ONLINE STATUS AND HISTORY
  8. ไปที่ OTHERS CAN SEE IF YOU’RE ONLINE ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือก EVERYBODY แล้วหรือไม่?
  9. กดปุ่ม B เพื่อย้อนกลับ จากนั้นเลือก GAME CONTENT
  10. เลื่อนไปทางขวาจนกว่าคุณจะเห็นแท็บ LIVE STREAM GAMEPLAY และตรวจดูให้แน่ใจว่าได้เลือก ALLOW ไว้แล้ว
  11. เลื่อนไปทางขวาอีกครั้งและตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณได้เลือก ALLOW ใน YOU CAN SHARE CONTENT MADE USING KINECT OR ANOTHER CAMERA แล้วหรือไม่ 

เริ่มถ่ายทอดสดการเล่นเกม XBOX ONE ของคุณ

TWITCH

อ้างอิงรูปภาพ

หลังจากที่คุณได้ทำการตั้งค่าสตรีมของ XBOX ONE ตามลำดับแล้ว ให้เสียบเว็บแคม USB เข้ากับคอนโซลของคุณ เพื่อทำการเริ่มต้นสตรีมเกม XBOX ONE โดยมีขั้นตอน ดังนี้ 

  1. กลับไปที่แอป TWITCH เลือก BROADCAST ที่เมนูด้านบน
  2. ด้านขวาของการตั้งค่าการออกอากาศของ TWITCH คุณสามารถปรับเปลี่ยนตัวเลือกต่าง ๆ ได้ เช่น ตำแหน่งกล้องไมโครโฟน และ ความละเอียดในการสตรีม
  3. ด้านซ้ายของการตั้งค่าการออกอากาศของ TWITCH ให้ป้อนชื่อ (ป้ายกำกับ) สำหรับการสตรีมของคุณในช่องและเลือก START STREAMING หรือ เริ่มการสตรีม
  4. เปิดเกมที่คุณต้องการสตรีม เมื่อคุณเริ่มเล่นเกม TWITCH ก็จะเริ่มถ่าย ทอดสดการเล่นเกมของคุณไปยังผู้ชมโดยอัตโนมัติ

facebook

เว็บ บา คา ร่า อันดับ 1

Categories
สอนใช้

วิธีเปลี่ยน อัตราการรีเฟรช ของจอภาพ PC เพื่อทำให้การรับชมวิดีโอและการเล่นเกมของคุณลื่นไหล ไม่มีสะดุด

อัตราการรีเฟรช

คุณเคยรู้สึกรำคาญทุกครั้งเวลาภาพหน้าจอการรับชมวิดีโอหรือการเล่นเกมไม่ลื่นไหล และภาพสะดุดบ่อย ๆ หรือไม่? หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธีแก้ไขปัญหาภาพหน้าจอ PC ไม่ลื่นไหล และสะดุดบ่อยด้วยการเปลี่ยน อัตราการรีเฟรช ของหน้าจอมาแนะนำทุกคน ซึ่งการที่ภาพหน้าจอไม่มีคุณภาพ หรือภาพกระตุกทุกครั้งเวลารับชมวิดีโอหรือเล่นเกม เป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยทั่วไปสาเหตุของปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย รวมถึงการปรับอัตราการรีเฟรชของหน้าจอที่ไม่สัมพันธ์กับจอแสดงผล ดังนั้นเราจึงมีวิธีการเปลี่ยนอัตราการรีเฟรชของจอภาพ เพื่อทำให้การรับชมวิดีโอและการเล่นเกมของคุณลื่นไหล และไม่มีสะดุดมีต่อไป 

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ อัตราการรีเฟรช ของหน้าจอ

อัตราการรีเฟรช

อ้างอิงรูปภาพ

คุณเคยสงสัยไหมว่าอัตราการรีเฟรชคืออะไร? อัตราการรีเฟรช คือ ความถี่ในการอัปเดตของการแสดงผลรูปภาพที่อยู่บนจอภาพ โดยอัตราการรีเฟรชของหน้าจอจะได้รับการวัดค่าในหน่วยเฮิร์ต (HZ) เช่น หากจอแสดงผลของคุณมีอัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 144HZ นั่นหมายความว่าจอภาพจะมีการรีเฟรช 144 ครั้งต่อวินาที 

ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอัตราการรีเฟรชมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้แอปพลิเคชันบนคอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานทั่วไป เนื่องจากจอคอมพิวเตอร์มีอัตราการรีเฟรชของหน้าจอที่ 60HZ ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับจอภาพหลายจอ ซึ่งค่านั้นเพียงพอที่จะไม่ทำให้ภาพเบลอหรือภาพกระตุก แต่หากค่าต่ำกว่า 60HZ คุณอาจจะเห็นว่าภาพบนหน้าจอกระตุก หรือเคลื่อนไหวติดขัดได้ 

สำหรับนักเล่นเกม หรือคนที่ต้องการรับชมวิดีโอความละเอียดสูง เราขอแนะนำให้ปรับค่าอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นไม่ต่ำกว่า REFRESH RATE 120HZ  เนื่องจากวิดีโอเกมหลายเกมจำเป็นต้องอาศัยภาพเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ดังนั้นจอแสดงผลคอมพิวเตอร์จึงควรได้รับการปรับค่าอัตราการรีเฟรชให้เหมาะสมสำหรับการเล่นเกม ยิ่งอัตราการรีเฟรชสูงยิ่งดี อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราการรีเฟรชนั้นขึ้นอยู่กับจอภาพหรือจอแสดงผลแล็ปท็อปของคุณ จอแสดงผลบางจอไม่ทำงานที่อัตราการรีเฟรชสูงสุดตามค่าเริ่มต้นได้ หากคุณต้องการเพิ่มอัตราการรีเฟรชสูงให้จอภาพใช้งานได้ คุณอาจต้องลดความละเอียดลงเพื่อให้ค่าอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นพร้อมใช้งาน 

วิธีการเปลี่ยนอัตราการรีเฟรชบนจอภาพ PC  

สำหรับคอมพิวเตอร์ PC คุณสามารถเปิดการตั้งค่าอัตราการรีเฟรชค่าใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับการ์ดจอ หรือจอแสดงผลแล็ปท็อป และความละเอียดที่คุณใช้อยู่ โดยวิธีการเปลี่ยน อัตราการรีเฟรชบน PC มีดังนี้ 

  1. คลิกไปที่ “SETTINGS”
อัตราการรีเฟรช

อ้างอิงรูปภาพ

  1. คลิก “SYSTEM” จากนั้นในเลือกแถบตัวเลือกด้านซ้ายให้คลิก “DISPLAY”
อัตราการรีเฟรช

อ้างอิงรูปภาพ

  1. คลิกลิงก์ “ADVANCED DISPLAY SETTINGS” จากนั้นหน้าจอจะปรากฏรายละเอียดเกี่ยวกับจอภาพของคุณ รวมทั้งอัตราการรีเฟรชที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน
  2. คลิกลิงก์ ” DISPLAY ADAPTER PROPERTIES FOR DISPLAY 1″
  3. หน้าจอจะปรากฏป๊อปอัปสำหรับการ์ดจอแสดงผลของคุณ ให้คลิกแท็บ “MONITOR” 
  4. สุดท้าย ในส่วนของการตั้งค่าจอภาพ คุณสามารถคลิกดรอปดาวน์อัตราการรีเฟรชหน้าจอ และเลือกอัตราการรีเฟรชอื่นได้ จากนั้นคลิก “OK” เพื่อบันทึกการตั้งค่านี้

อ่านเรื่อง >> facetime เสียเงินไหม

Categories
News

วิธีเปิดการใช้งานรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพบน iPhone ของคุณ เพื่อติดตามทุกกิจกรรมของแอพ

ระบบปฏิบัติการ

APPLE ถือเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้ามากที่สุด โดยในงาน WWDC 2021 APPLE ได้ประกาศอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15 บน iPhone พร้อมกับเปิดเผยฟีเจอร์รายงานความเป็นส่วนตัวของแอพที่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดของ APPLE คุณสมบัตินี้จะทำให้คุณสามารถติดตามทุกกิจกรรมของแอพที่เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณบน iPhone เช่น กล้อง ไมโครโฟน รายชื่อติดต่อ หรือตำแหน่งของคุณ แต่อย่างไรก็ตาม รายงานความเป็นส่วนตัวของแอพยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับ iOS 15 จนในที่สุด APPLE ได้เปิดตัวรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพใน iOS 15.2 ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ผู้ใช้ iPhone สามารถตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลของแอพต่าง ๆ ได้ และยังสามารถหยุดการติดตามของแอพเหล่านั้นได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันผู้ใช้ยังสามารถติดตามได้ว่าแอพ URL ใดบ้างที่ติดตามข้อมูลของคุณอยู่ตลอดเวลา 

วิธีเปิดการใช้งาน รายงานความเป็นส่วนตัว ของแอพบน iPhone ของคุณ

รู้หรือไม่? แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานในแต่ละวันบน iPhone ของคุณ อาจกำลังติดตามข้อมูลส่วนตัวของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงตำแหน่ง และม้วนฟิล์มของคุณ ดังนั้นหากคุณเป็นเจ้าของ iPhone 6s หรือ iPhone รุ่นใหม่ที่กว่า หลังจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็น iOS 15.2 แล้ว คุณสามารถเปิดการใช้งานรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพบน iPhone ของคุณได้ง่าย ๆ ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบและหยุดการติดตามของแอพต่าง ๆ เช่น FACEBOOK ,TWITTER ,INSTAGRAM หรือ TINDER ได้อย่างรวดเร็ว โดยคุณสามารถเปิดใช้งานรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพบน iPhone ของคุณได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ดังนี้

iOS 15

อ้างอิงรูปภาพ

  1. ไปที่ไอคอน “การตั้งค่า” แล้วเลือก “ความเป็นส่วนตัว”
  2. เลื่อนลงแล้วเลือก “รายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ”
  3. หากต้องการเปิดความเป็นส่วนตัวนี้ ให้แตะเปิดรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ
  4. หลังจากนั้นกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในภายหลัง เพื่อตรวจสอบรายการแอพที่รวมอยู่ในรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ
หยุดการติดตามของแอพ

อ้างอิงรูปภาพ

วิธีหยุดการติดตามของแอพต่าง ๆ รายงานความเป็นส่วนตัว

หากคุณตรวจสอบรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพแล้วพบว่าแอปพลิเคชันบน iPhone ของคุณได้รับการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกินไป คุณสามารถตั้งค่าความปลอดภัย iPhone ได้ง่าย ๆ  โดยการจัดการสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของแต่ละแอพบน iPhone และ iPad ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนอุปกรณ์ของคุณ เพื่ออนุญาต หรือไม่อนุญาตให้แอพเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ ด้วยขั้นตอน ดังนี้

  1. ไปที่ “การตั้งค่า” และเลือก “ความเป็นส่วนตัว”
  2. เลือก “การติดตาม”
  3. แตะปิดการอนุญาตของแอพที่คุณต้องการ โดยแตะปุ่มให้ไปอยู่ที่ด้านซ้าย
  4. หากคุณต้องการหยุดการขออนุญาตของแอพ ให้ทำการปิด “อนุญาตในแอพขอติดตาม” โดยแตะปุ่มให้ไปอยู่ที่ด้านซ้าย
วิธีเปิดการใช้งาน

อ้างอิงรูปภาพ

วิธีปิดใช้งานรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ

ความจริงฟีเจอร์รายงานความเป็นส่วนตัวของแอพจะรวบรวมและแสดงข้อมูลจากการใช้งานของแอพล่าสุด 7 วัน แต่หากคุณต้องการปิดใช้งานรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ คุณสามารถทำได้ทุกเมื่อ โดยมีขั้นตาม ดังนี้

  1. ไปที่ “การตั้งค่า” และแตะที่ “ความเป็นส่วนตัว”
  2. เลื่อนลงแล้วแตะ “รายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ”
  3. หลังจากนั้นให้แตะที่ “ปิดรายงานความเป็นส่วนตัวของแอพ” ที่ด้านล่าง

ติตามข่าวสารได้ที่นี้

บาคาร่า

Categories
News

ข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone 14 ที่กำลังจะเปิดตัวภายในปี 2022 พร้อมเผยรูปโฉมการออกแบบที่อาจเกิดขึ้น

iPhone 14

สำหรับเหล่าสาวก iPhone ทุกคนคงทราบกันดีว่าในทุก ๆ ปี APPLE จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เสมอ ในปี 2022 ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนที่ iPhone 14 จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัว

ในครั้งนี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของ APPLE มีรายงานว่า APPLE กำลังยกเลิก iPhone mini ขนาด 5.4 นิ้ว เนื่องจากเป็นรุ่นที่ไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากนัก APPLE เตรียม

วางแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่ iPhone ขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้เราคาดว่าจะได้

เห็น iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว, iPhone 14 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว, iPhone 14 Max ขนาด 6.7 นิ้ว และ iPhone 14 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว ภายในปี

นี้อย่างแน่นอน ไม่เพียงนั้นยังมีข่าวลือเกี่ยวกับวันวางจำหน่าย และการออกแบบ iPhone 14 ที่โฉบเฉี่ยวดูทันสมัยออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งคุณสามารถติดตามข่าวลือเหล่านี้ได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ข่าวลือ iPhone 14 กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

เราเชื่อว่าเหล่าสาวก iPhone หลายคนคงกำลังตั้งตารอการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของ iPhone 14 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งมีข่าวลือมากมายคาดการณ์ว่า  APPLE จะใช้ชิป SNAPDRAGON X65 ของ QUALCOMM ซึ่งเป็น

โมเด็ม 10 กิกะบิต 5G ตัวแรกที่มีความเร็วในการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นและการปรับปรุงการเชื่อมต่อให้ดีขึ้น ไอโฟน 14 ใหม่จะมีการออกแบบกล้องหลังใหม่โดย APPLE จะนำเสนอกล้องที่หนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการกระแทก

ของกล้องได้ เลนส์ แฟลช และเครื่องสแกน LiDAR อาจวางชิดกับกระจกด้านหลัง ซึ่งข่าวลือนี้มีแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ APPLE จะเปิดตัวเลนส์ซูม “PERISCOPE” ที่ช่วยให้ซูมออปติคอลได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมาในปี 2022 หรือ 2023 iPhone รุ่นต่าง ๆ จะได้รับกล้อง 48 ล้านพิกเซลและความสามารถในการบันทึกวิดีโอ 8K แต่ฟีเจอร์เหล่านี้อาจไม่มีใน iPhone 14 รุ่นมาตรฐาน

iPhone 14

อ้างอิงรูปภาพ

มีความเป็นไปได้ที่ iPhone รุ่นใหม่บางรุ่น เช่น iPhone 14 Pro Max อาจมีกรอบไทเทเนียม ตะแกรงลำโพงและไมโครโฟนที่ออกแบบใหม่ อีกทั้ง APPLE ยังสามารถใช้ระบบระบายความร้อนด้วยไอน้ำแบบใหม่ ซึ่งจะทำให้ iPhone เย็นลง เพื่อลดผลกระทบของชิปที่เร็วขึ้นและการเชื่อมต่อ 5G ไม่เพียงเท่านั้นยังมีข่าวลือว่า iPhone 14 รุ่นต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะใช้ชิป A15 แบบเดียวกับที่เปิดตัวใน iPhone 13 Series ในขณะที่ iPhone 14 Pro รุ่นต่าง ๆ จะได้รับชิป A16 ที่อัปเดตแล้ว

วันวางจำหน่าย iPhone 14 และราคาที่เป็นไปได้  

สำหรับข่าวลือเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายสำหรับ iPhone 14 ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่จากงานเปิดตัว iPhone ก่อนหน้านี้ เราคาดว่าจะเห็น iPhone

14 เปิดตัวในเดือนกันยายน 2022 และวางจำหน่าย iPhone 14 ถัดจากวันเปิดตัวประมาณ 10 วัน ส่วนเรื่องราคา iPhone 14 เราคาดว่า อาจจะตรง

กับ iPhone 13 ซึ่งเริ่มต้นที่ 29,900 บาทสำหรับ iPhone 13 รุ่นมาตรฐาน และ 38,900 บาท สำหรับ iPhone 13 Pro นอกจากนี้

LEAKSAPPLEPRO ซึ่งเป็นแหล่งข่าวรั่วไหลที่เชื่อถือได้ค่อนข้างสูงอ้างว่า iPhone 14 รุ่นสามในสี่รุ่นจะมีราคาที่สูงขึ้น

ข้อมูลการออกแบบiPhone 14รุ่นใหม่

iPhone 14

อ้างอิงรูปภาพ

มีข่าวลือว่า iPhone 14 รุ่นมาตรฐานจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ โดยการออกแบบ iPhone 14 จะมีลักษณะเหมือนกับ iPhone 13 มีรอยบากมาตรฐานพร้อมกับการชนของกล้องตัวเดียวกันที่ด้านหลังด้วยเลย์เอา

ต์กล้องในแนวทแยง  เราคาดว่า iPhone 14 จะมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว, iPhone 14 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว, iPhone 14

Max ขนาด 6.7 นิ้ว และ iPhone 14 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว ส่วนเรื่องสี iPhone 14 มีข่าวลือว่า iPhone 14 และ 14 Max จะวางจำหน่ายในสีดำ

สีขาว สีฟ้า สีแดง และสีม่วง ในขณะที่ ‌iPhone 14 Pro‌ และ ‌iPhone 14 Pro‌ Max จะมีสีกราไฟต์ สีทอง สีเงิน และสีม่วง โดยเฉดสีม่วงจะมีพื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สามารถเปลี่ยนสีได้ตามสภาพแสง

สนับสนุนโดย สมัครบาคาร่า

Categories
News

5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ปี 2022 ที่สายไอทีต้องอัปเดต

5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้น เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลาย ๆ อย่างก็ทำให้เราทึ่ง และแทบไม่เชื่อเลยว่าคนเราจะสามารถพัฒนาและทำให้เกิดขึ้นได้จริง และในปี 2022 นี้ เราได้นำ 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล มาอัปเดตให้กับทุกคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้สายไอทีให้ไม่พลาดข่าวสารดี ๆ แบบนี้

อัปเดต 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล 

สำหรับใครที่กำลังรอข้อมูลเกี่ยวกับ เทรนด์เทคโนโลยี วันนี้เว็บไซต์ของเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล มาอัปเดตให้กับทุกคนแล้ว โดยแต่ละเทรนด์ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งใกล้ตัวของเราเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือยังจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้งานที่มีเสถียรภาพในอนาคตอีกด้วย

(https://onestopitservices.konicaminolta.co.th/5-it-technology-trends-that-will-change-business-in-2022/

(https://th.jobsdb.com/th-th/articles/metaverse-คนไอทีควรรู้/

  • Metaverse หรือโลกเสมือน ที่เป็นการพัฒนาโลกจำลองขึ้น เพื่อให้เราสามารถท่องเที่ยว ติดต่อสื่อสาร และการช่วยเหลือประชาชน และทำให้เราสามารถพบปะผู้คนโดยที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้าน ซึ่งในสถานการณ์โควิท – 19 ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้เรารู้สึกว่า เทคโนโลยีโลกเสมือน จะสามารถเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของคนเราได้ในไม่ช้า
5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล

(https://medium.com/botnoi-classroom/ai-คืออะไร-สำคัญอย่างไร-จำเป็นแค่ไหน-24f4faa77513

  • เทคโนโลยี AI AI หรือ Artificial Intelligence นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2022 นี้ ระบบ AI ค่อนข้างจะเข้ามามีบทบาทอย่างเห็นได้ชัด แต่นักวิชาการหลายคนก็เริ่มมีความเป็นห่วงว่า AI อาจจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล
5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล

(https://www.matichon.co.th/sport/news_3075390

  • ความเติบโตของวงการ Esport อีสปอร์ต นับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปีนี้ที่คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 60,000 ล้านบาทเลยทีเดียว 
5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล

(https://workpointtoday.com/honda-e/

  • รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มตั้งแต่ปี 2021 จนมาถึงปีนี้ รถยนต์ไฟฟ้านับว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะนอกจากค่ายรถยนต์เบอร์ต้นจะหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% แล้วนั้น ยังเกินค่ายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่มีราคาย่อมเยาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก 

(https://www.martechthai.com/technology/what-is-web-3-and-marketing/

  • WEB 3.0 อินเตร์เน็คยุคที่ 3 (Web 3.0) เรียกว่าเป็นปีแห่งความเป็นอิสระในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตแบบที่ไม่ต้องมีตัวกลางมาคอยควบคุม ดังนั้นจึงทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตของเราไร้พรมแดนนั่นเอง

“เทคโนโลยี” สิ่งที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน

หากเราย้อนไปดูข้อมูลเทรนด์เทคโนโลยีของแต่ละปี และนำมาเปรียบเทียบกับ 5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล 

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้น หรือพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคนั้น ๆ จนทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพ เช่นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เราจำเป็นต้องกดอัปเดตอยู่เสมอเพื่อให้เราสามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยียังถูกพัฒนาขึ้นจากหลาย ๆ ปัจจัยเช่น เพื่อให้สามารถใช้พลังงานสะอาดได้ในอนาคต หรือเพื่อทางการแพทย์ เป็นต้น และที่สำคัญ เทคโนโลยีดิจิทัล ประโยชน์ ยังมีมากมายทำให้เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมต่าง ๆ เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน และน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

อ่านบทความ facetime เสียเงินไหม

บาคาร่า

HILO-88.COM
HILO-88.COM