สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
News

WINDOWS 11 ปรับโฉมใหม่ ใช้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์เพียบ ปลอดภัยกว่าเดิม

WINDOWS 11

MICROSOFT WINDOWSนับว่าเป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่มีประวัติอย่างยาวนาน เริ่มตั้งแต่ปี 1985 หรือเมื่อ 38 ปีที่แล้ว ภายใต้ชื่อ WINDOWS1.0 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อันเรื่องชื่อของ MICROSOFT ที่มีผู้ครองสถิติรวยที่สุดในโลก 13 ปีซ้อนอย่าง บิล เกตส์ และนักธุรกิจบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดลำดับที่ 57 พอล อัลเลน เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งล่าสุดWINDOWSก็ได้เดินทางมาถึง WINDOWS 11 แล้วเป็นที่เรียบร้อย และครั้งนี้ดูเหมือนว่าทางผู้พัฒนายังได้มีการปรับโฉมใหม่ให้ใช้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์เพียบ ที่สำคัญคือปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม

WINDOWS 11 ให้อะไรมาบ้าง ใครที่ไม่ควรพลาดบ้าง

WINDOWS 11

เปิดให้ดาวน์โหลดและอัปเดตแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ WINDOWS11 ระบบปฏิบัติการใหม่จาก MICROSOFT ซึ่งครั้งนี้เขาเปิดตัวมาพร้อมกับ WINDOWSเวอร์ชั่น 23H2 ที่ครั้งนี้ไปเน้นในเรื่องของฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ AI มากขึ้น โดย วินโดว์11 เปิดตัวมาเรียกได้ว่าจะเอาใจทุกสายเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะใครที่เป็นสายเกมเมอร์ ที่ครั้งนี้จัดหนักจัดเต็มมากยิ่งขึ้น

WINDOWS 11

ปรับโฉม ปรับฟีเจอร์ให้ใช้งานง่ายขึ้น

WINDOWS11เวอร์ชั่นล่าสุด นอกจากจะมีการปรับโฉมให้มีความเรียบง่ายแล้ว ครั้งนี้เขายังได้มีการปรับฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่นในส่วนของฟีเจอร์ COPILOT ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่ทาง MICROSOFT ดึงเอา AI แบบใหม่เข้ามาใช้ในฟีเจอร์นี้ จึงให้ผู้ที่ใช้ WINDOWS11 หาข้อมูลและไอเดียต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย

WINDOWS 11

โปรแกรม PAINT ทำงานร่วมกับ AI

สำหรับใครที่สงสัยว่า WINDOWS 11มีอะไรใหม่ สิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ โปรแกรม PAINT ที่เราเชื่อว่าเด็กก่อนยุค 2000s คงต้องคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และครั้งนี้ MICROSOFT เขาจะทำให้ PAINT กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ด้วยความสามารถในเรื่องของการ GENERATIVE AI ดังนั้นเพียงแค่คุณเลือกไปที่ปุ่ม COCREATOR คุณก็จะสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานสุดอลังการได้แบบไม่มีขีดจำกัด

WINDOWS 11

CLIPCHAMP โปรแกรมตัดต่อวิดีโอใหม่ 

WINDOWS 11ดีไหม ถ้าเป็นสายตัดต่อวิดีโอคงต้องตอบว่าดีแน่นอน เพราะครั้งนี้เขาเพิ่ม CLIPCHAMP ซึ่งเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอใหม่ ที่ให้คุณสามารถตัดต่อวิดีโดได้ครบจบในโปรแกรมเดียว และที่สำคัญไปกว่านั้นคุณยังสามารถให้ AI ช่วยตัดวิดีโอของคุณได้ด้วย เพียงแค่คุณโยนวิดิโอเข้าไปในโปรแกรม หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI ได้เลย

WINDOWS 11

ปรับฟีเจอร์เกมให้กราฟิกสมจริงขึ้น

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า ทั้งWINDOWS 11และ WINDOWS11PRO ได้มีการปรับฟีเจอร์เกมเอาใจสายเกมเมอร์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ PC GAME PASS ที่ให้คุณได้เล่นเกม PC ระดับคุณภาพหลายร้อยรายการ ไปจนถึงการได้เป็นเจ้าของเกมใหม่ก่อนใคร AUTO HDR ที่ช่วยปรับกราฟิกของเกมให้สวยสมจริง ให้เต็มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ และสุดท้ายคือในส่วนของ DIRECTSTORAGE ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการดาวน์โหลดเกมที่เร็วขึ้นกว่าที่เคย

WINDOWS 11 รองรับโปรเซสเซอร์ 1GHZ รองรับ RAM 4 GB 

WINDOWS 11

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใช้อุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ WINDOWS แล้วอยากติดตั้งWINDOWS 11แต่ไม่มั่นใจว่า คอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊คของคุณจะสามารถติดตั้ง WINDOWS เวอร์ชันนี้ได้ไหม เราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับสเปคของอุปกรณ์ที่รองรับมาให้แล้ว โดยจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ตั้งแต่ 1GHZ แบบ 64 บิต 2 – CORE ขึ้นไป หรือ System on a Chip (SoC) RAM 4GB ที่เก็บข้อมูล 64GB ขึ้นไป และการ์ดจอ DIRECT X 12 หรือรุ่นใหม่กว่าที่มีโปรแกรมควบคุม WDDM 2.0

แต่ทั้งนี้การรันบนอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีความลื่นไหลมากกว่าอีกทั้งอุปกรณ์ที่จะสามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่น11 ได้จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ WINDOWS10 เวอร์ชัน 2004 ขึ้นไปเท่านั้น แต่หากเก่ากว่าก็จะไม่สามารถอัปเดตได้ และสำหรับ ใครที่อยากรู้ว่า ซื้อWINDOWS 11แท้กี่บาท เราก็นำข้อมูลมาให้แล้วเช่นกัน สำหรับ WINDOWS11 HOME ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,990 บาท และ WINDOWS11PRO จะอยู่ที่ 8,999 บาท แต่สำหรับในช่วงนี้ใครที่ถอยโน้ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ใหม่หลาย ๆ ค่ายก็จะแถมWINDOWSแท้มาให้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
แนะนำแอปฯ

แนะนำ 5 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ใช้งานง่าย ฟีเจอร์เพียบ ตอบโจทย์มือใหม่

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

ปัจจุบันสื่อวิดีโอเป็นสื่ออีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นสื่อที่สามารถใช้ในเรื่องของการเรียนการสอน และใช้อัปลงบนโซเชียลแล้ว ปัจจุบันวิดีโอยังเป็นสื่ออีกอย่างหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นวันนี้ใครที่อยากก้าวเข้าสู่วงการครีเอเตอร์เรามี 5 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ที่ทั้งใช้งานง่าย ฟีเจอร์เพียบ แถมยังตอบโจทย์มือใหม่ มาแนะนำทุก ๆ คนแล้ว

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ดาวน์โหลดฟรี รองรับหลายอุปกรณ์

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตามหา โปรแกรม ตัดต่อวิดีโอ ฟรีไปไว้ใช้งาน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือก โปรแกรม ตัด ต่อ วิดีโอ ฟรี อันไหนดี ถึงจะตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานของเรา วันนี้เรารวมโปรแกรมเหล่านั้นมาไว้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว ที่สำคัญของเลยว่า มีดีไม่แพ้แอปแพง ๆ แน่นอน

CAP CUT

โปรแกรม ตัด ต่อ วิดีโอ จากค่าย TIK TOK ที่เชื่อว่าในชั่วโมงนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก โดย CAP CUT มีให้ใช้ทั้งในรูปแบบของ APP และ เว็บไซต์ รองรับทั้ง IOS และ ANDROID และจุดเด่นของ CAP CUT คือมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้หลากหลาย มีเพลงจาก TIKTOK และที่สำคัญยังมีเอฟเฟกต์ เทมเพลต และสติ๊กเกอร์ให้ใช้ฟรีเพียบ แถมยังสามารถตัดต่อได้ทั้งคลิปสั้น และคลิปยาว และถึงแม้ในช่วงท้ายจะติดลายน้ำของ CAP CUT มาด้วย แต่ผู้ใช้งานก็สามารถลบในส่วนนี้ออกได้ก่อน EXPORT ได้เช่นกัน

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

SHOT CUT

โปรแกรม ตัด ต่อ วิดีโอ WINDOWS 10 ฟรี ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมฟรี ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย อินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ตามที่ต้องการ และที่สำคัญยังเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์การใช้งานของมือใหม่อย่างแน่นอน แต่ข้อเสียของโปรแกรมนี้ก็มีอยู่บ้าง เพราะเนื่องจากเป็นโปรแกรมฟรีจึงอาจจะไม่เหมาะหากจะนำไปใช้ในการตัดต่องานที่มีความซับซ้อนสักเท่าไร ดังนั้นเราจึงจะไม่เห็นคนที่เป็นระดับมืออาชีพพูดถึงโปรแกรมนี้เท่าไรนัก

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

FILMORA

โปรแกรม ตัด ต่อ วิดีโอ PC ที่รองรับเฉพาะ WINDOWS, ANDROID และ IOS โดยความน่าสนใจของโปรแกรมนี้ นอกจากจะมาพร้อมอินเตอร์เฟซที่ดูทันสมัย สวยงาม และเรียบง่ายแล้ว FILMORA ยังมีทั้งเอฟเฟกต์หลากหลาย เพลงถูกลิขสิทธิ์มากกว่า 1,200 เพลง ตัดต่อง่ายไม่ซับซ้อน และที่สำคัญคือยังสามารถใช้ AI เข้ามาร่วมในการตัดต่อวิดีโอของคุณได้ด้วย และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ โปรแกรมนี้สามารถปรับอินเตอร์เฟซให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ ซึ่งในโปรแกรมจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 เลย์เอาท์

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

LIGHTWORKS FREE EDITION

โปรแกรม ตัด ต่อ วีดีโอ ใน คอม ที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแบบไม่จำกัดอายุการใช้งาน และโปรแกรมที่มีค่าบริการทั้งแบบรายเดือน รายปี และ แบบซื้อถาวร โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $9.99 เท่านั้น แต่สำหรับมือใหม่ที่ต้องการตัดงานที่ไม่มีความซับซ้อนนัก ตัวโปรแกรมฟรีก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะเนื่องจากสามารถทำได้ทั้งการแก้ไขไทม์ไลน์, EXPORT HD 720P, การบันทึกอัตโนมัติ, ADVANCED TRANSITIONS, เอฟเฟกต์พื้นฐาน และอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังรองรับทั้ง WINDOWS, MACOS และ LINUX

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

HITFILM EXPRESS

อีกหนึ่ง โปรแกรม ตัด ต่อ วีดีโอ ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ VFX (VISUAL EFFECTS) ดังนั้นจึงเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่ และมือใหม่ และที่สำคัญโปรแกรมนี้ยังไม่ใช่เพียงแค่จะเด่นในเรื่องการใส่เอฟเฟกต์เท่านั้น แต่ยังเด่นในเรื่องของความไหลลื่นของโปรแกรม ช่วยให้คุณสามารถทำงานที่มีความซับซ้อนได้แบบไม่สะดุด 

เหตุผลที่มือใหม่ควรเริ่มต้นจาก โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ฟรี

โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ

หลังจากที่เราไปดูโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ทั้ง 5 โปรแกรม จะเห็นได้ว่าเราค่อนข้างที่จะแนะนำโปรแกรมต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับมือใหม่โดยเฉพาะ แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า “มือใหม่ทำไมจะซื้อโปรแกรมมาใช้งานไม่ได้” เราอยากแนะนำแบบนี้ว่า เนื่องจากโปรแกรมหลาย ๆ โปรแกรมจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่นบางโปรแกรมจะมีจุดเด่นที่จะทำ VISUAL EFFECTS, TRANSITIONS ไปจนถึงพรีเซ็ตต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งโปรแกรมแพง ๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ อีกทั้งการดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี หรือ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอในโทรศัพท์ มาลองใช้ก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ให้ผู้ใช้งานได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือบนโปรแกรมเพื่อให้เกิดความชำนาญ ก่อนที่จะอัปสกิลในเลเวลต่อไป

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
แนะนำแอปฯ

AUDACITY โปรแกรมอัดเสียงฟรีในตำนาน แต่ยังมีลมหายใจ และได้รับความนิยม

AUDACITY

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากได้โปรแกรมฟรีไว้ใช้บันทึกเสียง AUDACITY เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากโปรแกรมนี้จะเป็นโปรแกรมฟรีที่รองรับหลายระบบปฏิบัติการแล้ว ยังเรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมระดับตำนานที่ปัจจุบันยังคงได้รับความนิยม อีกทั้งคุณภาพเสียงที่ได้จากAUDACITY ยังเป็นไฟล์เสียงคุณภาพดี สามารถนำไปใช้ร่วมกับชิ้นงานอื่น ๆ ได้อีก

ทำความรู้จักกับ AUDACITY โปรแกรมอัดเสียงฟรีที่รองรับไฟล์ WAV

AUDACITY

AUDACITYเป็นโปรแกรมที่เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 หรือประมาณ 23 ปีที่แล้ว ซึ่ง ออแดซิตี นับว่าเป็นโปรแกรมอัดเสียงที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เหมาะกับผู้ที่เป็นมือใหม่ และอยากได้โปรแกรมอัดเสียงที่ให้ไฟล์เสียงคุณภาพดี มีให้เลือกทั้ง OGG VORBIS, MP3 รวมไปถึงไฟล์ WAV ซึ่งเป็นไฟล์มาตรฐานที่มีคุณภาพสูง ไม่ถูกบีบอัดแม้ว่าจะมีการส่งไฟล์ไปมาหลายครั้ง 

ที่สำคัญไปกว่านั้นAUDACITYยังถือว่าเป็นโปรแกรมที่มีเครื่องมีและฟีเจอร์ให้เลือกใช้แบบครบครัน สามารถเรียกใช้แบบไม่จำเป็นต้องกดคีย์ลัด จึงเหมาะกับคนที่เป็นมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งหน้าตาของโปรแกรมยังมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ตามสไตล์ของโปรแกรมยุค 90s – 2000s ซึ่งจะเรียกว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโปรแกรมนี้เลยก็ว่าได้ และวันนี้เราได้นำทั้งวิธีดาวน์โหลดAUDACITYและวิธีใช้โปรแกรมAUDACITY เบื้องต้นมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว

AUDACITY

วิธีดาวน์โหลดAUDACITY

สำหรับวิธีในการ ดาวน์โหลดAUDACITY สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน โดยให้คุณกดเข้าไปในลิงค์นี้ https://www.audacityteam.org/download/ จากนั้นเลือกดาวน์โหลดโปรแกรมให้ตรงกับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของคุณ โดย AUDACITYรองรับทั้ง WINDOWS, MACOS และ LINUX

โดยขั้นตอนในการดาวน์โหลด และติดตั้งง่าย ๆ ดังนี้ คลิ๊กลิงค์ AUDACITY> DOWNLOAD FOR (เลือกระบบปฏิบัติการ) > เลือกการดาวน์โหลดโปรแกรมให้ตรงกับสเปคคอมของคุณ > SAVE โปรแกรม > ติดตั้งโปรแกรม

AUDACITY

วิธีใช้โปรแกรมAUDACITY

วิธีใช้AUDACITY ถือว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้งานได้ง่าย และไม่ซับซ้อนเท่าไรนัก โดยเมนูสำหรับการบันทึกเสียงทั้งหมดจะอยู่ที่ด้ายซ้ายบนของโปรแกรม และมีปุ่มขนาดใหญ่สามารถเลือกใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยจะมีทั้งปุ่ม PLUS, PLAY, STOP และอื่น ๆ ให้เลือกใช้ อีกทั้งยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ให้เลือกใช้ โดยเราจะเปิดให้เครื่องมือแสดงทั้งหมด หรือไม่ก็ได้ โดยให้ไปที่ VIEW > TOOLBARS > เลือกเครื่องมือที่ต้องการเปิด – ปิด ซึ่งสำหรับใครที่เป็นมือใหม่เราแนะนำให้เปิดใช้งานทั้งหมด และเครื่องมือจะปรากฏขึ้นด้านบนของโปรแกรม 

AUDACITY

นอกจากนี้สำหรับใครที่ใช้ WINDOWS และอยากเช็กว่า ไมโครโฟนที่เราเชื่อมทำงานหรือยังให้ไปที่ SETTING > SOUND > INPUT เลือกไมโครโฟนที่เราต้องการใช้งาน > ลองพูดแล้วดูว่ากราฟเสียงขยับไหม จากนั้นให้กลับไปที่โปรแกรมอีกครั้ง แล้วให้สังเกตที่รูปไมโครโฟน (อยู่ใต้เมนูบันทึกเสียง) > คลิ๊กเลือกไมค์โครโฟนที่ต้องการใช้ในการบันทึกเสียง 

AUDACITYตัวช่วยในการตัดเสียง และรบเสียงรบกวน

AUDACITY

นอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ช่วยในเรื่องของการบันทึกเสียงแล้ว คุณยังสามารถใช้ AUDACITYตัดเสียงรบกวนได้อีกด้วย โดยการตัดเสียงรบกวนบนโปรแกรมนี้มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเราแนะนำให้ไปที่ WAVEFORM ที่เป็นเส้นตรง (เสียงเงียบ) > EFFECT > NOISE REMOVAL AND REPAIR > NOISE REDUCTION > เซ็ตตัวเลข NOISE REDUCTION: 10, SENSITIVITY: 6.00, FREQUENCY SMOOTHING (BANDS): 3 > GET NOISE PROFILE > CTRL + A > EFFECT > REPEAT NOISE REDUCTION (ค่าความดังของเสียงสามารถเซ็ตได้ตามต้องการ)

นอกจากนี้คุณยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ลงในเสียงได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสียงกล้อง หรือเสียงสะท้องเป็นต้น อีกทั้งยังสามารถบันทึกเสียงได้หลายแทร็ก แทรกเพลง และเสียงดนตรีเข้ามาในไฟล์เสียงได้ ช่วยให้เสียงที่บันทึกมีความน่าสนใจขึ้นได้แบบที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมอื่น ๆ เข้ามาช่วยเลยก็ว่าได้ และด้วยความครบของโปรแกรมนี้ จึงทำให้หลาย ๆ คนเลือกใช้โปรแกรมนี้เป็นสื่อในการสอน รวมไปถึงยังเป็นโปรแกรมที่ถูกแนะนำให้กับคนที่อยากได้โปรแกรมอัดเสียงดี ๆ ไว้ใช้งานแบบปากต่อปาก 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
แนะนำแอปฯ

5 โปรแกรมอัดเสียง ใช้ง่าย คุณภาพเสียงดี ดาวน์โหลดฟรี

โปรแกรมอัดเสียง

ในอดีตสื่อที่ถูกผลิตออกมาส่วนใหญ่จะมีเพียงแค่สื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในปัจจุบันการผลิตสื่อนั่นมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการบันทึกเสียงเพื่อไปใช้ในการผลิตสื่อก็ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ก็อาจจะยังไม่รู้ว่ามี โปรแกรมอัดเสียง ไหนบ้าง ที่นอกจากจะใช้งานง่าย คุณภาพเสียงดี และสามารถดาวน์โหลดใช้ฟรี ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 โปรแกรมอัดเสียงที่ทั้งฟรี และดีมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว

รวม โปรแกรมอัดเสียง ที่ทั้งฟรี และ ดี ตอบโจทย์มือใหม่ทุกคน

โปรแกรมอัดเสียง

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้ โปรแกรม อัดเสียง วันนี้เรามี 5 โปรแกรมอัดเสียงฟรี มาแนะนำทุกคนแล้ว โดยเฉพาะใครที่เป็นมือใหม่ เราเชื่อว่าโปรแกรมต่าง ๆ เหล่านี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน ที่สำคัญนอกจากจะเป็นโปรแกรมฟรีแล้ว ยังมีฟีเจอร์ หรือเครื่องมือบนโปรแกรมให้เลือกใช้เพียบ

โปรแกรมอัดเสียง

AUDACITY

โปรแกรมอัดเสียง AUDACITY เป็นโปรแกรมอัดเสียงฟรีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และที่สำคัญคือยังสามารถรองรับได้ทั้งบน MACOS และ WINDOWS ซึ่งโปรแกรมนี้มีรูปแบบของอินเตอร์เฟสมีความเป็นโปรแกรมยุค 90s ที่เรียบง่าย ใช้งานไม่ซับซ้อน สามารถปรับจูนเสียง ลดนอยส์ หรือแก้ปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับเสียงที่บันทึกก็ได้เช่นกัน และที่สำคัญยังเหมาะกับทั้งการบันทึกและตัดต่อเสียงอีกด้วย 

โปรแกรมอัดเสียง

VOICE RECORDER บน WINDOWS (WINDOWS SOUND RECORDER) 

สำหรับใครที่ใช้คอมพิวเตอร์ระบบ WINDOWS อยากจะยังไม่รู้ว่า โปรแกรมอัดเสียงในคอม WINDOWS 10 และ WINDOWS อื่น ๆ มีมาให้แล้วเรียบร้อย ในชื่อของโปรแกรม VOICE RECORDER โดยคุณสามารถนำชื่อของโปรแกรมไปค้นหาบนช่องค้นหาและเปิดใช้งานโปรแกรมได้เลย โดยโปรแกรมจะไม่มีความซับซ้อน มีเครื่องมีเบื้องต้นให้เลือกใช้ ทั้งบันทึกเสียง, ตัดเสียง, แชร์ไฟล์เสียง รวมไปถึงการเช็ตไมโครโฟน เป็นต้น

โปรแกรมอัดเสียง

CAKEWALK BY BANDLAB

โปรแกรมอัดเสียงPC ฟรี ที่หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นโปรแกรมฟรีที่ดีเทียบเท่ากับโปรแกรมแพง ๆ หลาย ๆ โปรแกรมเลยก็ว่าได้ เป็นโปรแกรมที่ไม่ได้แค่สามารถอัดเสียง หรือบันทึกเสียงได้เท่านั้น แต่เป็นถึงโปรแกรมทำเพลงที่มีเครื่องมือและฟีเจอร์ที่หลากหลาย รองรับปลั๊กอิน VST และไม่จำกัดจำนวน แทรคเสียง ดังนั้นใครที่อยากได้โปรแกรมอัดเสียงเทพ ๆ CAKEWALK BY BANDLAB ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

โปรแกรมอัดเสียง

GARAGEBAND

โปรแกรม อัดเสียง ที่รองรับเฉพาะอุปกรณ์ของ APPLE เท่านั้น โดยโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมฟรี ที่นอกจากคุณสามารถอัดเสียงได้แล้ว ยังสามารถใช้ทำเพลงได้ด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่ทุกคน เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าโปรแกรมนี้เป็นเหมือนรุ่นน้องของ LOGIC PRO X เลยก็ว่าได้ เพราะโปรแกรมนี้จะไม่สามารถรองรับปลั๊กอินใด ๆ ได้ ดังนั้นใครที่ใช้อุปกรณ์ของ APPLE อยู่ และอยากหาโปรแกรมอัดเสียงดี ๆ ไว้ใช้งานสักอัน คุณไม่ควรพลาดโปรแกรมนี้เป็นอย่างยิ่ง 

โปรแกรมอัดเสียง

WAVEFROM FREE

โปรแกรมอัดเสียงในคอม ที่รองรับทั้ง MACOS, WINDOWS และ LINUX ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นอกจากจะสามารถใช้อัดเสียงได้แล้ว ยังเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้ทำเพลงได้ด้วย และที่สำคัญคุณภาพการใช้งานยังเทียบเท่ากันโปรแกรมราคาแพง ๆ เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งปลั๊กอิน VST หน้าตาของโปรแกรมมีความเรียบง่าย ใช้งานไม่ยาก ตอบโจทย์มือใหม่อย่างแน่นอน

ใช้โปรแกรมทำเพลงแทน โปรแกรมอัดเสียง ทั่วไปเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่ดีขึ้น

โปรแกรมอัดเสียง

สำหรับการเลือกใช้โปรแกรมอัดเสียง ควรเลือกให้เข้ากับประเภทของชิ้นงาน เช่นหากอยากได้ โปรแกรมอัดเสียงชัด ๆ การเลือกใช้โปรแกรมทำเพลงก็จะช่วยให้ไฟล์เสียงที่ได้มีคุณภาพมากกว่า และที่สำคัญคือโปรแกรมเหล่านั้นยังมาพร้อมความสามารถที่หลากหลายมากกว่า เช่นการเชื่อมต่อไมโครโฟนที่มีคุณภาพ หรือความสามารถในการรองรับปลั๊กอิน

โปรแกรมอัดเสียง

โดยเฉพาะคนที่ต้องการแนวเสียงที่หลากหลาย เพื่อนำไปใช้ประกอบชิ้นงานอื่น ๆ ต่อไป เช่น โทนเสียงในฟิล์ม, เสียงหลอน ๆ หรือแม้แต่กระทั่งเสียงในแผ่นเสียง โปรแกรมทำเพลงหลาย ๆ โปรแกรมที่รองรับปลั๊กอินก็จะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากเทียบกับโปรแกรมบันทึกเสียงทั่ว ๆ (ที่ไม่ใช้โปรแกรมระดับมืออาชีพ) ก็อาจจะมีข้อจำกัดในการใช้งานที่น้อยกว่านั่นเอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สอนใช้

ตั้งค่ากล้องไอโฟน ยังไงให้ถ่ายภาพสวย ถูกใจสายโซเชียล

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และเลือกซื้อไอโฟนซึ่งมีจุดเด่นของกล้องเพื่อที่จะได้ถ่ายภาพสวย ๆ เพื่อนำมาอัปบนโซเชียลให้เพื่อน ๆ ได้อิจฉากันเล่น ๆ แต่พอถ่ายภาพไอโฟนทีไรก็รู้สึกว่าไม่สวยสักที ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเทคนิคในการ ตั้งค่ากล้องไอโฟน ยังไงให้ถ่ายภาพสวย ถูกใจสายโซเชียล ซึ่งใช้เทคนิคเหล่านี้บอกเลยว่าได้ภาพสวยไม่มีเอ๊ะแน่นอน

5 วิธีและเทคนิค ตั้งค่ากล้องไอโฟน ใช้เทคนิคเป็นได้ภาพสวยทุกช็อตแน่นอน

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

สำหรับใครที่ไม่ใช่สายเทคนิคเราเชื่อว่าการถ่ายภาพให้สวย หรือ ตั้งค่า กล้องไอโฟน ให้สวยได้ดังใจก็อาจจะไม่ใช้เรื่องง่ายเท่าไรนัก ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำวิธีและเทคนิค ตั้ง ค่า กล้อง ไอ โฟน ทั้ง 5 เทคนิคมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนแล้ว และเราเชื่อว่าหลายคนแทบอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า บนกล้องไอโฟนมีฟีเจอร์เหล่านี้มาให้ด้วย

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

ปรับโฟกัสและการเปิดรับแสง

ตั้ง ค่า กล้อง ไอ โฟน ให้ ชัด ด้วยการปรับโฟกัสและเปิดรับแสง ซึ่งนับว่าเป็นตั้งค่ากล้องพื้นฐานของกล้องไอโฟนเลยก็ว่าได้ เนื่องจากฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ APPLE ใส่มาบนไอโฟนตั้งแต่รุ่นแรก ๆ เลยก็ว่าได้ และถึงแม้ว่าไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ จะมีฟีเจอร์ออโต้โฟกัสมาให้แล้ว แต่การที่เราปรับเองแบบแมนนวลก็จะทำให้เราเลือกจุดโฟกัสที่ถูกใจได้มากขึ้น ที่สำคัญสำหรับใครที่อยากได้ภาพถ่ายละมุนสไตล์เกาหลีก็สามารถเปิดรับแสงเพิ่มได้ โดยการปรับโฟกัสและการเปิดรับแสงให้ทำดังนี้ เปิดแอปกล้อง > แตะหน้าจอบริเวณที่ต้องการโฟกัส > ให้ลากปุ่มปรับการเปิดรับแสง (รูปดวงอาทิตย์) ขึ้นหรือลงเพื่อปรับการเปิดรับแสง

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

ใช้เปิดแฟลชถ่ายภาพ

เราเชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่กลัวการใช้แฟลชในการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง แต่ที่จริงแล้วหากเราเลือกใช้แฟลชได้ถูกที่ถูกเวลาบอกได้เลยว่า ภาพที่คุณถ่ายออกมาสวยจึ้งแน่นอน โดยเฉพาะแฟลชในไอโฟน 14 ขึ้นไปที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ซึ่งการเปิดแฟลชถ่ายภาพนั้นจะค่อนข้างเหมาะกับการถ่ายภาพกลางคืน ที่เราสามารถโพสท่าเล่นกับแสงแฟลชได้หลากหลาย สำหรับการ ตั้งค่ากล้อง IPHONE เพื่อเปิดใช้แฟลชก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ เปิดแอป กล้อง > แตะปุ่มแฟลช (รูปสายฟ้ามุมซ้ายบน) เพื่อเปิดหรือปิดแฟลชอัตโนมัติ หรือแตะลูกศรเพื่อเปิดเมนูด้านล่างหน้าจอก็ได้เช่นกัน 

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

ถ่ายรูปโดยใช้ฟิลเตอร์

ฟิวเตอร์เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ APPLE ก็ใส่ให้มาตั้งแต่ไอโฟนรุ่นแรก ๆ เช่นเดียวกัน และมีหลายคนอาจจะไม่เคยลองใช้ฟีเจอร์นี้เลย ซึ่งการถ่ายโหมดรูปภาพ หรือ โหมดภาพถ่ายบุคคลคุณสามารถเลือกใช้ฟีเจอร์นี้ร่วมได้ด้วย เพื่อให้รูปที่ได้มี TONE&MOOD ที่โดดเด่นและชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งคุณยังไม่ต้อง ตั้งค่ากล้องไอโฟนให้สวย แต่อย่างใด เพียงแค่คุณไปที่แอปกล้อง > แตะที่ปุ่นฟีเจอร์มุมขวาบน > ปัดฟิลเตอร์ไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อดูตัวอย่าง > เลือกฟิลเตอร์ที่ต้องการ > แตะปุ่มชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพ หรือแตะลูกศรแล้วเรียกการใช้งานจากเมนูด้านล่างก็ได้เช่นกัน

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

ใช้เส้นตาราง 9 ช่อง

สำหรับเทคนิคการใช้ตาราง 9 ช่องเป็นเทคนิคที่ทั้งช่างภาพมือใหม่และมืออาชีพเลือกใช้ในการถ่ายภาพ เนื่องจากการใช้ตาราง 9 ช่อง เป็นหนึ่งในทฤษฎีถ่ายภาพที่จะทำให้องค์ประกอบภาพมีความสมดุลกันนั่นเอง และสำหรับ วิธี ตั้ง ค่า กล้อง ไอ โฟน เพื่อเปิดใช้ตาราง 9 ช่องให้คุณไปที่ ตั้งค่า > กล้อง > เปิดใช้งานเส้นตาราง (GRID)

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

เซลฟี่กล้องหน้าภาพไม่กลับด้าน

สำหรับใครที่รู้สึกว่าถ่ายรูปกล้องหน้าไอโฟนยังไงก็รู้สึกว่าได้มุมไม่สวยถูกใจสักที แต่ที่จริงแล้วอาจจะเป็นเพราะกล้องไอโฟนเมื่อถ่ายรูปกล้องหน้าแล้วภาพจะถูกกลับด้านจึงอาจจะทำให้ภาพที่ได้ยังอาจจะไม่สวย หรือบางคนอาจจะรู้สึกว่าใบหน้าของเราดูไม่เหมือนในกล้อง ดังนั้นเราแนะนำให้ไป ตั้งค่ากล้องไอโฟน ไม่ให้กลับด้าน โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > กล้อง > เปิดใช้งานกลับข้างรูปภาพด้านหน้า

ตั้งค่ากล้องไอโฟน ร่วมกับการแต่งภาพช่วยให้ภาพของคุณสวยขึ้นอีกขั้น

ตั้งค่ากล้องไอโฟน

นอกจากการ ตั้งค่ากล้อง ไอโฟน ที่ช่วยให้ภาพถ่ายของคุณสวยขึ้นแล้วการ แต่งภาพไอโฟน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ภาพของคุณสวยตรงใจขึ้น เนื่องจากบนไอโฟนมีฟีเจอร์ในการแต่งรูปที่ครบ และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแอปรูปภาพที่ค่อนข้างครบไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยลองแต่งภาพบนไอโฟน เราก็อยากแนะนำให้ลองใช้เป็นอย่างยิ่ง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
วิธีดูแลรักษา

ถ้าอยาก ประหยัดพื้นที่ ICLOUD ให้มีพื้นที่มากขึ้นให้ทำแบบนี้

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

สำหรับใครที่ใช้สินค้าของ APPLE ก็คงจะรู้จักกันดีว่า APPLE จะมีบริการ ICLOUD ซึ่งเป็นบริการสำหรับจัดเก็บ หรือแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถจัดการและเข้าถึงข้อมูลของคุณได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าใครที่อยาก ประหยัดพื้นที่ ICLOUD วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่ให้คุณสามารถจัดการพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลบน ICLOUD ใครที่ไม่อยากจ่ายเงินซื้อ ICLOUD เพิ่มก็สามารถลองทำตามวิธีที่เรานำมาฝากวันนี้ได้เลย

วิธีที่จะช่วยให้คุณ ประหยัดพื้นที่ ICLOUD มากยิ่งขึ้น

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

หากคุณอยาก ประหยัดพื้นที่ICLOUD แต่ยังไม่รู้ว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วย เพิ่มพื้นที่ ICLOUD ฟรี ของคุณได้บ้าง เพราะพื้นที่ ICLOUD ที่ APPLE ให้มาจะอยู่ที่ 5GB เท่านั้น ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีเคลียร์พื้นที่ในการเก็บข้อมูลบน ICLOUD มาแนะนำทุกคนแล้ว โดยให้คุณไปที่ตั้งค่า > เลือก APPLE ID > กดเลือก ICLOUD > จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล > เลือกลบข้อมูลที่ต้องการได้เลย *แต่ในกรณีนี้จะทำให้ไฟล์บน ICLOUD ที่คุณลบหายไปอย่างถาวร และไม่สามารถกู้ข้อมูลคืนได้ ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนำเท่าไหร่นัก

แต่เราอยากให้เพื่อน ๆ ลองสำรวจความต้องการของตัวเองก่อนว่า ไฟล์ประเภทไหนที่เราต้องการบันทึกไว้บน ICLOUD เช่นบางคนอาจจะเป็น รูปภาพ, วิดีโอ, โน้ต หรือ ไฟล์ ICLOUD DRIVE เป็นต้น เนื่องจากบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าไฟล์ต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกสำรองข้อมูลบน ICLOUD ด้วยซึ่งวิธีปิดการสำรองข้อมูลบน ICLOUD มีวิธีต่าง ๆ ดังนี้

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

ลบไฟล์บน ICLOUD DRIVE

การเลือกลบไฟล์บน ICLOUD DRIVE นอกจากจะช่วยให้คุณสามารถลบเฉพาะไฟล์ที่ไม่ต้องการได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ของ ICLOUD ของคุณได้ด้วย โดยให้คุณไปที่แอปไฟล์ > เลือกหา > ICLOUD DRIVE > กดจุด 3 จุด (มุมขวาบน) > เลือก > จากนั้นเลือกไฟล์ที่ต้องการลบ 

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

ปิดการสำรองรูปและวิดีโอบน ICLOUD

สำหรับใครที่เคยสงสัยว่า เก็บรูปใน ICLOUD ดีไหม เราต้องบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เพราะนอกจากจะทำให้คุณประหยัดพื้นที่ของอุปกรณ์แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งการสำรองข้อมูลที่ป้องกันไม่ให้ไฟล์ภาพ และวิดีโอที่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำของคุณหายอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากประหยัดพื้นที่ของ ICLOUD และไม่ต้องการสำรองรูปบน ICLOUD แล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยให้คุณไปที่ ตั้งค่า > แอปรูปภาพ > ปิดรูปภาพ ICLOUD

แต่สำหรับบางคนรูปภาพและวิดีโอบางส่วนอาจจะถูกบันทึกไว้เฉพาะบน ICLOUD ดังนั้นถ้าหากไม่อยากให้รูปภาพหาย ให้คุณกดเลือก “ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอ” ซึ่งจะเหมือนเป็นการดึงข้อมูลกลับมาไว้บนอุปกรณ์ของคุณ แต่ถ้าพื้นที่ของอุปกรณ์เต็มก็จะทำให้ไม่สามารถดาวน์โหลดได้

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

ลบไฟล์บนแอป NOTE 

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ไฟล์การบันทึก NOTE ทั้งหมด จะไปอยู่บน ICLOUD ทั้งหมด ดังนั้นการลบ NOTE ที่ไม่จำเป็นจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้พื้นที่ของ ICLOUD เพิ่มขึ้น โดย วิธีลบข้อมูลใน ICLOUD IPHONE บนแอปโน้ตให้คุณไปที่ แอปโน้ต > ICLOUD ทั้งหมด > กดจุด 3 จุด (มุมขวาบน) > เลือกโน้ต > เลือกโน้ตที่ต้องการลบ > กดลบ > เลือกเสร็จสิ้น เท่านี้โน้ตต่าง ๆ ก็จะถูกลบและไปอยู่ในขยะและจะถูกลบอย่างถาวรภายในเวลาประมาณ 40 วัน 

ถ้า ประหยัดพื้นที่ ICLOUD ไม่ได้ก็ซื้อพื้นที่ของ ICLOUD เพิ่มไปเลย

ประหยัดพื้นที่ ICLOUD

หลังจากที่เราไปพูดคุยกันเรื่องประหยัดพื้นที่ ICLOUD กันไปแล้ว สุดท้ายก่อนจากกันไปในวันนี้เรามาพูดถึงเรื่องของการที่เราไม่ต้องประหยัดกันแล้วดีกว่า โดยบริการดังกล่าวจะมีชื่อว่า ICLOUD+ ซึ่งเป็นบริการให้เช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ซึ่งจะมี 5 แพ็กเกจให้เลือกได้แก่ 50GB 35บาท/เดือน, 200GB 99บาท/เดือน, 2TB 349บาท/เดือน, 6TB 999บาท/เดือน และ 12TB 1,990บาท/เดือน ซึ่งแต่ละแพ็กเกจก็จะมีบริการเสริมพิเศษต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป

แล้วถ้าอยาก ซื้อพื้นที่ ICOUD จ่ายเงินยังไง ที่จริงการจ่ายค่าบริการต่าง ๆ ของ APPLE สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ โดย APPLE ID จะมีบริการชำระเงินอัตโนมัติให้คุณเลือกได้ตามที่ต้องการทั้งบัตรเครดิต, เดบิต, TRUE MONEY WALLET, SHOPEE PAY และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งบริการนี้ไม่เพียงแค่ให้คุณสะดวกต่อการชำระค่าบริการ ICLOUD+ เท่านั้นแต่ยังรวมถึงการเช่าซื้อแอปต่าง ๆ บน APP STORE อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

HILO-88.COM
HILO-88.COM