สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
สอนใช้

AIS Play แอปดูหนังที่ดูฟรีก็ได้ สมัครแพ็กเกจก็เลิศ 

AIS Play

AIS Play แอปพลิเคชันดูหนัง อนิเมะ และคอนเทนต์ต่าง ๆ อีกมากมาย ที่มีทั้งในส่วนของคอนเทนต์ที่ให้ดูฟรีสำหรับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก และ คอนเทนต์พิเศษสำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ไม่ว่าคุณจะใช้เบอร์มือถือจากเครือข่ายใด ก็สามารถสมัครสมาชิกของAIS Playได้ 

วิธีเข้าใช้งาน และ สมัครสมาชิก AIS Play 

AIS Play

สำหรับใครที่อยากชมคอนเทนต์สนุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนัง, ละคร, ซีรีส์, อนิเมะ, กีฬา, ทีวีออนไลน์, อนิเมชั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถชมคนเทนต์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้ง่าย ๆ ผ่านAIS Play ที่สามารถชมได้จากทั้งบนแอปพลิเคชัน หรือ บนเว็บไซต์ โดยความพิเศษของเอไอเอส เพลย์ คือ คุณสามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ฟรี แบบที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก หรือไม่ต้องลงทะเบียน ซึ่ง วิธีดูais playฟรี ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณดาวน์โหลดแอปAIS Playหรือ เข้าเว็บไซต์เอไอเอส แล้วเลือก “เข้าใช้งานแบบไม่ลงทะเบียน” หรือเลือก “เข้าสู่ระบบ” แล้วระบุหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขอินเทอร์เน็ต 10 หลักเพื่อเข้าใช้บริการ จากนั้นกรองรหัส “OTP” จากนั้นก็สามารถเข้าชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้เลย ซึ่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จะเป็นคอนเทนต์ดูฟรี หรือ สำหรับสมาชิก ดังนั้นสำหรับใครที่สงสัยว่าais playฟรีไหม คำตอบคือ ดูฟรีแต่เฉพาะบางคอนเทนต์นั่นเอง 

สมัครAIS Playรายเดือน ราคาแพ็กเกจดีทั้งลูกค้าAIS และ ลูกค้าค่ายอื่น 

AIS Playเป็นแอปดูหนังที่ให้ทั้งลูกค้าเอไอเอสและ ลูกค้าจากค่ายอื่นซื้อแพ็กเกจเพื่อชมคอนเทนต์พรีเมียมของแอปได้ โดย สมัครais playค่ายอื่น หรือผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าAIS คุณสามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านแอป หรือ เว็บไซต์AIS Playโดยแพ็กเกจสำหรับลูกค้าทั่วไป หรือ ลูกค้าต่างค่าย มี 2 แพ็กเกจให้เลือก ได้แก่ “PlayPremium” ราคา 199 บาท/เดือน ฟรี Bein sport connect นาน 12 เดือน และแพ็กเกจ “PlayPremium Plus” ราคา 299 บาท/เดือน ฟรี Viu, WeTV, Bein sport connect และ AISKaraoke

AIS Play

สำหรับ ลูกค้า AIS ทั้งแบบรายเดือน เติมเงิน และ AIS ไฟเบอร์ จะมีแพ็กเกจให้เลือกมากกว่าลูกค้าต่างค่าย โดย สิทธิพิเศษลูกค้า AIS และ AIS ไฟเบอร์ สมัครครั้งแรกเพียง 19 บาท/เดือน (เฉพาะเดือนแรก) เดือนต่อไป 199 บาท/เดือน (ผู้ที่เคยรับสิทธิ์แล้ว 199 บาท/เดือน) และสำหรับลูกค้า AIS เติมเงิน 199 บาท/เดือน และทั้งหมดนี้ฟรี Bein sport connect

AIS Play

นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ 299 บาทให้เลือก โดย สมัครครั้งแรกเพียง 29 บาทเดือน (เฉพาะเดือนแรก) เดือนต่อไป 299 บาท/เดือน และ สำหรับลูกค้าAIS เติมเงิน 299 บาท/เดือน และลูกค้ารายเดือน และเติมเงินรับชมฟรี Disney+ Hotstar, Viu, WeTV, Bein sport connect และAIS Karaoke แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และที่สำคัญคือ คุณสามารถ ดูais play ผ่านทีวี ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป 

อ่านบทความอื่นๆ:

ผู้สนับสนุน: https://hilo-88.com/

Categories
News

Beovision Harmony รุ่น Oak Wood หน้าจอ 77 นิ้ว จากแบรนด์ Bang & Olufsen

Beovision Harmony

Beovision Harmony เป็นสมาร์ททีวีจากแบรนด์ Bang & Olufsen ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ของเดนมาร์กที่ออกแบบและผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง โทรทัศน์ และโทรศัพท์ ที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยสมาร์ททีวีรุ่นนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 แต่มาจนถึงปี 2023 นี้ เทคโนโลยีที่ทางแบรนด์นำมาใช้บนสมาร์ททีวีรุ่นนี้ยังนับว่าเป็นสมาร์ททีวีที่มีสเปคที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Beovision Harmony Oak Wood 77 หน้าจอความละเอียด 4K OLED

Beovision Harmony

Beovision Harmonyเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Grey Melangé 65, Dark Oak 65, Oak Wood 77, Light Oak 83 และ Light Oak 88 โดยรุ่นที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้คือ Beovision Harmony 77 ซึ่งจะเป็นรุ่นที่มีหน้าจอขนาด 77 นิ้ว โดยเป็นหน้าจอแบบ OLED ความละเอียดระดับ 4K OLED ที่เป็นจอแบบ Perfect black ให้มุมมองแบบ Wide viewing angle พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision IQ อัตราการตอบสนองในการเล่นเกม Bang & Olufsen Beovision Harmony เวลาตอบสนอง น้อยกว่า 1 ms. (มิลลิวินาที) และ Input lag 12.8 ms. VRR รองรับ G-sync และ FreeSync อีกทั้งยังมีโหมด HGiG เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม

Beovision Harmony

แน่นอนว่านอกจากคุณภาพของหน้าจอแล้ว คุณภาพของเสียงก็ให้มาแบบเต็มขั้น ในส่วนของระบบเสียงBeovision Harmony Oak Wood 77 มาพร้อมลำโพงสเตอริโอ 3 channel ที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ในตัว เครื่องขยายเสียง (Amplifier) ก็ให้มาแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็น ทวีตเตอร์กลาง 50 วัตต์ 1 ตัว, ไดรเวอร์ฟูลเรนจ์ 50 วัตต์ 2 ตัว และ เสียงกลาง/วูฟเฟอร์ 100 วัตต์ 3 ตัว อีกทั้งยังมีโมดูลเสียงเซอร์ราวด์ในตัว พร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อลำโพงไร้สายได้สูงสุด 8 ตัว 

Beovision Harmony

อีกทั้งยังมี Adaptive Bass Linearization ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ที่ตรวจสอบเสียงย่านความถี่ต่ำ ที่ส่งผลให้ได้เสียงเบสที่ปล่อยออกมานั้นแบบพอดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุด นอกจากนี้ในส่วนของย่านความถี่เสียงยังอยู่ที่ 29Hz – 22,000Hz ซึ่งเป็นความถี่ที่เรียกได้ว่าให้มาครบทุกย่านเสียงเลยทีเดียว

Beovision Harmony77 ราคา เริ่มต้นหลักแสนบาท พร้อมให้คุณคัสตอมได้เต็มที่

Beovision Harmony

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของแบรนด์ Bang & Olufsen นอกจากจะเป็นแบรนด์ไฮเอน และสินค้าของแบรนด์ล้วนมีคุณภาพแล้ว สินค้าหลาย ๆ ชิ้นของแบรนด์ยังสามารถเลือกคัสตอม หรือออกแบบให้ตรงกับความชอบหรือตามสไตล์ของคุณได้เหมือนกับเราเลือกซื้อสถสปอร์ทสุดหรูอย่างไรอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ สำหรับBeovisionHarmonyก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อคุณเลือกที่จะเป็นเจ้าของสุดยอดสมาร์ททีวีรุ่นนี้คุณจึงยังสามารถเลือกดีไซน์ของทีวีของคุณได้ด้วย โดย Beovision Harmonyprice (ราคา) เริ่มต้นที่ $23,575 หรือราว ๆ 794,241.75 บาท สำหรับรุ่น Oak Wood 77 นิ้ว 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

IdeaPad Slim 1i โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000 เหมาะกับงานเอกสาร และเรียนออนไลน์ 

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังตามหา โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000 ไว้ทำงานเบื่องต้น เช่น งานเอกสาร เรียนออนไลน์ หรือ ดูสื่อความบันเทิงต่าง ๆ IdeaPad Slim 1i เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรุ่นนี้มีราคาที่ไม่แรก หน้าจอใหญ่ น้ำหนักเบา และที่สำคัญคือสเปคโดยรวมยังค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000 IdeaPad Slim 1i หน้าจอ 14 นิ้ว น้ำหนักเบา 1.4 กิโลกรัม

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000

โน๊ตบุ๊ค ราคาไม่เกิน 15,000 รุ่นที่เราอยากแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จักกันในวันนี้คือ IdeaPad Slim 1i รุ่นปี 2022 ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel Pentium Sliver N5030 Ram 8GB ความจุ 256 GB SSD GPU Integrated Intel UHD Graphics 605 และมาพร้อมหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความชัดระดับ FHD (1920 x 1080), TN, Anti-Glare และความสว่างของหน้าจอ 220 Nits ซึ่งแสงหน้าจอในระดับนี้อาจจะไม่เหมาะกับการนั่งทำงานนอกตัวอาคารสักเท่าไร อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน15,000ปี 2023 รุ่นนี้มีน้ำหนักรวมเริ่มต้นที่ 1.4 กิโลกรัม ขนาด (สูง x กว้าง x หนา) 17.9 มม. x 325.3 มม. x 216.5 มม. จึงทำให้สามารถพกพาได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น มีกล้องความชัดระดับ HD 720p พร้อม PrivacyShutter (ปิดเว็บแคมเพื่อความเป็นส่วนตัว) ติดตั้งลำโพง 1.5W จำนวน 2 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Audio™ และไมโครโฟนแบบ Dual-Array มาให้ในตัว พอร์ตเชื่อมต่อ IdeaPad Slim 1i 14 Gen 7 ก็ให้มาอย่างครบครัน ได้แก่ USB-C 3.2 Gen 1, USB-A 3.2 Gen 1, USB-A 2.0, HDMI, ตัวอ่านการ์ด SD และ ช่องเสียบหูฟัง/ไมค์แบบคอมโบ อย่างละ 1 พอร์ต พร้อมรองรับกาเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth®5 

Lenovo งบ 15,000 มีทอน พร้อมโปรโมชั่นลดเพียบ

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน15,000 รุ่น Lenovo IdeaPad Slim 1i หน้าจอ 14 นิ้ว Gen 7 รุ่นนี้ เปิดตัวมาพร้อมราคา 14,044.97 บาท แต่ในปัจจุบัน Lenovo จัดโปรโมชั่นลดราคาโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้สูงสุด 4% เหลือเพียง 13,420 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังมีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ได้แก่ Cloud Grey, Abyss Blue และSand

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15,000

นอกจากนี้สำหรับใครที่สู้ราคาได้อีกเล็กน้อย Lenovo IDEAPAD Slim 1 เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่เราอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง โดยรุ่นดังกล่าวจะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 15 นิ้ว ความชัดระดับ Full HD คีย์บอร์ดมี Number Pad มีให้ในตัว ที่สำคัญคือมาพร้อมหน่วยประมวลผล Ryzen 3 7320U ที่จะทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณแรงขึ้นไปอีกขั้น Ram 8GB และ SSD 256GB จึงทำให้สามารถใช้สำหรับการทำงานที่หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 15,190 บาท 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

Garmin Lily สมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวย เหมาะกับคุณผู้หญิงทุกคน

Garmin Lily

Garminเป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่ผลิตสินค้าคุณภาพออกมาหลายชนิด ซึ่งสมาร์ทวอทช์นับว่าเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงและทำให้หลาย ๆ คนรู้จักแบรนด์การ์มินไปทั่วโลก รวมถึงเมืองไทย เนื่องจากสมาร์ทวอทช์จากการ์มินนั้นถูกผลิตออกมาให้เลือกหลายรุ่น หลายแบบ และที่สำคัญคือยังเป็นขวัญใจของนักกีฬาหลายคนอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราอยากมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ Garmin Lily สมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวย ที่เหมาะกับคุณผู้หญิงทุกคน

Garmin Lily ที่มีดีไซน์ให้เลือกแบบทั้ง Classic และ Sport มีฟีเจอร์สำหรับคุณผู้หญิงเพียบ

Garmin Lily

Garmin Lilyนับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ทางการ์มินออกแบบมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยGarmin Lilyรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่ Garmin lily sport และ Classic ซึ่งเป็นหน้าจอ LCD ขนาด 34.5 มม. ซึ่งหุ้มด้วย Corning Gorilla Glass 3 ที่มีความแข็งแรงทนทาน สายรุ่น Sport เป็นสายซิลิโคน และรุ่น Classic เป็นสายหนัง

Garmin Lily

ทั้งหมดตัวเรือนเป็นวัสดุผสมโพลิเมอร์เสริมแรงเส้นใย และ กรอบเป็นอลูมิเนียมอโนไดซ์ น้ำหนัก 24 กรัม นอกจากนี้การควบคุมทั้งหมดจะต้องควบคุมผ่านการแตะหน้าจอเท่านั้น เนื่องจากสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้จะไม่มีเม็ดมะยมที่จะติดตั้งอยู่ที่ข้างตัวเรือนเหมือนสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่น ๆ ที่เคยมีมา รวมถึงสมาร์ทวอทช์จาก Garmin เช่นเดียวกัน 

Garmin Lily

Garmin lilyseries ยังมาพร้อมฟีเจอร์และฟังก์ชันการใช้งานสำหรับคุณผู้หญิงแบบครบครัน เช่น การติดตามรอบเดือน, ติดตามการตั้งครรภ์ และ คุณสมบัติความปลอดภัยและการติดตามต่าง ๆ เป็นต้น หรือฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพ Garminก็จัดหนักตามฉบับของแบรนด์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เชื่อมต่อ GPS, แอปกีฬามีในตัว, วัดอัตราการเต้นหัวใจจากข้อมือ, รวมเวลาออกกำลังกาย, ติดตามวัดความเครียดตลอดทั้งวัน, VO2 Max, ติดตามการหายใจ, การตรวจจับรูปแบบการนอนหลับขั้นสูง หรือ การติดตามภาวะขาดน้ำ เป็นต้น และที่สำคัญแบตเตอรี่ของรุ่นนี้สามารถอยู่ได้ยาวนานถึง 5 วันแบบที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จวันต่อวันเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถซิงค์ข้อมูลกับGarmin Connect ได้อีกด้วย 

Garmin Lilyราคาปี 2023 ลดสูงสุด 35% ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2023 เท่านั้น 

Garmin Lily

GarminLily สำหรับรุ่น Sport จะมีให้สีตัวเรือนเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ CreamGold (White), RoseGold และ MidnightOrchid และราคาเพียง 6,790 บาทเท่านั้น ส่วนGarminLily Classic ก็มีสีตัวเรือนให้เลือกทั้งหมด 3 สีเช่นเดียวกัน ได้แก่ LightGold, DarkBronze และ CreamGold (Black) โดยมีราคาเพียง 8,490 บาท และสำหรับโปรโมชั่นต้อนรับปีใหม่ Garminลดราคา GarminLilyรุ่น Classic สูงสุด 35% จาก 8,490 บาท เหลือเพียง 6,792 บาท โดยโปรโมชั่นนี้ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2023 นี้เท่านั้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

ชาวไทยเตรียมพบกับ OPPO Reno8 T 9 กุมภาพันธ์ นี้

OPPO Reno8 T

OPPOแบรนด์สมาร์ทโฟน และผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสัญชาติจีน ที่จับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ด้วยสมาร์ทโฟนคุณภาพดีแต่ราคาไม่สูงจนเกินไป และล่าสุดกับการเปิดตัว OPPO Reno8 T ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนประเทศไทยเราก็ไม่น้อยหน้า เพราะชาวไทยเตรียมพบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากOPPOในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2023 ที่จะถึงนี้ ซึ่งสเปคของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะน่าสนใจขนาดไหน วันนี้เว็บไซต์ของเราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของมือถือรุ่นนี้มาฝากทุกคนแล้ว 

OPPO Reno8 T กล้องหลักพอร์ตเทรดสวย 108MP ชาร์จไว 67W

OPPO Reno8 T

OPPO Reno8 Tสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 6nm. ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว และลื่นไหล RAM 8GB ที่ให้คุณขยายเพิ่มได้สูงสุดอีก 8GB ยิ่งไปกว่านั้น ROM 128GB และ 256GB หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ขอบด้านล่างบางเพียง 2.32 มม. อัตราการรีเฟรช 120Hz สายเกมเล่นเกมได้ฟินอย่างแน่นอน และ ความสว่างสูงสุดในไทย 950nits เลยทีเดียว

OPPO Reno8 T

ในส่วนของกล้องให้มาทั้งหมด 3 เลนส์ ได้แก่ กล้องพอร์ตเทรตความละเอียด 108MP, กล้อง Depth ความละเอียด 2MP และ กล้อง Microlens 40x และกล้องหน้า ความละเอียด 32MP ซึ่งกล้องพอร์ตเทรตความละเอียด 108MP ยังนับว่าเป็นครั้งแรกของ OPPO ที่มีกล้องหลักคมชัด 108MP ซึ่งนับว่าเป็นตัวชูโรงของมือถือรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ 

OPPO Reno8 T

OPPO Reno8T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 4,800mAh ด้วยนวัตกรรมการควบคุมกระแสไฟฟ้าและการชาร์จจึงรอบการชาร์จสูงสุด 1,600 ครั้ง และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC โดย 44 นาที ชาร์จได้ 100% หรือ 5 นาที สามารถโทรได้ 5.5 ชั่วโมง อีกทั้งยังมาพร้อมลำโพงคู่ Ultra-linear รวมไปถึงโหมด Ultra Volume ในระดับเสียง 200% ให้คุณเพลิดเพลินกับการดูหนัง หรือ สื่อความบันเทิงต่าง ๆ ด้วยคุณภาพเสียงที่ระดับเทพ และทั้งหมดทั้งมวลนี้ผ่านการทดลองแล้วว่าReno8 T 5G สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 48 เดือน หรือ 4 ปี ได้อย่างราบรื่น และไม่อึดลงเลย

OPPO Reno8 T5Gราคา ในไทยเริ่มต้นประมาณ 13,990 บาท

OPPO Reno8 T

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเป็นเจ้าของOPPO Reno8 T วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2023 นี้เจอกันอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะไปถึงวันนั้น เรามาเตรียมกระเป๋าเงินของเราให้พร้อมกันก่อน โดย Reno8 T 5G ราคา เปิดตัวที่เวียดนามเริ่มต้นที่ประมาณ 11,899 บาท แต่สำหรับในเมืองไทย รุ่น RAM 128GB มีราคาเริ่มต้นประมาณ 13,990 บาท ส่วนรุ่น RAM 256GB น่าจะมีราคาประมาณ 15,900 บาท อีกทั้งยังมีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สีได้แก่ สีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black ซึ่งคุณสามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้แล้ววันนี้

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

3 หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 คุณภาพเสียงดี มีระบบตัดเสียงรบกวน

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังรอรีวิว หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 วันนี้เว็บไซต์ของเราได้รวบรวม 5 หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ฉบับปี 2023 ที่จะรวบรวมหูฟังแบรนด์ดัง คุณภาพดี ฟังก์ชันการใช้งานเพียบ ซึ่งจะมีรุ่นไหน แบรนด์ใดบ้างนั้น เราไปดูพร้อมกันเลย

รวม 3 หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023 แบรนด์ดัง ราคาดี แบตเตอรี่ทนทาน

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

ช่วงต้นปีแบบนี้ นอกจากแฟชั่นต่าง ๆ ที่ทุกคนต้องอัปเดตแล้ว แกดเจ็ตคู่กายอย่าง หูฟังไร้สาย ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เราต้องอัปเดตเช่นกัน และวันนี้เรามี 3 หูฟังไร้สายยี่ห้อไหนดี 2023 มาแนะนำเพื่อน ๆ ทุกคนที่กำลังอยากได้หูฟังเทพ ๆ รุ่นใหม่ล่าสุดมาไว้ใช้งาน หรือเป็นพร็อพสวย ๆ เพื่อให้คอมพลีทลุค 

OPPO Enco X2

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO ที่มาพร้อมเทคโนโลยี LHDC 4.0 โฉมใหม่ จึงทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพของเสียงที่ดีกว่าเดิม ซึ่งคุณภาพเสียง LHDC 4.0 จะดีกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 3 เท่า อีกทั้งหูฟังยังถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์จึงทำไซซ์ของหูฟังมีขนาดที่พอดีกับหูของผู้สวมใส่ และที่สำคัญยังสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ผ่านหูฟัง เช่น กด 2 ครั้ง เพื่อหยุดเพลงชั่วคราว 

จุดเด่น 

  • มีระบบป้องกันเสียงรบกวน และลดเสียงแรงลม
  • Bluetooth 5.2 Chip
  • ใช้งานนานต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง 
  • ชาร์จเร็วเพียง 5 นาที สามารถฟังเพลงได้นาน 2 ชั่วโมง
  • กันน้ำกันฝุ่นได้ถึงระดับ IP54
  • รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
  • ราคา 5,999 บาท

Galaxy Buds2 Pro 

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

หูฟังไร้สาย 2023 ที่มาพร้อมระบบเสียง Hi-Fi 24 Bits จึงให้เสียงที่ได้มีความเที่ยงตรงและมีคุณภาพดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความพอดี และการสวมใส่ที่ให้ความรู้สึกสบาย พร้อมเสียง 360 องศาที่ทำให้คุณเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง

จุดเด่น

  • มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Bluetooth v5.3
  • กันน้ำระดับ IPX7
  • ความจุแบตเตอรี่ 61 mAh
  • ความจุแบตเตอรี่เคส 515 mAh
  • สามารถใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมง
  • ราคา 6,990 บาท

Bose QuietComfort Earbuds II True Wireless

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

หากคุณค้นหา หูฟังยี่ห้อไหนดี Bose คงต้องเป็นหนึ่งแบรนด์ที่ต้องติดอันดับอย่างแน่นอน โดยหูฟังไร้สาย Bose รุ่นนี้มีการพัฒนาดีไซน์ให้มีขนาดเล็กลงกว่าเจนแรก 30% พร้อมจุกหูฟัง 3 แบบที่ให้คุณสามารถเลือกใช้ให้เข้ากับสรีระหูของคุณ พร้อมเทคโนโลยี CustomTune ที่ช่วยปรับเสียงให้เหมาะสมกับช่องหูของคุณอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีคุณภาพเสียงระดับเทพตามฉบับของ Bose 

จุดเด่น

  • มีระบบตัดเสียงรบกวน
  • Bluetooth 5.3
  • กันน้ำระดับ IPX4
  • รองรับการจับคู่พร้อมกันสูงสุด 6 อุปกรณ์
  • แบตเตอรี่ 6 ชั่วโมง รวมเคสชาร์จเป็น 24 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จ 20 นาที ฟังได้ต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง
  • ราคา 10,990 บาท 

คุณสมบัติการกันน้ำ คุณสมบัติที่หูฟังไร้สายควรมี 

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี2023 ทั้ง 3 รุ่นที่เรานำมาฝากในวันนี้ เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็น หูฟังปี 2022 แต่นับว่าเป็นหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดของแต่ละแบรนด์ ซึ่งในเรื่องของเทคโนโลยี และฟังก์ชันต่าง ๆ ของหูฟังก็ถือว่าอัปเดตมามากพอสมควรเมื่อเทียบกันรุ่นอื่น ๆ 

หูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2023

นอกจากนี้ ก่อนจะจากกันในวันนี้เราอยากแนะนำในเรื่องของคุณสมบัติของหูฟังไร้สายว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้าง ซึ่งควรเลือกหูฟังที่มีมาตรฐานกันน้ำ และฝุ่น เนื่องจาก หูฟังไร้สายกันน้ำ และฝุ่น จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถใช้งานหูฟังได้กับหลายกิจกรรมมากยิ่งขึ้น เช่นการออกกำลังกาย หรือ การทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถสวมใส่หูฟังไปพร้อมกับการทำกิจกรรมได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องกังวลและที่สำคัญบางรุ่นยังสามารถสวมใส่ในการว่ายน้ำได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
วิธีดูแลรักษา

3 ไอเทมจัดโต๊ะคอม ที่คนรักการจัดโต๊ะต้องมี

ไอเทมจัดโต๊ะคอม

การจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ หรือ โต๊ะทำงาน นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่นอกจากจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ที่สำคัญ ไอเทมจัดโต๊ะคอม บางชิ้นยังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าระหว่างทำงาน ดังนั้นวันนี้เราจึงมี 3 ไอเทมสำหรับจัดโต๊ะคอมมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนที่รักการจัดโต๊ะเป็นชีวิตจิตใจ

จัดอันดับ 3 ไอเทมจัดโต๊ะคอม ที่ทั้งถูก และดีต่อสุขภาพ

สำหรับใครที่กำลังตามหาไอเทมจัดโต๊ะคอมที่ทั้งถูก และดี ดังนั้นวันนี้เราจึงได้จัดอันดับ 3 ไอเทมสำหรับจัดโต๊ะคอม ให้ทุกคนสามารถใช้ไปเป็นแนวทาง หรือ ไอเดียจัดโต๊ะคอม 

  •  DreamDesk KeyBoard Wrist Rest
ไอเทมจัดโต๊ะคอม

ไม้รองข้อมือ เหมาะสำหรับคนที่ใช้คีย์บอร์ดที่มีความหนา จนทำให้เราจำเป็นต้องยกข้อมือสูง ซึ่งอาจจะขัดกับสรีระของเรา ดังนั้นการใช้ไม้รองข้อมือ หรือที่รองข้อมือจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี อีกทั้งรุ่นนี้ยังทำมาจากไม้ สีสวย เหมาะกับการนำมาเป็นทั้งอุปกรณ์ลดอาการปวดข้อมือ และ บ่าไหล่ แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งไอเทมจัดโต๊ะคอมที่สวยเป็นอย่างยิ่ง

ราคา: 1,500 บาท

  • ModernEgo Aluminum Book & Laptop Stand
ไอเทมจัดโต๊ะคอม

ที่วางโน๊ตบุ๊คที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้งานโน๊ตบุ๊คแทนคอมพิวเตอร์ และมีการเชื่อต่าอุปกรณ์อื่น ๆ เข้าไป เช่นเมาส์ และ คีย์บอร์ด โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับระดับของโน๊ตบุ๊คได้มาที่คุณต้องการ อีกทั้งยังมีดีไซน์เรียบ หรู ดูดี และแข็งแรงทนทาน ดังนั้นซื้อครั้งเดียวก็สามารถใช้งานไปได้ยาว ๆ เลย แต่ทั้งนี้ในเรื่องของน้ำหนัก อุปกรณ์ชิ้นนี้ค่อนข้างจะมีน้ำหนักพอสมควร ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการพกพาสักเท่าไร 

ราคา: 2,290 บาท

  • Master & Dynamic MP1000
ไอเทมจัดโต๊ะคอม

สำหรับใครที่ใช้หูฟังแบบ Head Phone หนึ่งปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ใช้หูฟังแบบนี้คือการหาที่สำหรับวางหูฟัง ซึ่งค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่ต้องการ จัดโต๊ะคอม พื้นที่น้อย เป็นอย่างยิ่ง โดยรุ่นนี้มีดีไซน์ที่เรียบ หรู ดูไม่เทอะทะ อีกทั้งยังเหมาะกับการนำมาวางเป็นของประดับโต๊ะอีกด้วย

ราคา: 1,990 บาท

ไอเดียจัดโต๊ะคอม ได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจัดโต๊ะทำงาน หรือ โต๊ะคอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีไอเดียในการจัดโต๊ะ หรือยังหา ไอเทม จัดโต๊ะคอม ยังไม่ได้ วันนี้เราจึงอยากแนะนำไอเดียในการจัดโต๊ะคอม หรือ โต๊ะทำงานง่าย ๆ เพื่อให้ได้สไตล์ที่คุณชอบมาฝาก 

ไอเทมจัดโต๊ะคอม

โดยขั้นตอนแรก เราอยากให้คุณสำรวจว่าคุณชื่นชอบ หรือต้องการการจัดโต๊ะคอม หรือ โต๊ะทำงานในสไตล์ใด เช่น จัดโต๊ะคอม มินิมอล หรือ จัดโต๊ะคอม ฮวงจุ้ย เป็นต้น เนื่องจากการที่สำรวจความความชอบของตัวเองให้ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถซื้ออุปกรณ์ในการแต่งโต๊ะได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้งบประมาณไม่บานปลายอีกด้วย 

ไอเทมจัดโต๊ะคอม

จากนั้นให้คุณเริ่มวางแผน โดยควรเริ่มจากการวัดขนาดของพื้นที่สำหรับวางโต๊ะ หรือ ขนาดของโต๊ะทำงานก่อนว่ามีขนาดเท่าไร เพื่อให้คุณสามารถวางแผนในขั้นตอนต่อไปได้ว่า บนโต๊ะทำงานของเราสามารถวางอุปกรณ์เสริม หรืออุปกรณ์ตกแต่งได้ทั้งหมดกี่ชิ้น และแต่ละชิ้นควรมีขนาดเท่าไรบ้าง เพื่อที่จะทำให้เอาสามารถวางของตกแต่งได้พอดีสวยเป๊ะ และไม่รกจนเกินไป และได้สไตล์ของโต๊ะทำงานตรงตามใจของเราอีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

HILO-88.COM
HILO-88.COM