สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
แนะนำแอปฯ

ไดคัทรูป เทคนิคที่ช่วยให้คุณสามารถนำภาพไปครีเอทง่ายขึ้น

ไดคัทรูป

ไดคัทรูป ในทางกราฟิกดีไซน์จะหมายถึงการตัดวัตถุออกจากแบ็คกราวด์ ไปจนถึงการตัดแบล็คกราวออกจากวัตถุในภาพ ซึ่งส่วนใหญ่การนำเทคนิคนี้มาใช้ จะเหมาะกับการนำภาพถ่ายนั้น ๆ ไปคลีเอทต่อไป ซึ่งนับว่าเป็นเทคนิคที่จะช่วยทำให้ภาพถ่ายของคุณมีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

แนะนำ 5 เว็บไซต์ ไดคัทรูป ที่ใช้งานง่ายเพียงไม่กี่คลิ๊ก

ไดคัทรูป

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากลองใช้ เทคนิคไดคัทรูป แต่อาจจะยังใช้โปรแกรมระดับมือโปรยังเป็น ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำ 5 เว็บไซต์และ APP ไดคัทรูปฟรี ที่ให้คุณสามารถดาวน์โหลดใช้ง่าย ๆ และที่สำคัญคุณยังสามารถไดคัทรูปได้เพียงไม่กี่คลิ๊ก

ไดคัทรูป

REMOVE.BG

เว็บไซต์สำหรับ ไดคัทรูปออนไลน์ โดยเฉพาะ ซึ่งเว็บไซต์นี้สามารถใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่คุณกด UPLOAD IMAGE หรือ DROP A FILE แล้วรอไม่ถึง 5 วินาทีแบ็คกราวด์ก็จะถูกตัดออกทันที อีกทั้งยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ให้คุณเลือกใช้งานได้ด้วยทั้ง ADD BACKGROUND, ERASE/RESTROE และ CREATE DESIGN

ไดคัทรูป

PHOTOROOM STUDIO

เว็บไซต์และ แอ พ ได คั ท รูป ที่นอกจากจะให้คุณเข้าใช้งานฟรีแล้ว ยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ให้เลือกใช้งานเพียบทั้ง เรียกได้ว่าเว็บเดียวครบ ที่สำคัญเว็บไซต์นี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องถ่ายภาพสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจ่ายเพียงเดือนละ 149 บาทคุณก็จะสามารถใช้งานในระดับ PRO ได้แล้ว

ไดคัทรูป

BAZAAR

เว็บไซต์และแอป ไดคัทรูปฟรี ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน APP STORE และ GOOGLE PLAY ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือให้เลือกใช้งานเยอะ ไม่ซับซ้อน และที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ อัปเดตให้คุณได้ใช้งานฟรีเรื่อย ๆ รวมไปถึงยังมีเทมเพลตฟรีให้คุณใช้อีกเพียบ ดังนั้นใครที่เป็นมือใหม่และยังใช้เครื่องมือบนโปรแกรมเหล่านี้ไม่เก่งนักเว็บไซต์นี้ก็เหมาะเป็นอย่างยิ่ง 

ไดคัทรูป

PIXLR

เว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ให้คุณ ไดคัทรูปIPHONE และ ANDROID ซึ่งมีให้เลือกใช้ทั้งแบบใช้ฟรีและแบบมีค่าบริการ โดย PIXLR ได้รวบรวมฟีเจอร์ GENERATIVE AI และการแก้ไขรูปภาพซึ่งค่อนข้างครอบคลุมมาก ๆ และสำหรับการรีมูฟแบ็คกราวด์หรือการไดคัทรูปนอกจากคุณจะสามารถเลือกใช้การรีมูฟแบบอัตโนมัติแล้วคุณยังสามารถปรับแต่งด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ได้เองอีกด้วย 

ไดคัทรูป

REMOVAL.AI

คุณสามารถลบพื้นหลังได้ง่าย ๆ ภายใน 3 วินาที อีกทั้งคุณยังสามารถปรับภาพพื้นหลังให้เป็นแบบโปร่งใส สีขาว หรือแบบกำหนดเองก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นการ ไดคัทรูป AI ที่ค่อนข้างเนียนเลยที่เดียว หรือคุณจะปรับแต่งเองตามต้องการ ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการทำภาพโปรโมทสินค้าเป็นอย่างยิ่ง

ไดคัทรูป สิ่งสำคัญที่ทำให้ภาพสินค้าของคุณดูดี และน่าสนใจยิ่งขึ้น

ไดคัทรูป

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่แพลนอยากขายสินค้า หรืออยากลองฝึกแต่งภาพสินค้าของคุณด้วยตัวเอง การเลือกใช้เทคนิค ไดคัท รูป ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่เข้ามาช่วยให้สินค้าของคุณสวย ดูดี และน่าสนใจขึ้นมาได้ เนื่องจากการ ได คั ท รูป คือหนึ่งในเทคนิคที่นอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการทำแบ็คกราวด์แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถจัดเรียงองค์ประกอบภาพได้ตามที่ต้องการ 

นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการตัดองค์ประกอบภาพที่ไม่ต้องการออก เพื่อให้ได้ภาพสวยตามต้องการ โดยเฉพาะในกรณีที่อาจจะเกิดความผิดพลาดระหว่างถ่ายภาพ หรือแม้แต่คนที่อยากถ่ายภาพคู่กับวิวสวย ๆ แต่มีวัตถุอื่นมากวนใจคุณก็สามารถใช้เทคนิคไดคัทเข้ามาช่วยในการลบหรือตัดองค์ประกอบภาพที่ไม่ต้องการออกได้ แบบที่ไม่จำเป็นต้องลบออกทั้งแบ็คกราวด์ หรือจะย้ายวัตถุจากสถานที่หนึ่ง ไปยังสถานที่หนึ่งก็ได้เช่นกัน 

รวมไปถึงการนำภาพถ่ายหลาย ๆ ชอตมารวมกันในภาพเดียว แบบที่ไม่จำเป็นต้องนำวัตถุหรือสิ่งของมาถ่ายในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น ถ่ายคน กับสินค้า เป็นต้น และหากคุณต้องการไดคัทละเอียดมากกว่า AI ของแอปทำให้ เราแนะให้คุณเลือกใช้เครื่องบนแอปในการไดคัทเพื่อให้ได้งานที่ละเอียดมากขึ้น 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
วิธีดูแลรักษา

ICLOUD DRIVE ตัวช่วยดี ๆ ของคนใช้ APPLE

ICLOUD DRIVE

สำหรับใครที่ใช้อุปกรณ์ของ APPLE คงเคยได้ยินชื่อของICLOUDกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่า ICLOUDคืออะไร ซึ่งจริง ๆ แล้ว ICLO UD คือหนึ่งในบริการของ APPLE โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ICLOUDPHOTO และ ICLOUD DRIVE ซึ่งเป็นบริการที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้อ่านบทความนี้จบ แล้วรีบเปิดใช้งานได้เลย

ICLOUD DRIVE พื้นที่การจัดเก็บไฟล์ที่ให้คุณจัดการไฟล์ได้ง่ายขั้น

ICLOUD DRIVE

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับICLOUD DRIVEวันนี้ก่อนที่เราจะไปดูข้อมูลในส่วนอื่น ๆ เราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกันก่อนว่า ICLOUD DRIVEคืออะไร ทำไมถึงดูมีประโยชน์กับชาว APPLE โดยทาง APPLE จะมีบริการเหล่านี้ไว้เพื่อให้ลูกค้าของพวกเขาเข้าถึงบริการและจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบมากขึ้น ซึ่งจะแบ่งบริการออกเป็น 4 บริการหลัก ๆ ด้วยกัน คือ APPLE TV, APPLE MUSIC, APPLE ARCADE และICLOUDโดยICLOUD DRIVEจะเป็นบริการย่อยที่เป็นตัวช่วยที่ให้คุณสามารถเข้าถึงและแชร์ไฟล์ที่จัดเก็บอยู่ในICLOUDได้ 

ICLOUD DRIVE

ICLOUDและICLOUD DRIVEต่างกันอย่างไร

มาถึงตรงนี้แล้ว ยังมีใครสงสัยอยู่ไหมว่าICLOUDและICLOUD DRIVE แตกต่างกันอย่างไร เราขออธิบายง่าย ๆ แบบนี้ว่าICLOUD DRIVEคือบริการย่อยของICLOUDทำหน้าที่เหมือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลพิเศษสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ของ APPLE ทั้ง IPHONE, IPOD TOUCH, IPAD และ MAC โดยจะมีบริการฟรีอยู่ที่ 5GB แต่พิเศษสำหรับ PC ที่ใช้ WINDOWS ก็สามารถใช้บริการดังกล่าวได้เช่นกัน โดยจะต้องเป็น PC ที่ใช้ WINDOWS 10 หรือใหม่กว่า ซึ่งคุณจะเข้าถึงICLOUD DRIVEได้ใน FILE EXPLORER นั่นเอง

ICLOUD DRIVE

ICLOUD DRIVEและICLOUD PHOTO ต่างกันอย่างไร

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าICLOUDจะมีบริการย่อยเป็น 2 บริการคือICLOUD DRIVEและICLOUD PHOTO ซึ่งเราได้ทำความรู้จักกับICLOUD DRIVEกันไปแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าICLOUDทั้ง 2 อย่างนี้ต่างกันยังไง โดยบริการดังกล่าวจะอยู่บนทั้ง IPHONE, IPAD และ MAC เช่นเดียวกับ แต่สำหรับICLOUD PHOTOแล้วจะสามารถจัดเก็บได้เฉพาะรูปภาพและวิดีโอเท่านั้น โดยมีบริการฟรีอยู่ที่ 5GB เช่นเดียวกับ แต่หากใครรู้สึกว่ายังไม่เพียงพอก็สามารถเช่าเพิ่มแบบรายเดือนได้ ซึ่งบริการนี้เรียกได้ว่าเอาใจสายของถ่ายภาพและวิดีโอโดยเฉพาะ

ICLOUD DRIVE

ICLOUD DRIVEใช้อย่างไร

ICLOUD DRIVEวิธีใช้ บนแต่ละอุปกรณ์ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยบน MAC ให้คุณไปที่ FINDER >ICLOUD จะอยู่ที่ SIDE BAR แต่ถ้าคุณกดเข้าไปแล้วโฟลเดอร์ICLOUDยังไม่ขึ้นมา ให้คุณไปที่ SETTING > เปิดใช้งานICLOUD เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำไฟล์ต่าง ๆ เข้าไปเก็บใน ICLOUDของ MAC ได้แล้วบน IPHONE, IPAD หรือ IPOD TOUCH สำหรับ IOS 11 ขึ้นไปคุณสามารถเข้าใช้ไฟล์ได้จากแอปไฟล์ หากไม่มีก็สามารถพิมพ์คนหา หรือดาวน์โหลดและติดตั้งเพื่อใช้งงานบนอุปกรณ์ได้เลย และสำหรับบนICLOUD.COM คุณจะต้องเข้าสู่ระบบICLOUD.COMด้วย APPLE ID ของคุณโดยใช้บน SAFARI

ICLOUD DRIVE ตัวช่วยที่ทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่บนทุกอุปกรณ์

ICLOUD DRIVE

ICLOUD นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่ให้คุณสามารถจัดเก็บข้อมูล และจัดการข้อมูลได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังเป็นที่จัดเก็บข้อมูลเสริมแบบที่คุณไม่จำเป็นต้องไปซื้อฮาร์ดดิสเพิ่ม แต่ตรงนั้นอาจจะยังไม่ใช่จุดเด่นของICLOUDเพราะจุดเด่นของบริการดังกล่าวคือ การที่ทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลใน ICLOUDทั้ง ICLOUD DRIVEและICLOUD PHOTO ได้จะทุกอุปกรณ์เพียงแค่คุณ LOGIN APPLE ID เดียวกัน 

ที่สำคัญสำหรับบริการแบบรายเดือนยังมีหลายแพ็กเกจให้เลือก ซึ่งแต่ละแพ็กเกจก็จะมีบริการพิเศษต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาให้เพียบ เช่น การแชร์กันในครอบครัวได้สูงสุดถึง 5 คน หรือ วิดีโอ HOMEKIT ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บ วิเคราะห์ และดูวิดีโอที่เข้ารหัสจากกล้องวงจรปิดที่บ้านคุณ สำหรับราคา 349 บาท / เดือน จะไม่จำกัดจำนวนกล่องเลยทีเดียว โดยแพ็กเกจเสริมดังกล่าวจะเรียกว่า ICLOUD+ และมีราคาเริ่มต้นที่ 35บาท/เดือน สำหรับ 50GB 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

ภาพหลุด SAMSUNG S24 ULTRA บางขึ้น เสริมความแข็งแรงด้วยไทเทเนียม

SAMSUNG S24 ULTRA

ใครที่เป็นแฟน SAMSUNG ต้องฟินแน่นอน เพราะล่าสุดมีภาพหลุดของ SAMSUNG S24 ULTRA ออกมาแล้ว แถมยังลือกันว่า รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะมาพร้อมตัวเครื่องที่บางลงกว่าเดิม แถมตัวเครื่องยังใช้วัสดุไทเทเนียมเพื่อเสริมความแข็งแรง ที่สำคัญรอบนี้อาจจะมาพร้อมสีใหม่หรูขึ้นกว่าที่เคย นอกจากนี้สำหรับใครที่เป็นสายคอนฯต้องถูกใจสเปคของกล้องที่เขาให้มาอย่างแน่นอน เพราะงานนี้เขาต้องไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง S22 และ S23 ที่สร้างตำนานในหลาย ๆ คอนเสิร์ตจนเกิดกระแสต้องหาซื้อหาเช่ากันเพียบ

สเปคของ SAMSUNG S24 ULTRA รองรับ WI-FI 7 กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์ WIDE 200MP

SAMSUNG S24 ULTRA

สำหรับสเปคของ SAMSUNG S24ULTRA ที่หลุดออกมาและหลาย ๆ ต่างคาดการกันว่า S 24ULTRA ยังคงจะมาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัวเหมือนเดิม ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องULTRA – WIDE 12MP, กล้องเลนส์ WIDE 200MP, กล้อง TELEPHOTO 3X และ กล้อง PERISCOPE ที่คาดว่าน่าจะถูกอัปสเปคจากเดิม 10MP OPTICAL ZOOM 10X และ SPACE ZOOM 100X เพิ่มความละเอียด 50MP ZOOM 5X เข้ามา

SAMSUNG S24 ULTRAสเปค ในส่วนของการเชื่อมต่อ WI – FI ก็จะมีการอัปเดตให้เป็น WI – FI 7 อีกทั้งตัวเครื่องยังจะมีการเปลี่ยนวัสดุมาใช้เป็นไทเทเนียมที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นเราก็คงต้องมาดูกันอีกทีว่า ทางซัมซุงจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน เพราะรุ่นพี่อย่าง IPHONE 15 POR MAX หลังจากที่เปิดตัวออกมาไม่นานก็มีดรามาเรื่องความร้อน รวมไปถึงการที่ทำหน้าจอ และกระจกด้านหลังของเครื่องแตกง่ายกว่าเดิม อีกทั้งยังคาดว่าตัวเครื่องยังจะมีความบางลงยิ่งกว่าเดิม

นอกจากนี้หน้าจอเป็นแบบ DYNAMIC AMOLED 2X 6.8 นิ้ว QHD+ อัตรรีเฟรชที่ 120HZ เพิ่มความแข็งแรงด้วยกระจก CORNING GORILLA GLASS ARMOR ชิปเซต SNAPDRAGON 8 GEN 3 อีกทั้งน่าจะมีความจำสูงสุดถึง 1TB เลยทีเดียว

SAMSUNG S24 ULTRA

มาพร้อมสีใหม่ 4 สี

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากรู้ว่าSAMSUNG GALAXY S 24 ULTRA มีสีอะไรบ้าง เราก็ไม่พลาดที่จะนำข้อมูลมาให้เหมือนกัน โดย GALAXY S 24 ULTRAจะมาพร้อมสีใหม่ทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ TITANIUM BLACK, TITANIUM GRAY, TITANIUM VIOLET และ TITANIUM YELLOW ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และมีความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากวัสดุตัวเครื่องเป็นไทเทเนียมจริง ๆ ตาข่าวลือ เราก็คาดว่าน่าจะมีหลาย ๆ คนที่อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่นักเพราะเมื่อใช้งานไปสักระยะก็อาจจะเกิดคราบเหงื่อ หรือรอยนิ้วมือเกิดขึ้นได้ และอาจจะค่อนข้างขัดในหลาย ๆ คน ที่สำคัญยังมีข่าวลืออีกว่ามือถือรุ่นดังกล่าวยังจะมาพร้อมปากการุ่นใหม่อีกด้วย

SAMSUNG S24 ULTRA

น่าจะเปิดตัวต้นปีหน้านี้

มาถึงในส่วนของคำถามที่หลาย ๆ คนคงอยากรู้กันแล้วว่าSAMSUNG S24 ULTRAเปิดตัวเมื่อไหร่ ล่าสุดทาง SAMMOBILE เปิดเผยว่า SAMSUNGGALAXYS24 จะถูกจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มกราคม 2024 เป็นต้นไป และในวันที่ 18 มกราคม 2024 จะเปิดให้เริ่มสั่งจองล่วงหน้า ซึ่งก็ถือกว่าเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างจะเร็วไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่กำลังอยากเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ โดยเฉพาะสายคอนที่อยากได้มือถือซูมไกล ๆ ถ่ายภาพสวย ๆ ไว้ถ่ายไอดอลของคุณในคอนเสิร์ตกำเงินรอไว้แน่น ๆ เลย 

SAMSUNG S24 ULTRA ราคาอาจจะสูงกว่า S23 ULTRAเล็กน้อย

SAMSUNG S24 ULTRA

มาถึงในส่วนของราคากันบ้างแล้ว โดย SAMSUNG S24ULTRA คาดว่าน่าจะมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าSAMSUNG S23 ULTRAเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเริ่มต้นที่ราว ๆ 43,900 – 45,900 บาท และในซีรีส์นี้น่าจะมี 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ GALAXY S 24, GALAXY S 24 PLUS และ GALAXYS24 UL TRA ซึ่งดูเหมือนว่ารุ่นอื่น ๆ ยังดูเหมือนว่าน่าจะมาพร้อมดีไซน์ที่แตกต่างกว่าที่เคย โดยจะมีลักษณะโค้งมนคล้ายกับ IPHONE แต่จะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวเรียงจากบนลงล่างเช่นเคย แต่อดใจรอเพียงเดือนเดียวเท่านั้นเราก็จะได้รู้กันแล้วว่า สเปครวมไปถึงราคาของอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของSAMSUNGรุ่นนี้จะมีอะไรใหม่บ้าง จะน่าทึ่งขนาดไหน และจะมีดีไซน์ยังไงบ้าง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

IMAC ชิป M3 รุ่นใหม่ล่าสุด เร็วกว่าเดิม 2 เท่า มีให้เลือก 3 รุ่น

IMAC

ล่าสุด IMAC รุ่นใหม่ล่าสุดเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยครั้งนี้เขามาพร้อมกับชิป M3 ชิปตัวใหม่ล่าสุด ที่ให้อุปกรณ์ของคุณประมวลผลได้เร็วขึ้น ที่สำคัญตอนนี้ชิป M3 ยังเปิดตัวเฉพาะบน MACBOOK PRO และ IMAC เท่านั้น และสำหรับ IMAC ชิป M3 ถึงแม้ว่าจะดีไซน์ภายนอกจะยังคงเป็นดีไซน์เดิม แต่ทาง APPLE ยังเคลมว่าครั้งนี้เร็วขึ้น แรงขึ้นกว่าเดิม

เปิดสเปค IMAC ชิป M3 มีอะไรใหม่ และน่าสนใจบ้าง

IMAC

สำหรับใครไม่ได้ติดตามข่าวการเปิดตัวของ IMAC ชิป M3 ซึ่งเป็น IMAC รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวออกมาในช่วงปลายปี 2023 ก็อาจจะยังไม่ทราบว่า สเปคที่เขาให้มามีอะไรบ้าง และน่าสนใจขนาดไหน วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเฉพาะของรุ่น M3 รวมไปถึงการเปรียบเทียบระหว่างรุ่นชิป M1 และ M3 มาให้เพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว และที่สำคัญบอกเลยว่า สเปคที่เขาให้มาครอบคลุมทุกความต้องการอย่างแน่นอน

IMAC

สเปค IMAC ชิป M3

IMAC สเปค ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย เพราะถึงแม้ว่ารูปลักษณ์และดีไซน์ภายนอกจะไม่มีอะไรใหม่ แต่หากเราโฟกัสในส่วนของชิป M3 ที่ทาง APPLE พัฒนาขึ้นมาใหม่จึงทำให้ IMAC รุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงาน และความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญชิป M3 ยังให้คุณสามารถเปิดใช้งานโปรแกรม แถบเบราว์เซอร์ ไปจนถึงมัลติมีเดียที่กราฟิกหนัก ๆ พร้อมกันได้ทั้งหมดแบบที่เครื่อง IMAC ยังคงทำงานได้อย่างไหลลื่น 

นอกจากนี้ APPLE ยังเคลมไว้ว่า เร็วกว่า IMAC พร้อมชิป M1 สูงสุด 2 เท่า, เร็วกว่า IMAC รุ่น 27 นิ้ว โปรเซสเซอร์ INTEL สูงสุด 2.5 เท่า และ เร็วกว่า IMAC รุ่น 21.5 นิ้ว โปรเซสเซอร์ INTEL สูงสุด 4 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้งยัง SAFARI ยังทำงานได้เร็วขึ้นสูงสุดถึง 30% อัตราเฟรมที่เร็วขึ้นสูงสุด 50% ที่ให้คุณสามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลยิ่งกว่าที่เคย ที่สำคัญ ADOBE PHOTOSHOP ยังเร็วขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งทั้งหมดที่เราพูดมาจึงทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด และยิ่งไปกว่านั้นอุณหภูมิของเครื่องนี้ยังอยู่ที่ 10 – 35 องศาเซลเซียส และเงียบจึงไม่มีอะไรมากวนใจขณะที่คุณกำลังทำงาน

IMAC

เปรียบเทียบระหว่าง IMAC ชิป M1 และ M3

  • IMACชิป M1 มี 2 รุ่นให้เลือก คือรุ่น CPU 8 – CORE GPU 7 – CORE SSD ความจุ 256GB GPU พอร์ต THUNDERBOLT USB4 จำนวน 2 พอร์ต น้ำหนัก 4.46 กก. และ CPU 8 – CORE GPU 8 – CORE SSD ความจุ 512GB พอร์ต THUNDERBOLT USB 4 และ USB 3 รวม 4 พอร์ต น้ำหนัก 4.48 กก. ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อม NEURAL ENGINE แบบ 16 – CORE หน่วยความจำแบบรวม ขนาด 8GB 
  • IMAC ชิป M3 ซึ่งเป็น IMAC รุ่นล่าสุด ก็มี 2 รุ่นให้เลือกเช่นกัน คือรุ่น CPU 8 – CORE GPU 8 – CORE SSD ความจุ 256GB พอร์ต THUNDERBOLT USB4 จำนวน 2 พอร์ต น้ำหนัก 4.43 กก. และ CPU 8 – CORE GPU 10 – CORE SSD ความจุ 256GB หรือ​ SSD ความจุ 512GB THUNDERBOLT USB 4 และ USB 3 รวม 4 พอร์ต 4.48 กก. ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อม NEURAL ENGINE แบบ 16 – CORE หน่วยความจำแบบรวม ขนาด 8GB 

IMAC ราคาเริ่มต้น 49,900 บาท มี 7 สีให้เลือก อุปกรณ์ให้มาครบครัน

IMAC

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของIMACรุ่นชิป M3 ที่เรานำข้อมูลมาฝากกันในวันนี้ ปัจจุบันคุณสามารถซื้อได้ทั้งหน้าร้าน และบนออนไลน์ได้แล้ว โดย IMACราคา เริ่มต้นที่ 49,900 บาท มี 4 สีให้เลือก ได้แก่ ฟ้า, เขียว, ชมพู และเงิน ราคา 56,900 บาท สำหรับรุ่นที่มาพร้อม GPU 10 – CORE พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความจุ 256GB และ 63,900 บาท สำหรับรุ่นที่มาพร้อม GPU 10 – CORE พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ความจุ 512GB ที่พิเศษไปกว่านั้นคือรุ่น GPU 10 – CORE ยังจะมาพร้อม GIGABIT ETHERNET และ MAGIC KEYBOARD พร้อม TOUCH ID มี 7 สีให้เลือก ได้แก่ ฟ้า, เขียว, ชมพู, เงิน, เหลือง, ส้ม และม่วง

นอกจากนี้สำหรับอุปกรณ์ในกล่องที่ให้มาสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปก็ถือว่าครบครับเลยทีเดียว ทั้งสายไฟ, อะแดปเตอร์แปลงไฟ, MAGIC MOUSE, สาย USB – C เป็น LIGHTNING และ MAGIC KEYBOARD อีกทั้งถ้าคุณต้องการปรับแต่งIMACของคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหน่วยความจำ, ตัวจัดเก็บข้อมูล, ETHERNEET, เมาส์, คีย์บอร์ด หรือแม้กระทั่งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง คุณก็สามารถปรับแต่งตั้งแต่วันสั่งซื้อได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
News

ไม่มีไม่ได้แล้ว! APPLE WATCH SERIE9 สวยขึ้น สว่างขึ้น ฉลาดขึ้น 

APPLE WATCH SERIE9

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ APPLE WATCH SERIE9 สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก APPLE ที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนต่างตั้งตารอคอย ซึ่งครั้งนี้ APPLE เคลมไว้ว่าครั้งนี้เข้ากลับมาอีกครั้งกับรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น จอสว่างขึ้น ที่สำคัญฉลาดขึ้นอีกด้วย งานนี้ใครที่เป็นแฟน ๆ ของ APPLE หรือกำลังอยากได้สมาร์ทวอทช์สวย ๆ มาไว้ใช้งาน รุ่นนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว

เปิดสเปค APPLE WATCH SERIE9 รุ่นใหม่ล่าสุด สั่งงานง่ายแค่กระดิกนิ้ว

APPLE WATCH SERIE9

เราเชื่อว่าเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำหรับใครที่ได้ชมงานเปิดตัวสินค้าของ APPLE ก็คงจะตื่นเต้นไม่น้อยหลังจากที่ในวันดังกล่าว APPLE WATCH SERIE 9 ก็ได้เปิดตัวออกมาด้วย ซึ่งสมาร์ทวอทช์รุ่นดังกล่าว APPLE WATCH รุ่นล่าสุด มาพร้อมการสั่งการรูปแบบใหม่ที่ให้คุณสามารถสั่งการได้ง่าย ๆ เพียงกระดิกนิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อม WATCHOS10 ที่ทำให้หน้าจอ APPLE WATCH มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพจิตและสุขภาพสายตาเข้ามาเพื่อให้คุณสามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ได้บนข้อมือของคุณ

เปรียบเที่ยบ APPLE WATCH SERIE 9 และ SERIE 8

มาดูในส่วนของการเปรียบเทียบกันก่อนว่าระหว่าง APPLE WATCH SERIE 9 กับ APPLE WATCH SERIE 8 ว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นแตกต่างกันยังไงบ้าง เพราะเราเชื่อว่ามีหลายคนเช่นกันที่กำลังลังเลใจอยู่ตอนนี้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี

APPLE WATCH SERIE9
  • APPLE WATCH SERIES 9 มีขนาดของตัวเรือน 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 45 มม. ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียม ละสแตนเลสสตีล จอภาพ LTPO OLED RETINA แบบติดตลอด สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียมกระจกหน้าเป็นวัสดุ LON – X GLASS และสแตนเลสสตีลด้านหน้าเป็นวัสดุแบบผลึกแซฟไฟร์ ควบคุมได้ง่าย ๆ เพียงจีบนิ้วและแตะกัน 2 ครั้ง ความสว่างหน้าจอสูงสุด 2,000 NITS โปรเซสเซอร์แบบ DUAL – CORE 64 บิต ความจุ 64GB แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง สูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังกันน้ำได้สูงสุด 50 ม. และทนฝุ่นที่ระดับ IP6X
  • APPLE WATCH SERIES 8 มีขนาดของตัวเรือน 2 ขนาดคือ 41 มม. และ 45 มม. ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียม และสเตนเลสสตีล จอภาพ LTPO OLED RETINA แบบติดตลอด ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียมกระจกหน้าเป็นวัสดุ LON – X GLASS และสเตนเลสสตีลด้านหน้าเป็นวัสดุแบบผลึกแซฟไฟร์ เช่นเดียวกัน APPLE WATCH SERIES 9 โปรเซสเซอร์แบบ DUAL – CORE 64 บิต ความจุ 32GB แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้สูงสุดถึง 50 เมตร และ ทนฝุ่นที่ระดับ IP6X เช่นเดียวกัน 

APPLE WATCH SERIE 9 มีให้เลือก 8 สี ราคาเริ่มต้นเพียง 15,900 บาท 

APPLE WATCH SERIE9

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากเป็นเจ้าของ APPLE WATCH SERIE 9 ปัจจุบันสมาร์ทวอทช์รุ่นดังกล่าววางจำหน่ายในไทยทั้ง ONLINE และ ONLINE แล้วเป็นที่เรียบร้อย โดย APPLE WATCH 9 มีให้เลือกทั้งหมด 8 สีด้วยกัน โดยแบ่งเป็นรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม 5 สี ดังนี้ สีชมพู, สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเงิน และสีแดง และ รุ่น สเตนเลสสตีลอีก 3 สีได้แก่ สีทอง, สีเงิน (คนละแบบตัวเรือนอะลูมิเนียม) และสีกราไฟต์

APPLE WATCH SERIE9

APPLE WATCH SERIES 9 ราคา ตัวเรือนอะลูมิเนียม ขนาด 41 มม. รุ่น GPS จะเริ่มต้นที่ 15,900 บาท, ตัวเรือนอะลูมิเนียม ขนาด 45 มม. รุ่น GPS ราคา 16,900 บาท, ตัวเรือนอะลูมิเนียม ขนาด 41 มม. รุ่น GPS + CELLULAR ราคา 19,900 บาท และ ตัวเรือนอะลูมิเนียม ขนาด 45 มม. รุ่น GPS + CELLULAR ราคา 20,900 บาท ซึ่งราคาสูงกว่า APPLE WATCH SERIES 8 ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นหากเทียบในรุ่นสเปคให้เคียงกันเรารู้สึกว่า SERIES 9 ก็เป็นตัวเลือกที่ที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

APPLE WATCH SERIE9

ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 41 มม. มาพร้อม GPS + CELLULAR ราคาเริ่มต้น 27,900 บาท และขนาด 45 มม. มาพร้อม GPS + CELLULAR ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท นอกจากนี้ยังมาพร้อมสายให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ทั้งสายยางแบบ SOLO LOOP, แบบ SPORT BAND และ NIKE SPORT BAND สายผ้าแบบ SPORT LOOP, MAGNETIC LINK, BRAIDED SOLO LOOP และ NIKE SPORT LOOP และสุดท้ายคือสายแบบสแตนเลสสตีล ที่มีให้เลือกถึง 2 แบบ คือ Milanese Loop MILANESE LOOP และ LINK BRACELET ซึ่งสายแต่ละแบบก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

HILO-88.COM
HILO-88.COM