สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
Featured News

ที่สุดแห่งนวัตกรรม กับ Huawei Mate XS 2 มือถือพับได้ใหม่ล่าสุดจาก Huawei

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับัวเหว่ย Mate XS 2 ที่สุดแห่งนวัตกรรมจาก Huawei เนื่องจากในปัจจุบันสมาร์ทโฟนถือว่าเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนในการทำงาน ดังนั้นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่จึงค่อนข้างจะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่การที่พกพาสมาร์ทโฟนที่มีขนาดที่ใหญ่ ก็อาจจะทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร ดังนั้นการออกแบบสมาร์ทโฟนให้มีหน้าจอที่สามารถพับได้จึงเป็นแนวคิดที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

สเปค และ ดีไซน์ของ Huawei Mate XS 2 สมาร์ทโฟนที่หน้าจอกว้างถึง 7.8 นิ้ว

สำหรับHuawei Mate XS 2 นับว่าเป็นสินค้าใหม่ล่าสุดจากHuawei โดยHuawei mateXS 2 เปิดตัว ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 และวางจำหน่าย ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมาทางHuawei ได้เปิดตัวHUAWEI MateXs ไปก่อนแล้ว ซึ่งจะเป็นรุ่นที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า รองรับสัญญาณ 5G และราคาที่สูงกว่า รุ่นปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่าMate XS2 จะเป็นรุ่นรองที่มีการปรับสเปคต่าง ๆ ให้ยังคงมีประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่มีราคาที่ย่อมเยาลงนั่นเอง

Huawei

โดยสเปคของHuawei Mate XS2 เราขอเริ่มในส่วนของหน้าจอ ซึ่งหน้าจอของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นจอ OLED ขนาด 7.8 นิ้ว (ขณะกางออก) และ 6.5 นิ้ว (ขณะพับ) อัตรารีเฟสเรท 120 Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 888 RAM 8GB ความจุ 512GB แต่สามารถรองรับ NM SD Card ได้สูงสุดถึง 256GB 

นอกจากนี้ในส่วนของกล้อง รุ่นนี้ให้กล้องหลังมาถึง 3 เลนส์ด้วยกัน ได้แก่ กล้องหลัก 50MP, OIS + Ultrawide (กล้องมุมกว้างพิเศษ) 13MP และ Telephoto (บันทึกรายละเอียดจากระยะไกล Zoom 3X) 8MP และในส่วนของกล้องหน้าอีก 1 เลนส์ ที่คมชัดถึง 10.7MP ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI XD Optics จึงทำให้การถ่ายภาพมีความสวยงามและสมจริง เนื่องจากเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้กล้องรับแสงและเพิ่มระดับของรายละเอียดมากขึ้น ไปจนถึง XD Fusion Pro True-Chroma Image Engine ที่ช่วยให้สร้างสีสันที่มีชีวิตชีวาให้กับภาพถ่ายของคุณ 

ที่พิเศษไปกว่านั้น สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของเครื่อง รองรับสัญญาณ 4G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 พร้อมระบบ NFC ให้คุณสะดวกสบายในการทำธุระกรรมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับระบบฟาสต์ชาร์จ ให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็วและประหยัดเวลามากขึ้น

Mate XS 2

ราคา และกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย

สำหรับกำหนดการในการวางจำหน่าย และสั่งซื้อHuawei Mate XS2 อย่างเป็นทางการในไทย เปิดให้สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยHuawei Mate XS2 ราคา อยู่ที่ 61,990 บาท และจะมี 2 สีให้เลือกได้แก่ สีดำ และสีขาว นอกจากนี้สำหรับใครที่สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ Huawei คุณยังจะได้รับของแถมอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงHUAWEI WATCH GT2 Pro มูลค่า 9,990 บาทฟรี 

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่อยากซื้อHuawei Mate XS 2 AIS หรือ True ก็จะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากของแต่ละค่าย อีกทั้งยังจะได้ค่าเครื่องถูกลงอีกด้วย ดังนั้นใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การลองใช้สมาร์ทโฟนแบบพับได้ก็สามารถลองไปสัมผัสของจริงได้แล้ววันนี้

รีวิว MacBook Pro M2 MacBook รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple

sa-game.bet เว็บบาคาร่าที่คนเล่นเยอะที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดในตอนนี้

Categories
Featured News

ข่าวลือ Apple Watch Series 8 ที่อาจจะอาจจะเปิดตัวในปี 2022 นี้ 

Apple หากใครที่เป็นแฟนสินค้าจากทางแอปเปิ้ล หรือติดตามข่าวสารด้านไอทีอยู่ก็จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลังจากที่มีการจัดจำหน่ายสินค้ารุ่นต่าง ๆ ผ่านไปได้สักระยะ ก็มันจะมีข่าวลือเกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ ที่มักจะมีการคาดการณ์กันเองว่าน่าจะมีการเปิดตัวเป็นรุ่นถัดไป รวมไปถึงการคาดการณ์ถึงสเปคของสินค้าต่าง ๆ เหล่านั้น ซึ่ง Apple Watch Series 8 ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับ สเปค รวมไปถึงรูปลักษณ์ของมันที่อาจจะเปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลือนั้นจะเป็นอย่างไร วันนี้เว็บไซต์ของเราได้รวบรวมมาให้กับทุกคนแล้ว

Apple Series 8

การคาดการณ์เกี่ยวกับสเปคของ Series 8

Series8 สำหรับข่าวลือเกี่ยวกับสเปคของApple Watch ก็มีหลากหลายเว็บไซต์รวมไปถึงเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีได้ออกมาให้ข้อมูลกันหลากหลายรูปแบบ โดย watch8ข่าวลือ จากเว็บไซต์ หรือเหล่ากูรูด้านไอทีที่มีการเปิดเผยออกมานั้นมีหลากหลายแนวคิด และความน่าจะเป็นเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง เราจะสรุปให้ทุกคนได้อ่านกัน

  • ขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น 43 และ 45 มม. 

ในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับสเปคของหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนั้น ค่อนข้างที่จะเป็นความคิดเห็นที่ตรงกัน เนื่องจากการเพิ่มขนาดของหน้าจอ และทำตัวเครื่องให้บางลง นับว่าเป็นจุดขายเดิมที่ทางApple ใช้กับApple Watch อยู่แล้วหลายต่อหลายรุ่น เช่น ขนาดหน้าจอระหว่างApple Watch Series 7 ที่จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 41 และ 45 มม. ส่วน Series 6 จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 40 และ 44 มม. นั่นเอง

  • ดีไซน์ที่เปลี่ยนไป

ในปี 2021 สำหรับการเปิดตัวของSeries 7 ก็เคยทำให้หลาย ๆ คนต่างกินแห้วกันมาแล้ว เพราะให้ช่วงที่มีการคาดการณ์เกี่ยวกับSeries 7 มาก่อนแล้วว่าดีไซน์ของมันจะมีความเหลี่ยมขึ้น แต่ก็ตามเคยว่าผิดคาด และในครั้งนี้ก็เช่นกันกูรูด้านไอทีก็ได้มีการคาดการอีกครั้งว่าapple watch series 8 เปิดตัว อาจจะมาพร้อมกับหน้าจองทรงเหลี่ยมซึ่งจะทำให้แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิ่ง

  • มาพร้อมกับ watchOS ใหม่ 

นอกจากในปี 2022 นี้น่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่จากทางApple อย่าง Apple Watchแล้ว ยังว่ากันว่า รุ่นใหม่นี้ยังจะมาพร้อมกับ watchOS ใหม่ ซึ่งเป็น watchOS เวอร์ชัน 9 และคาดว่านี่จะจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้ Apple Watchรุ่นใหม่นี้มีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

Apple Watch เปิดตัวครั้งนี้น่าจะมาพร้อมสินค้าใหม่อีก 3 รุ่น

Apple WatchนอกจากสเปคของSeries 8 จะมีความน่าสนใจแล้ว การคาดการณ์อีกอย่างหนึ่งของเหล่ากูรูยังว่ากันว่าApple Watch8 มาเมื่อไหร่ ก็น่าจะเปิดตัวAppleWatch รุ่นอื่นอย่างน้อยอีก 3 รุ่นอย่างแน่นอน และนอกจากนี้ในส่วนของข้อมูลที่ว่า Series8 เปิดตัวเดือนไหน ส่วนนี้เราก็ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ แต่คาดว่าหากไม่เปิดตัวในปลายปีนี้ ก็จะจะอยู่ในช่วงของต้นปีหน้าอย่างแน่นอน

แฟน Apple เสียงแตก! หลังจากที่ทาง Apple เปิดตัว ชิป M2

เว็บน่าเชื่อถือที่นิยมที่สุดในตอนนี้ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำผ่านระบบออโต้ เล่นง่าย ได้เงินจริง 2022 https://ufaball.bet

Categories
News

ELON MUSK เจ้าพ่อนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต บุคคลแห่งปีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

Elon Musk

ELON MUSK อภิมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO บริษัท TESLA บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และบริษัท SPACEX ผู้ผลิตยานอวกาศซึ่งเป็นพันธมิตรกับ NASA รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท PAYPAL แอปพลิเคชันธนาคารออนไลน์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับ-ส่งเงินออนไลน์สำหรับผู้ใช้บริการทั่วโลก และเมื่อไม่นานมานี้เขาได้เจรจาข้อตกลงที่จะซื้อ TWITTER หนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ELON MUSK ถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต ด้วยความสามารถและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขา ทำให้ในปี 2564 เขากลายเป็นมหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ แซงหน้า JEFF BEZOS ผู้ก่อตั้ง AMAZON และได้รับเลือกให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินประมาณ 220 พันล้านดอลลาร์ ELON MUSK ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประวัติและความเป็นมาของ ELON MUSK (อีลอน มัสก์) ให้มากยิ่งขึ้น

ELON MUSK เด็กหนุ่มผู้หลงไหลการเขียนโปรแกรม สู่การเป็นนักธุรกิจอัจฉริยะที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก

Elon Musk

ที่มาของรูปภาพ : ELON MUSK

ELON MUSK (อีลอน มัสก์) เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในวงการนักธุรกิจ เรียกได้ว่าไม่มีนักธุรกิจทั่วโลกคนไหนไม่รู้จักเขา แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า ELON MUSK คือใคร? หรือ อยากทำความรู้จักกับ ประวัติ ELON MUSK ให้มากขึ้น วันนี้เราก็มาพาทุกคนมาเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับ ELON MUSK ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาสมัยเด็กไปจนถึงเส้นทางชีวิตในปัจจุบันของเขา

ELON MUSK  เกิดในปี 1971 ณ เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ เขาเป็นลูกคนโตและมีน้อง 2 คน พ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นวิศวกรชาวแอฟริกาใต้ ส่วนแม่เป็นนางแบบและนักโภชนาการชาวแคนาดา ต่อมาในปี 1980 พ่อแม่ของเขาได้หย่าร้างกัน หลังจากนั้น MUSK ก็ได้อาศัยอยู่กับพ่อเป็นหลัก และเขายกให้พ่อของเขาเป็น ‘มนุษย์ที่น่ากลัวที่สุด’ MUSK เข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา WATERKLOOF HOUSE เขาต้องสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษกับเพื่อนทุกคน และหลังจากนั้นเขาก็ได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม PRETORIA BOYS HIGH ‘หนอนหนังสือ’ คือคำที่ใช้อธิบายตัวตนของเขาได้มากที่สุดในช่วงเรียนมัธยม เขามักโดนเพื่อนกลั่นแกล้งอยู่ตลอด ทำให้เขามีเพื่อนไม่กี่คน การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีจึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบมากที่สุด

MUSK มีความสนใจและมีพรสวรรค์ในเรื่องคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมส์  เขาได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมตั้งแต่อายุ 10 ขวบ โดยใช้ COMMODORE VIC-20 คอมพิวเตอร์ราคาค่อนข้างแพงในยุคนั้น และใช้เวลาเพียงไม่นาน MUSK ก็มีความชำนาญพอที่จะสร้าง BLASTAR วิดีโอเกมรูปแบบของ SPACE INVADERS ซึ่งต่อมาเขาได้ขายรหัสพื้นฐานสำหรับเกมให้กับ PC MAGAZINE ในราคา 500 เหรียญดอลลาร์

ELON MUSK และ JUSTINE WILSON

ที่มาของรูปภาพ : ELON MUSK และ JUSTINE WILSON

เมื่ออายุครบ 17 ปี MUSK ย้ายไปอยู่ที่แคนาดา และได้รับสัญชาติแคนาดาตามแม่ของเขา MUSK ได้ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัย QUEEN’S UNIVERSITY ที่คิงส์ตัน รัฐออนแทรีโอ ที่นั่นทำให้เขาได้พบกับ JUSTINE WILSON ภรรยาคนแรกของเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้แต่งงานและมีลูกชายด้วยกัน 5 คน และในปี 2008 พวกเขาก็ได้หย่าร้างกัน

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ ELON MUSK กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

ELON MUSK ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาเรียนมหาวิทยาลัยควีนได้ 2 ปี เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เขาได้ลงเรียน 2 สาขาวิชา นั่นคือ วิทยาศาสตร์บัณฑิตสาขาฟิสิกส์ และ ศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์ เมื่ออายุ 24 ปี เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาก็ได้ย้ายไปที่แคลิฟอร์เนียเพื่อเรียนต่อปริญญาเอก ในสาขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่ตัดสินใจลาออกภายหลัง

ELON MUSK ทําธุรกิจอะไร? แน่นอนว่ากว่าเขาจะประสบความสำเร็จมาจนถึงจุดนี้ได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่ง บริษัทของ ELON MUSK บริษัทแรก คือ ZIP2 เป็นบริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์แนะนำเมืองออนไลน์สำหรับหนังสือพิมพ์ โดยเขาได้ร่วมก่อตั้งกับน้องชาย และเพื่อนของเขา แม้ว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จในที่สุด แต่มันก็ใช้เวลานานพอสมควร และในช่วงนั้น MUSK ก็ประสบปัญหาด้านการเงินอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ของ ZIP2 กำลังน่าเป็นห่วง แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็สามารถหาทางรักษาบริษัทไว้ได้ด้วยการหานักลงทุนมาสนับสนุนบริษัท และหาลูกค้าในเมืองใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้สำนักงานข่าวชื่อดัง เช่น NEW YORK TIMES และ CHICAGO TRIBUNE ได้เห็นถึงความมั่นคงในธุรกิจและโปรแกรมแผนที่นำเที่ยวเมืองของพวกเขาก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ  จึงทำให้ในปี 2542 บริษัท ZIP2 ทำรายได้กว่า 307 ล้านดอลลาร์ และทำให้ MUSK ได้รับรายได้ 22 ล้านดอลลาร์จากส่วนแบ่ง 7% ตอนเขาอายุได้เพียง 27 ปีเท่านั้น

ธุรกิจที่โดดเด่นของ ELON MUSK : X.COM

X.COM สู่ PAYPAL

ที่มาของรูปภาพ : X.COM สู่ PAYPAL

ELON MUSK ถูกยกให้เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า ELON MUSK รวย จาก อะไร? ซึ่งหลังจากที่บริษัท ZIP2 ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดเจน ในปี 2542 บริษัท COMPAQ COMPUTER CORPORATION ก็ได้เจรจาเสนอซื้อบริษัท ZIP2 ในราคา 341 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่อมาในปีเดียวกัน MUSK ก็ได้นำเงินที่ได้จากการขายบริษัท ZIP2 ทั้งหมดมาก่อตั้ง X.COM ร่วมกับ HARRIS FRICKER,  ED HO และ CHRISTOPHER PAYNE ซึ่ง X.COM เป็นหนึ่งในธนาคารออนไลน์แห่งแรกของโลก และได้ควบรวมกิจการกับ CONFINITY INC บริษัทซอฟต์แวร์ที่ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งหลังจากควบรวมกิจการก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น PAYPAL ก่อนที่ EBAY จะเข้าซื้อในปี 2545 ด้วยเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์  และ MUSK ก็ได้รับกำไรจากการซื้อกิจการผ่านสัดส่วนการถือหุ้นใน PAYPAL 11.7% “รายได้ของฉันจาก PAYPAL หลังหักภาษีอยู่ที่ประมาณ 180 ล้านดอลลาร์” MUSK ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2561

ธุรกิจที่โดดเด่นของ ELON MUSK : TESLA

ELON MUSK ซีอีโอของ TESLA

ที่มาของรูปภาพ : ELON MUSK ซีอีโอของ TESLA

ในช่วงแรกของปี 2547 ELON MUSK ได้เข้าร่วมลงทุนกับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยร่วมลงทุนด้วยเงินประมาณ 6.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งในฐานะนักลงทุนร่วมกับทีมงานวิศวกร MARTIN EBERHARD ต่อมาบริษัทได้เป็นที่รู้จักในนาม TESLA และหลังจากเกิดความขัดแย้งหลายครั้ง EBERHARD ก็ได้ออกจากตำแหน่งในปี 2550 และก็ได้มีการจ้าง CEO ชั่วคราวมาบริหาร เพื่อรอจนกว่า MUSK จะเข้ารับตำแหน่ง CEO หลังจากนั้น TESLA ก็ได้กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในธุรกิจที่โดดเด่นที่สุดของ ELON MUSK นอกจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว MUSK ยังเล็งถึงประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ เขาจึงได้เข้าซื้อ SOLARCITY บริษัทผลิตแบตเตอรี่พลังงานแสงอาทิตย์แบบชาร์จซ้ำได้สองก้อน POWERWALL

ธุรกิจที่โดดเด่นของ ELON MUSK : SPACEX

บริษัท SPACEX

ที่มาของรูปภาพ : บริษัท SPACEX

ในปี 2545 ELON MUSK ได้นำเงินส่วนใหญ่จากการขายหุ้นใน PAYPAL ของเขาจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ มาก่อตั้ง SPACE EXPLORATION TECHNOLOGIES CORPORATION ซึ่งเป็นผู้ผลิตและพัฒนาจรวดที่รู้จักกันโดยทั่วไปในนาม SPACEX และภายใต้การบริหารของ MUSK ทำให้ SPACEX ได้ทำสัญญากับสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) และกองทัพอากาศสหรัฐฯ เพื่อออกแบบจรวดปล่อยขึ้นไปในอวกาศ  และเขาก็ได้ประกาศแผนการที่จะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคารภายในปี 2568 โดยร่วมมือกับ NASA

ธุรกิจที่โดดเด่นของ ELON MUSK : TWITTER

ELON MUSK ซื้อ TWITTER

ที่มาของรูปภาพ : ELON MUSK ซื้อ TWITTER

ธุรกิจล่าสุดของ ELON MUSK ที่ทำให้โซเชียลมีเดียแตกตื่น เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่า ELON MUSK ซื้อ TWITTER หนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดย MUSK ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของนโยบายการควบคุมเนื้อหาของบริษัท ในแง่ของหลักการเสรีภาพในการพูด และเมื่อต้นเดือนเมษายน 2565 ทวิตเตอร์ยื่นต่อ SEC เปิดเผยว่า MUSK ได้ซื้อกิจการของบริษัท หลังจากนั้นไม่นาน TWITTER ก็ได้ประกาศว่า MUSK จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของบริษัท แต่ MUSK ปฏิเสธและเสนอราคาซื้อทั้งบริษัทที่มูลค่า 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นเงิน 44 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 156,472,800,000 บาท) ซึ่งคณะกรรมการของ TWITTER ยอมรับข้อตกลงนี้ ทำให้ MUSK กลายเป็นเจ้าของบริษัท TWITTER แต่เพียงผู้เดียว

ELON MUSK กับชีวิตส่วนตัวของเขา

ปัจจุบัน ELON MUSK เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายบริษัท เช่น TESLA, SPACEX, THE BORING COMPANY, NEURALINK และ TWITTER จากรายงานล่าสุดเมื่อมิถุนายน 2565 ทรัพย์สิน ELON MUSK มีทั้งหมดประมาณ 220 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก MUSK ผ่านการหย่าร้างมาทั้งหมด 3 ครั้ง และตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2022 เขาได้คบหาดูใจกับนักร้อง/นักแต่งเพลงชาวแคนาดา CLAIRE ELISE BOUCHER หรือรู้จักในชื่อ GRIMES แต่เมื่อไม่นานมานี้ GRIMES ได้โพสต์บน Twitter ของเธอว่า “เธอกับ ELON MUSK ได้เลิกกันแล้ว และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” ELON MUSK ลูกกี่คน? ปัจจุบันเขามีลูกมาแล้วทั้งหมด 8 คน โดยมีลูกสาว 1 คน และลูกชาย 7 คน (เสียชีวิต 1 คน)

ELON MUSK และ CLAIRE ELISE BOUCHER

ที่มาของรูปภาพ : ELON MUSK และ CLAIRE ELISE BOUCHER

ความสำเร็จอันยาวนานของ ELON MUSK

ELON MUSK ถึงแม้ว่าเขาจะร่ำรวยมหาศาลและมีชื่อเสียงโด่งดังมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ละทิ้งความพยายามที่จะผลิตนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ เขายังคงมุ่งมั่นในแนวคิดของตัวเอง สำหรับ SPACEX เขาเชื่อว่ามนุษย์จะสามารถไปอยู่ถาวรบนดาวอังคารได้โดยการขนส่งผู้คนไปและกลับด้วยจรวด STARSHIP ส่วนเป้าหมายสำหรับ TESLA เขาตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตรถยนต์ 20 ล้านคันภายในปี 2573 และหวังจะขยายตลาดไปสู่อินเดียภายใน 10 ปีข้างหน้า

HYPERLOOP รถไฟความเร็วสูง

ที่มาของรูปภาพ : HYPERLOOP รถไฟความเร็วสูง

 นอกจากนี้ MUSK ยังไม่หยุดคิดไอเดียใหม่ ๆ เช่น HYPERLOOP รถไฟความเร็วสูงพิเศษที่เดินทางในหลอดสุญญากาศ โดย HYPERLOOP สามารถขนส่งผู้โดยสารจากลอสแองเจลิสไปยังซานฟรานซิสโกใน 30 นาที ตามทฤษฎีที่ตั้งไว้

AUTHOR

Suwanna Preebunpul

SUWANNA PREEBUNPUL

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ชื่อออยนะคะ เป็นนักเขียนอิสระ มีประสบการณ์เขียนบทความมาแล้วมากมาย ตั้งแต่บทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และความสวยความงาม เป็นต้น รวมถึงสามารถจัดทำ ARTWORK ประกอบเนื้อหาในบทความได้ด้วย ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของนักเขียน ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป และชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้ในอนาคตข้างหน้าอาจจะได้เห็นงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมาให้ติดตาม ยังไงก็ติดตามผลงานด้วยนะคะ

CONTACT >> INSTAGRAM, FACEBOOK, LINE

อ่านบทความ >> facetime เสียเงินไหม

สนับสนุนโดย >> สมัครบาคาร่า กับเว็บบาคาร่า อันดับ1 เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ มั่นคง ปลอดภัย 100% มาแรงที่สุดในปี 2022

Categories
News สอนใช้

กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips ไอเทมดี ๆ ที่ต้องมีในปี 2022

กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips

(https://uvcthailand.com/product/uvc-disinfection-mini-box-white-philips/

แนวคิดเกี่ยวกับกล่อง หรือตู้ที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสนั้นมีมาอย่างยาวนาหลายสิบปี แต่ในช่วงแรกอาจจะยังไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไร ซึ่งอาจจะเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย และล่าสุดแนวคิดเหล่านี้ถูกดึงกลับมาพัฒนาใหม่อีกครั้งและ Philips เองก็ได้เปิดตัวสินค้าของตัวเองที่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสออกมาหลายตัวด้วยกัน รวมไปถึง กล่องฆ่าเชือโรค Philips ที่เราจะนำมารีวิวให้กับทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้ด้วย

กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips

(https://www.bnn.in.th/th/p/philips-lighting-uv-c-disinfection-mini-box-green-8719514344846_zvl3mw

รีวิว กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips กล่องจิ๋ว ๆ ที่พกไปไหนก็สะดวก

สำหรับสินค้าที่เราจะมารีวิวในวันนี้คือ กล่องฆ่าเชือโรค Philips ที่มีชื่อรุ่นว่า Philips Lighting UV-C Disinfection Mini Box ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ได้แก่ เขียว, ขาว และ ชมพู ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือมีขนาดที่เล็ก เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ เป็นอย่างยิ่ง โดย UVC Philips รุ่นนี้มีขนาดเล็กเพียง 15.5 x 26.5 x 10.5 เซนติเมตรเท่านั้น อีกทั้งยังทำมาจาก Stainless steel ทั้งชิ้น ซึ่งแน่นอนว่าคุณสมบัติของวัสดุชนิดนี้นอกจากความคงทนแล้วยังมีน้ำหนักเบา ดังนั้นกล่องจึงมีน้ำหนักเบาเพียง 0.36 กิโลกรัมเท่านั้น

กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips

(https://www.lighting.philips.it/consumer/p/disinfezione-uv-c-disinfection-box/8719514359222

ต่อมาคือฟังก์ชันการใช้งานและสเปคต่าง ๆ ของตัวเครื่อง โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมหลอดไฟ UV – C ที่เป็นหลอด LED ขนาด 1 วัตต์ ที่ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสได้สูงสุดถึง 99 % จำนวน 4 หลอด ซึ่งจะถูกติดตั้งอย่างสวยงามอยู่ภายในกล่อง นอกจากนี้เวลาในการทำงาน 1 ครั้งจะอยู่ที่ 8 นาที ซึ่งการสั่งการจะผู้สั่งผ่านปุ่มที่อยู่หน้ากล่องเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น

เพื่อให้คุณมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย หากฝาของกล่องปิดไม่สนิท หรือฝาถูกเปิดระหว่างที่กล่องกำลังทำงาน ไฟภายในกล่องจะดับลงทันที และที่สำคัญไปกว่านั้นคือทางทีม Philips ได้มุ่งมั่นพัฒนาและทดลองเทคโนโลยีชนิดนี้มามากกว่า 35 ปีเลยทีเดียว นอกไปจากนี้กล่องนี้ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้จะทั้งไฟบ้าน บนรถ และจากพาวเวอร์แบงค์ ซึ่งชาร์จได้ง่าย ๆ ด้วยสาย USB Type C ที่ในปัจจุบันก็หาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips

(https://blog.bnn.in.th/review-philips-uv-c-disinfection-mini-box/

ราคาของกล่องเพียงหลักพันต้น ๆ ที่สำคัญใช้ฆ่าเชื้อมือถือได้ด้วย

สำหรับ กล่องฆ่าเชื้อโรค Philips หรือ กล่องยับยั้งเชื้อโรค Philips รุ่นที่เรานำมารีวิวในวันนี้นั้น มีราคาอยู่ที่กล่องละ 1,590 บาทเท่านั้น และที่สำคัญแม้ว่าเราจะบอกว่ารุ่นนี้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดแต่ในความจริงแล้วกล่องสามารถใช้ฆ่าเชื้อจากทั้งแว่นตา, กุญแจรถ, เครื่องประดับ รวมไปถึงสมาร์ทโฟนที่มีขนาดใหญ่ ๆ ได้สบาย ๆ เลยทีเดียว ดังนั้น กล่อง UVC รุ่นนี้จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ลำโพง Marshall Willen ลำโพงลุ่นใหม่ล่าสุดจาก Marshall

เว็บ ตรง ไม่ ผ่าน เอเย่นต์

Categories
สอนใช้

VPN คือ? มีไว้เพื่ออะไร? พร้อมแนะนำ 3 ผู้ให้บริการ VPN ปี 2022

รีวิว Zyxel VPN2S ก้าวสู่ความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลไปอีกขั้นด้วยระบบ VPN  และ Load Balancing ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง - Pantip(https://pantip.com/topic/39284402

ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้เริ่มมีหลายเว็บไซต์ที่เราไม่สามารถเข้าใช้งานได้ หรือพูดง่าย ๆ ว่าประเทศเราทำการแบนเว็บไซต์หรือแอปเหล่านั้นนั่นเอง และ VPN คือ สิ่งที่จะเข้ามาช่วยให้เราสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์เหล่านั้นนั่นเอง แต่ VPN คืออะไร มีไว้เพื่อสิ่งใด วันนี้เราจะไปหาคำตอบพร้อมกันค่ะ

VPN คือ การจำลองเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของตัวเอง ที่ใครก็สามารถใช้งานได้

VPN คือ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างมาเพื่อต่อสู้กับการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูล และข่าวสาร ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลจากทั่วโลก ซึ่งหลายประเทศมีการแบนข้อมูล ข่าวสาร จากหลาย ๆ เว็บไซต์ต่างชาติ ทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ ซึ่ง VPN หรือ Virtual Private Network จะเข้ามาเป็นตัวกลางที่จะทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้

VPN คืออะไร ทำงาน อย่างไร

VPN คือการจำลองเชื่อมต่ออินเทอร์ของประเทศนั้น ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในประเทศดังกล่าว โดยบริการเหล่านี้จะป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ตรวจจับเราได้ผ่านการตั้งรหัสความปลอดภัย และ VPN จะการทำงานโดยการอาศัยท่ออินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อนำเราไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เราต้องการเข้าถึง เช่นในไทยไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ผู้ใหญ่อย่าง PornHub ได้ แต่หากใช้บริการของ VPN ก็จะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้นั่นเอง

แนะนำ 3 ผู้ให้บริการ VPN ที่ราคาไม่แรงแถมใช้ได้กับทุกแพลตฟอร์ม

หลังจากที่ทราบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า VPN คือ ตัวช่วยในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว สำหรับใครที่อยากใช้บริการ VPN ในโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ วันนี้เรามี 3 ผู้ให้บริการ VPN ที่ทั้งดี และราคาไม่แรงมาแนะนำทุกคน

vpn

(https://mashable.com/review/cyberghost-vpn-review

  • Cyber Ghost 
  • คะแนนรีวิว 9.8 คะแนน 
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์สูงสุด 7 เครื่อง
  • ไม่บันทึกข้อมูลการเข้าใช้งาน
  • ราคา 12.72$ / เดือน (ลดเหลือ 2.29$)
vpn

(https://www.pcmag.com/reviews/private-internet-access-vpn

  • Private Internet Access  
  • คะแนนรีวิว 9.5 คะแนน 
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์สูงสุด 10 เครื่อง
  • ไม่บันทึกข้อมูลการเข้าใช้งาน
  • ราคา 12.17$ / เดือน (ลดเหลือ 2.19$)
vpn

(https://productnation.co/th/product/express-vpn?pId=79b79ab7-1349-43e2-ba8d-f6228a9a9091

  • ExpressVPN 
  • คะแนนรีวิว 9.3 คะแนน 
  • บริการช่วยเหลือลูกค้าผ่านแชท 24 ชั่วโมง
  • ไม่ระบุตัวตนขณะออนไลน์
  • ราคา 12.95$ / เดือน (ลดเหลือ 6.67$)

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 3 ผู้ให้บริการที่เรานำมาแนะนำให้กับทุกคนในวันนี้ สุดท้ายนี้สำหรับใครที่สงสัยว่า VPN อันตรายไหม เราต้องขอบอกว่าทั้ง 3 ผู้ให้บริการที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ต่างมีการการันตีในเรื่องของความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังไม่มีการระบุตัวตนดังนั้นจึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลาย ๆ ผู้ให้บริการที่มีทั้งโปรโมชัน และรูปแบบการให้บริการที่น่าสนใจ ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากใช้บริการก็สามารถค้นหาและนำข้อมูลต่าง ๆ มาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการเหล่านั้นก่อนก็ได้เช่นกัน

วิธีสตรีมการเล่นเกม XBOX ONE บนแอพ TWITCH ที่เหล่านักสตรีมเมอร์ไม่ควรพลาด

sa gaming

Categories
News

ลำโพง Marshall Willen ลำโพงลุ่นใหม่ล่าสุดจาก Marshall

ลำโพง Marshall Willen

(https://www.avtechguide.com/marshall-debuts-the-willen-brands-first-ultra-compact-bluetooth-speaker/

ในปัจจุบันลำโพงบลูทูธนับว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่แพ้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชนิดอื่น ๆ และล่าสุดกับ ลำโพง Marshall Willen ลำโพงรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Marshall ที่มีทั้งขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก และที่สำคัญคือคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดีตามแบบฉบับของ Marshall

ลำโพง Marshall Willen

(https://www.sanook.com/hitech/1556457/

รีวิว ลำโพง Marshall Willen ลำโพงจิ๋ว แต่พลังเสียงเกินตัว

ลําโพง Marshall Willen คือ ลำโพงรุ่นพกพาที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Marshall โดยมาร์แชลนั้นนับว่าเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต และพัฒนาแอมป์กีตาร์ ตู้ลําโพง และหูฟัง โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า ลำโพง Marshall Willen รุ่นนี้ต้องอัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างแน่นอน

โดยลำโพงรุ่นนี้เป็นลำโพงที่เหมาะกับสายแคมป์ และสาย Backpack เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก ลําโพง Marshall Willen ขนาด เพียง 4.04 x 10.16 x 10.16 เซนติเมตร และที่สำคัญมีน้ำหนักเบาเพียง 0.31 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นลำโพงที่นอกจากจะมีขนาดที่เล็กแล้วยังมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถกันป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น IP67 (กันน้ำได้ 1 เมตร ภายใน 30 นาที) จึงทำให้คุณได้กังวลแม้จะพกพาลำโพงไปในที่ที่ต้องลุยเป็นพิเศษ

Marshall Willen

(https://news.siamphone.com/news-49845.html

ต่อมาเป็นในส่วนของสเปคต่าง ๆ ของลำโพงรุ่นนี้ โดย Marshall Willen รุ่นนี้มีระบบรองรับการเชื่อมต่อลำโพง 2 พร้อมกัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับลำโพงขนาด 2 นิ้ว ขนาด 10 วัตต์ และที่สำคัญคือมี passive radiators (PR) จำนวน 2 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งความพิเศษของการที่ลำโพงมี PR คือจะช่วยให้คุณภาพเสียงที่ได้ดีขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ลำโพงรุ่นนี้ยังมีไมค์ในตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับปุ่มกดสำหรับ รับ – วางสาย ที่จะมีสีทองสวยอยู่ด้านหน้าของลำโพง ด้านบนยังที่ไฟบอกสถานะของแบตเตอรี่ และปุ่มสำหรับเชื่อมต่อบลูทูธอีกด้วย เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ ที่สำคัญยังรองรับระบบฟาสชาร์จที่ให้คุณสามารถชาร์จแบตในเวลาเพียง 20 นาทีแต่สามารถงานได้นานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

Marshall Willen

(https://www.marshallheadphones.com/th/en/willen.html

ราคาหลักพัน แต่ตอบโจทย์คนที่ชอบพกพาลำโพงได้เป็นอย่างดี

มาถึงในส่วนราคาของ ลำโพง Marshall Willen กันแล้ว โดย ลําโพง Marshall Willen ราคา ที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ในปัจจุบันอยู่ที่ $119 แต่สำหรับราคาในประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 6,xxx – 9,xxx บาท เลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าลำโพงรุ่นนั้นมีข้อดีอย่างเดียวหรือเปล่า และเราอยากบอกว่าลำโพงรุ่นนี้มีข้อเสียเช่นเดียวกัน โดย ลําโพง Marshall Willen ข้อเสีย เบสของรุ่นนี้ค่อนข้างเบา อีกทั้งยังการเชื่อมต่อลำโพงที่สามารถทำได้สูงสุดเพียง 2 เครื่องนั้นถือว่ายังอาจจะน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับแบรนด์ลำโพงอื่น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้งานของแต่ละบุคคลว่าจะตอบโจทย์ และชื่นชอบลำโพงแบบให้ หรือมีฟังก์ชันอย่างไรมากกว่า แต่สำหรับลำโพงรุ่นนี้ทางแบรนด์ค่อนข้างที่จะมุ่งแน่นไปยังกลุ่มที่ต้องพกพาลำโพง หรือกลุ่มเหล่า Backpack เป็นหลักเลยก็ว่าได้

เว็บ ตรง ไม่ ผ่าน เอเย่นต์

Samsung Neo QLED 8K สมาร์ททีวี 2022

Categories
News

รีวิว MacBook Pro M2 MacBook รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple

ชิบ M2

(https://www.techoffside.com/2022/03/m2-macbook-pro-with-tsmc-4nm-process/

MacBook นับว่าเป็นสินค้าอีกอย่างหนึ่งจาก Apple ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด Apple ก็ได้ทำการเปิดตัว MacBook Pro M2 ที่มาพร้อมกับชิปตัวใหม่ล่าสุด อย่าง ชิป M2 และแน่นอนว่าสินค้ารุ่นใหม่นี้ก็ต้องมีความน่าสนใจไม่แพ้สินค้าอื่น ๆ ที่เคยเปิดตัวมาก่อนหน้า ซึ่งสเปคของ MacBook Pro จะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกันเลย

MacBook Pro M2

(https://specphone.com/web/specs-of-macbook-air-m2-macbook-pro-m2/336273

สเปคของ MacBook Pro M2 ที่มาพร้อมจอเล็กเพียง 13 นิ้ว

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า MacBook Pro M2 รุ่นนี้เมื่อเปรียบเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้ชิปที่ทาง Apple ได้ทำการพัฒนาเอง (ชิปสกุล M) รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มีราคาเริ่มต้นสูงกว่าเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก่อนที่เราจะไปดูข้อมูลในส่วนของราคา เรามาดูกันก่อนว่าสเปคต่าง ๆ ที่ทาง Apple ให้มาใน MacBook Pro รุ่นนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

โดยเราของเริ่มต้นจากส่วนของหน้าจอ รุ่นนี้มาพร้อมจอภาพ Retina 13.3 มาพร้อม ชิป Apple M2 CPU 8-core, GPU 10-core (GPU 8 – core สำหรับรุ่น M1) และ RAM สูงสุด 24 GB นอกจากนี้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดที่ปรับแต่งได้ถึง 2TB ต่อมาเป็นในส่วนของแบตเตอรี่ รุ่นนี้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งเลยทีเดียว ส่วนกล้อง FaceTime HD ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 720p ที่พิเศษสุด ๆ คือมีน้ำหนักเบาเพียง 1.38 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ารุ่น M1 เล็กน้อยเท่านั้น (M1 หนัก 1.4 กิโลกรัม) ดังนั้นหากใครที่ต้องพกพาอุปกรณ์ไปทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ รุ่นนี้ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของน้ำหนักของอุปกรณ์มากเท่าไรนัก

MacBook Pro M2

(https://www.apple.com/th/shop/buy-mac/macbook-pro/รุ่น-13-นิ้ว

ราคาและวันที่เปิดขายของ MacBook Pro รุ่นใหม่ 

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ MacBook Pro M2 รุ่นนี้ต้องขอบอกว่า รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกมาเอาใจคนที่ต้องการประหยัดงบเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก MacBook Pro M2 ราคา เริ่มต้นที่ 46,900 บาทเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่มีสเปคดี ราคาไม่แรงไว้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้สำหรับ MacBook Pro M1 ทาง Apple เอกก็ยุติการผลิตเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ MacBook Pro จึงมีตัวเลือกเฉพาะ M2, M1 Pro และ M1 MAX เท่านั้น

ส่วนใครที่สงสัยว่า MacBook Pro M2 ขายเมื่อไหร่ คำตอบคือ MacBook รุ่นใหม่นี้เปิดขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดขายพร้อมกันทั้ง MacBook Pro และ MacBook Air ดังนั้นหากใครที่อยากเป็นเจ้าของสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้ก็สามารถกดสั่งซื้อได้ทั้งจากช่องทางออนไลน์ www.apple.com/th หรือจากช๊อป Apple ก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือโทรสอบถามข้อมูลสินค้าจาก Apple Store สาขาใกล้บ้านของคุณก็ได้เช่นกัน

เว็บ บา คา ร่า อันดับ 1

ไฮโลไทย

Categories
Featured News

แฟน Apple เสียงแตก! หลังจากที่ทาง Apple เปิดตัว ชิป M2

ชิป M2
ชิป M2

(https://www.flashfly.net/wp/342091

หลังจากที่ Apple ได้ทำการเปิดตัว M1 Ultra ไปเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ทางฝัง Apple ก็มีข่าวที่ทำให้แฟน ๆ ได้จับตามองอีกครั้งกับการเปิดตัว ชิป M2 และแน่นอนว่างานนี้เสียงจากแฟน Apple แตกออกเป็นสองฝั่ง ซึ่งมีทั้งฝั่งที่ชื่นชม และรอที่จะจับจองเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่รองรับชิปใหม่นี้ และฝั่งที่วิจารณ์ และไม่เห็นด้วยกับการเปิดตัวชิปดังกล่าว แต่ประสิทธิภาพของชิปตัวนี้จะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย

ชิป M2
ชิป M2

(https://www.apple.com/th/newsroom/2022/06/apple-unveils-m2-with-breakthrough-performance-and-capabilities/

ประสิทธิภาพของ ชิป M2 ชิปตัวใหม่จาก Apple

ชิป m2 คือ จุดเริ่มต้นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของชิปตระกูล M (M1 คือจุดเริ่มต้นของเจเนอเรชั่นที่1 และตามมาด้วย M1 PRO, M1 MAX และ M1 Ultra) ซึ่ง ชิป M2 มี CPU, GPU และ Neural Engine ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป M1 ไปกว่าขั้น โดยขนาดของชิป M2 นั้นจะมาขนาดที่ใหญ่กว่า ชิป M1 ขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่ง M2 จะประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 2 หมื่นล้านตัว หรือมากกว่า M1 ถึง 25% 

ซึ่งข้อดีของการที่มีทรานซิสเตอร์มากขึ้นคือนอกจากจะทำให้หน่วยความจำเพิ่มมากขึ้น (แบนด์วิดท์หน่วยความจำมากกว่า M1 50%) ยังช่วยยกระดับคุณสมบัติต่าง ๆ ในทุกส่วนของชิป ดังนั้นจึงส่งผลให้การอัปโหลด และดาวน์โหลดข้อมูลรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้แล้ว CPU ยังคอร์ด้านประสิทธิภาพ และด้านการประหยัดพลังงานยังถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าชิป M1 ถึง 18% รวมไปถึงประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่สูงขึ้นกว่าเดิมอีก 35% เลยทีเดียว

ชิป M2

(https://www.apple.com/th/mac/

อุปกรณ์ที่รองรับ ชิป M2 พร้อมราคาของอุปกรณ์แต่ละชิ้น

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากทดลองประสิทธิภาพของ Apple M2 ปัจจุบันสินค้าของทาง Apple ที่มีการนำชิปชนิดนี้เข้ามาใช้นั้นมีอยู่ 2 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ MacBook Air และ MacBook Pro ซึ่งรุ่นที่เป็นชิป M2 นั้นจะเป็นรุ่นที่มีขนาดจอ 13 นิ้วเท่านั้น 

โดนราคาของ MacBook Air M2 จะเริ่มต้นที่ 43,900 บาท (รวมภาษีแล้ว) และราคาเริ่มต้นที่ 46,900 สำหรับ MacBook Pro และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ทั้ง 2 รุ่นยังสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 2TBนอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นยังมีสีที่แตกต่างกัน โดยรุ่น Air จะมีสีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ มิดไนท์, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ และ เงิน ส่วนรุ่น Pro จะมีสีทั้งหมดเพียง 2 สี ได้แก่ เทาสเปซเกรย์ และ เงิน และหากใครที่สงสัยว่า MacBook Pro  และ MacBook Air M2 มาเมื่อไหร่ เราต้องขอแจ้งข่าวดีกับทุกคนว่า ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2022 บนเว็บไซต์ และหน้าร้านของ Apple มีสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้วางขายแล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นหากใครที่อยากลองสัมผัสกับสินค้าจริง หรืออยากเป็นเจ้าของก็สามารถเข้าไปลองที่ชอปของ Apple ได้แล้ว

สมัครบาคาร่า

จีคลับ

Categories
Featured News

Samsung Neo QLED 8K สมาร์ททีวี 2022 ที่ให้มากกว่าภาพที่คมชัด

สมาร์ททีวี

หากกล่าวถึงสมาร์ททีวีคุณคิดถึงอะไรบ้าง? บางคนอาจจะคิดถึงภาพที่คมชัด สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือสามารถใช้ดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ แต่สำหรับ Samsung Neo QLED 8K จะเป็นมากกว่าสมาร์ททีวี ซึ่งจะพิเศษอย่างไรนั้นเราจะพาทุกคนไปดูพร้อมกัน

สมาร์ททีวี

(https://www.luckydigital.co.th/SAMSUNG_Und_55_Und

รีวิว Samsung Neo QLED 8K สมาร์ททีวีที่อัดแน่นอนไปด้วยฟังก์ชันการใช้งาน

Samsung Neo QLED 8K นับว่าเป็น สมาร์ททีวี 2022 ที่เรียกได้ว่าเป็นทีวีที่ให้มากกว่าภาพที่คมชัด โดยทีวี Samsung Neo QLED มีอยู่ทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ QN95B, QN700B, QN800B และ QN900B ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีสเปคและราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยรุ่นที่เราจะนำมารีวิวให้ทุกคนได้รู้จักวันนี้คือ Samsung Neo QLED 8K QN900B ซึ่งเป็นรุ่นที่มีสเปคสูงสุดเมื่อเทียบกับ 4 รุ่นที่กล่าวไปในข้างต้น

สเปคของ Samsung Neo QLED 8K QN900B เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยหน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับความคมชัดระดับ 8K 33ล้านพิกเซล (ความละเอียดขนาด 7,680 x 4,320 พิกเซล) มาพร้อมหน่วยประมวลผล Neural Quantum Processor 8K ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลอัจฉริยะขั้นสูงหลายตัวของ Neo QLED ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลภาพดีกว่าที่คุณเคยสัมผัส

สมาร์ททีวี

(https://www.samsung.com/de/explore/entertainment/neoqled-soundquality/

นอกจากนี้ในส่วนของคุณภาพเสียงก็เรียกว่าไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับลำโพงด้านบน ซึ่งมอบประสบการณ์ Dolby Atmos ดังนั้นไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ก็จะทำให้ให้คุณรู้สึกอินมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ในการรับชม และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ การนำเทคโนโลยี Object Tracking Sound (OTS PRO) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์การสัมผัสเสียงอันสมจริงมากยิ่งขึ้น จากทั่วทุกมุมของทีวีรวมถึงตรงกลาง โดยไม่พลาดเสียงใด ๆ แม้แต่น้อย 

สมาร์ททีวี

(https://droidsans.com/samsung-neo-qled-8k-2022-pre-order/

สมาร์ททีวีที่ออกแบบมาตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม และเริ่มต้นที่ราคาแสนต้น ๆ 

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า สเปค หรือรายละเอียดอื่น ๆ ของ Samsung Neo QLED 8K นั้นมีมากกว่าที่เรานำมาเสนอให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ทั้งเรื่องของดีไซน์ คุณภาพของจอ และเสียง รวมไปถึงข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย จนทำให้เราไม่รู้สึกแปลกใจเลยหากสมาร์ททีวีรุ่นนี้จะมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท โดย Samsung Neo QLED 8K 85 ราคา (85 นิ้ว) ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 349,990 บาท แต่หากเป็นรุ่นที่มีขนาดจอ 65 นิ้ว จะมีราคาอยู่ที่ 169,990 บาท และ ราคา 279,990 บาท สำหรับรุ่น 75 นิ้ว แต่สำหรับ Samsung Neo QLED 4K จะมีราคาเริ่มต้นเพียง 81,990 บาทเท่านั้น

ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้เห็นราคาแล้วอาจจะมีความรู้สึกว่าราคาของสมาร์ททีวีรุ่นนี้มีราคาที่สูงมากเกินไป แต่เราคิดว่าอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นหากเทียบกับสเปคของทีวีรุ่นนี้ เนื่องจากสเปคของทีวีรุ่นนี้ค่อนข้างที่จะเป็นทีวีที่ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย และเหมาะกับคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ รวมไปถึงผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและ NFT เป็นต้น

5 เทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ปี 2022

สมัครบาคาร่า

HILO-88.COM
HILO-88.COM