สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
แนะนำแอปฯ

Apple เตรียมดำเนินการสร้าง Apple TV ใหม่พร้อมกล้องและลำโพงในตัว

บริษัท Apple เป็นบริษัทในที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ซึ่งอุปกรณ์ใหม่ ๆ นั้นมีหลากหลายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือว่า Apple กำลังดำเนินการพัฒนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่จะรวมเข้ากับกล่องรับสัญญาณ Apple TV อย่างลำโพง HomePod และกล้องสำหรับการประชุมทางวิดีโอผ่านทีวีที่เชื่อมต่อพร้อมฟังก์ชั่นสมาร์ทโฮมอื่น ๆ ตามที่คุณคุ้นเคย แต่จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง? วันนี้ผู้เขียนก็ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากทุกคนแล้วค่ะ ตามมาดูกันเลยค่ะ

Apple TV

Apple TV คืออะไร?

Apple TV เป็นเครื่องเล่นสื่อแบบสตรีมมิ่งผลิตภัณฑ์จาก Apple ที่ใช้เนื้อหาจากอินเทอร์เน็ตและแสดงบนทีวีของคุณ Apple TV มีลักษณะเป็นกล่องเล็ก ๆ สีดำ โดยมีอุปกรณ์เสริมเป็น Remote ที่ใช้ระบบสัมผัสในการตอบโต้ Apple TV มี 2 รุ่น นั่นคือ รุ่น Apple TV 4K สามารถรองรับวิดีโอ 4K Ultra HD และ HDR ในขณะที่รุ่น Apple TV HD สามารถรองรับ 1080p HD นอกจากนี้รุ่น 4K ยังมีข้อกำหนดทางเทคนิคระดับสูงสำหรับระบบไร้สายอีเธอร์เน็ตและอื่น ๆ อีกด้วย

ส่วนตัวแอพ Apple TV จะถูกติดตั้งมากับทุกอุปกรณ์ของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad หรือตัวอุปกรณ์ Apple TV เองก็มีเช่นกัน เป็น Application ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือก ซื้อ เช่า และรับชมภาพยนต์ และดูรายการต่าง ๆ ได้ ครบจบภายในแอพเดียว นอกจากนี้ Apple TV

อีกทั้งยังมีบริการ Apple TV+ (Plus) เป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่นซึ่งบริการ Apple TV+ นั้นจะเป็นแผนการอัพเกรดบริการของ Apple TV ในการเข้าถึงการสตรีมรายการและภาพยนตร์ Apple Original ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์พิเศษโดยมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน โดย Apple TV มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจใหม่ ๆ มากมาย ให้คุณได้ลองใช้งาน ดังนี้ 

  • การดูวิดีโอสตรีมมิ่ง : นอกเหนือจากตัวเลือกวิดีโอดิจิทัลของ Apple แล้วอุปกรณ์ยังรองรับผู้ให้บริการความบันเทิงชั้นนำอื่น ๆ เช่น Netflix, Amazon Video, Hulu, HBO GO / HBO NOW, WatchESPN, PBS, YouTube และอื่น ๆ 
  • ฟังสตรีมเสียง : Apple TV รองรับ Apple Music และยังมีแอพ Pandora และ Sirius XM ในตัว สำหรับบริการเพลงอื่น ๆ เช่น Spotify 
  • เล่นเกม : Apple TV เชื่อมต่อกับ App Store ที่มีเกมมากมายให้คุณดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์
  • ใช้แอพเบ็ดเตล็ด : เช่นเดียวกับการเล่นเกม App Store มีแอพประเภทอื่น ๆ มากมายเช่น โซเชียลมีเดีย การแชร์รูปภาพ สื่อการช็อปปิ้ง สภาพอากาศ และอื่นๆ อีกมากมาย ใน App Store
Apple TV

ช่วงเริ่มต้นของการสร้างอุปกรณ์ Apple TV ใหม่ที่มีกล้องและลำโพงในตัว

Apple กำลังอยู่ให้ช่วงเริ่มต้นของการสร้างอุปกรณ์ Apple TV ใหม่ที่มีกล้องและลำโพงในตัว โดยการรวมความสามารถอื่น ๆ ของอุปกรณ์ พร้อมกับฟังก์ชั่นกล่อง Apple TV มาตรฐาน เช่นการดูวิดีโอและเกม รวมถึงการใช้ลำโพงอัจฉริยะ เช่นการเล่นเพลงและการใช้ผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Siri ของ Apple อีกทั้งยังมีการเสริมกล้องสำหรับการประชุมทางวิดีโอผ่านทีวี แน่นอนว่าหาก Apple เปิดตัวในครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึงการนำเสนอฮาร์ดแวร์สมาร์ทโฮมที่ดีที่สุดของ Apple จนถึงปัจจุบัน

สำหรับกล้อง Apple TV จะสามารถเปิดใช้บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรแบบ FaceTime ซึ่งมีอยู่แล้วใน Macs, iPhone และ iPads และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวิดีโอแชทผ่านทีวีได้ ซึ่งดูเหมือนว่าคุณสมบัติเหล่านี้ทัดเทียมเท่ากับ Amazon Fire TV Cube ซึ่งรองรับเว็บแคมสำหรับวิดีโอแชทได้ แต่ไม่มีกล้องของตัวเองหรือFacebook Portal TV ที่มีกล้องในตัว

ส่วนลำโพงของอุปกรณ์ Apple TV จะมีลักษณะคล้าย HomePod เพื่อใช่เล่นเพลงและพูดคุยกับ Siri แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Bloomberg ได้เตือนไว้ว่า Apple ยังสามารถตัดสินใจยกเลิกโครงการนี้ได้ ในขณะที่ Apple คาดว่าจะประกาศ Apple TV รุ่นใหม่ที่มีการควบคุมระยะไกลที่ดีขึ้นและมีหน่วยประมวลผลได้เร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวภายในเดือนกันยายน ของปี 2021

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
สอนใช้

วิธีตั้งค่าและใช้งาน iCloud Drive ของ Apple

iCloud Drive

หลายคนคงทราบกันดีว่า iCloud Drive เป็นหนึ่งบริการของ iCloud มีจุดเด่นที่การจัดเก็บไฟล์เอกสาร, งานนำเสนอ, สเปรดชีต, ไฟล์ PDF, รูปภาพ และเอกสารประเภทอื่นๆ ได้ อีกทั้งคุณยังสามารถอัปเดตไฟล์และโฟลเดอร์ พร้อมเข้าถึงรายการที่อัปเดตได้จากทุกที่ โดยสามารถเปิดใช้งานได้บนอุปกรณ์ของ Apple นั่นคือ Mac, iPhone, iPad หรือแม้แต่พีซีที่ใช้ Windows 

ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ดูแพงในการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล แต่เมื่อเทียบกับบริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ แล้ว ยังถือว่าเป็นข้อดีในการใช้งานได้กับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณอยู่บ้าง เพราะคุณสามารถใช้เพื่อรักษาการเข้าถึงเอกสารและรายการอื่น ๆ ทั้งหมดในอุปกรณ์ Apple, Mac, iPhone และ iPads นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับ Windows โดยใช้แอปพลิเคชันได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่จะสามารถใช้บริการ iCloud Drive ได้ต้องใช้ iOS 13 ขึ้นไปหรือ macOS Catalina ขึ้นไปบน iPhone, iPad หรือ Mac ส่วนพีซีต้องใช้ Windows 10 ขึ้นไป เพื่อเข้าถึง iCloud สำหรับ Windows 

iCloud เป็นระบบไฟล์จริงดังนั้นคุณสามารถสร้างและบันทึกรายการลงในโฟลเดอร์ที่สร้างขึ้นเองได้ซึ่งจะมีประโยชน์หากคุณทำงานในอุปกรณ์หลายเครื่อง หากคุณใช้ iCloud Drive กับ Mac หลายเครื่องการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับไฟล์เอกสารและเดสก์ท็อปบน Mac ทั้งสองเครื่องจะซิงค์กัน Mac ที่คุณเปิดใช้งานล่าสุดจะสร้างโฟลเดอร์ของตัวเองสำหรับเนื้อหาของเอกสารและเดสก์ท็อปจะซิงค์ด้วย

วิธีตั้งค่า iCloud Drive

สำหรับผู้ที่ต้องใช้งาน iCloud Drive บนอุปกรณ์ Appleไม่ว่าจะเป็น Mac, iPhone หรือ iPad คุณจะได้รับการตั้งค่าโดยอัตโนมัติ อย่างคนที่ใช้งาน macOS ของ Apple ไฟล์จะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์เดสก์ท็อปและเอกสารของคุณไปยัง iCloud โดยอัตโนมัติ ทำให้ไฟล์เหล่านี้พร้อมใช้งานในทุกอุปกรณ์ของคุณ ซึ่ง iCloud Drive ให้คุณสามารถเปิดแก้ไขและซิงค์เอกสารและไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ทุกที่ แต่อาจจะกินความจุไดรฟ์ออนไลน์ของคุณทำให้พื้นที่ว่างในไดรฟ์ไม่เพียงพอ

หากพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอคุณสามารถซื้อพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้ แต่หากต้องการปิดการใช้งานบันทึกโดยอัตโนมัติให้ไปที่การตั้งค่าระบบ> iCloud> ตัวเลือก iCloud Driveยกเลิกการเลือกโฟลเดอร์เดสก์ท็อปและเอกสาร ที่ด้านบนสุดของรายการ นอกจากนี้คุณยังสามารถจัดเก็บไฟล์รูปแบบใดก็ได้บน iCloud Drive ด้วยขีด จำกัด สูงสุดที่ 50GB เท่านั้น

สำหรับคนที่ใช้งาน iOS iCloud Drive จะซิงค์ข้อมูลโดยใช้การเชื่อมต่อมือถือของคุณเว้นแต่คุณจะตั้งค่าไม่ให้ทำเช่นนั้น หรือหากคุณเดินทางไปต่างประเทศ คุณอาจต้องการปิดการใช้งานนี้ ให้ไปที่การตั้งค่า> ข้อมูลมือถือ> iCloud Drive และสลับ ‘ข้อมูลมือถือ’ เป็นปิด (ค่าเริ่มต้นเป็นสีเขียว คือ เปิด)

iCloud Drive

iCloud สำหรับ Windows

Apple ได้นำเสนอการใช้งาน iCloud สำหรับ Windows ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้รูปภาพ วิดีโอ อีเมล ไฟล์ และบุ๊กมาร์กสามารถเข้าถึงได้ทั้งบนพีซี Windows และอุปกรณ์ iOS ของคุณ โดยการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำในไฟล์เหล่านั้นบนอุปกรณ์ Windows หรือ Mac ทางออนไลน์ จะถูกบันทึกซ้ำในอุปกรณ์อื่น ๆ ของคุณด้วย อีกทั้งคุณสามารถเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ได้จาก Mac บางเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า โดยการเปิดเมนู Finder ใหม่ คลิกรายการเมนู Go แล้วเลือก iCloud Drive หากคุณทำงานกับไฟล์อย่าลืมบันทึกการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นลงใน iCloud Drive ด้วยนะคะ เนื่องจาก Mac ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า จะไม่บันทึกโดยอัตโนมัติเหมือนที่ทำบน macOS

วิธีแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์บน iCloud Drive

คุณสามารถแชร์และทำงานร่วมกันในไฟล์เฉพาะและทั้งโฟลเดอร์ของเอกสารรูปภาพและรายการอื่น ๆ ได้ โดยใช้ iCloud Drive เมื่อคุณแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์กับคนอื่นด้วยวิธีข้างล่างนี้ คนที่คุณแชร์ให้จะได้รับลิงก์ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงไฟล์ต้นฉบับได้และหากคุณย้ายไฟล์นั้นพวกเขาก็จะไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป

วิธีแชร์โฟลเดอร์หรือไฟล์กับผู้อื่นโดยใช้ iCloud Drive มีดังนี้

  • แตะโฟลเดอร์หรือไฟล์ค้างไว้
  • แตะแชร์จากนั้นเลือกเพิ่มผู้คน
  • จากนั้นให้คุณเลือกที่ตัวเลือกการแบ่งปันของคุณและวิธีที่คุณต้องการแบ่งปันรายการ

มีตัวเลือกการแชร์ 4 แบบที่แตกต่างกัน เมื่อคุณแชร์รายการจาก iCloud Drive คุณยังเลือกวิธีส่งลิงก์ไปยังโฟลเดอร์หรือไฟล์ให้บุคคลนั้นเมื่อสร้างตัวเลือกการแชร์ที่ต้องการแล้ว โดยทั้ง 4 ตัวเลือกมี ดังนี้

  • อนุญาตให้เฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้นที่จะดูและแก้ไขเนื้อหา : แตะแชร์ตามด้วยเลือก “เฉพาะคนที่คุณเชิญเท่านั้น” และ“เปลี่ยนแปลงได้” 
  • อนุญาตให้เฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้นที่จะดูเนื้อหา : เลือก “เฉพาะคนที่คุณเชิญ” และ“ดูเท่านั้น”
  • อนุญาตให้ทุกคนที่มีลิงก์ดูและแก้ไขเนื้อหา : ตัวเลือกที่ปลอดภัยน้อยที่สุดคือเลือก “ทุกคนที่มีลิงก์” และ“ สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
  • อนุญาตให้ทุกคนที่มีลิงก์ดูเนื้อหา : เลือก “ทุกคนที่มีลิงก์” และ “ดูเท่านั้น” 

นอกจากนี้หากคุณเป็นเจ้าของไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่แชร์คุณสามารถเปลี่ยนตัวเลือกการเข้าถึงสำหรับคน ๆ เดียวหรือทุกคนที่เกี่ยวข้องย้อนหลังได้ ในการดำเนินการดังกล่าวให้เลือกรายการแตะแชร์จากนั้นเลือกแสดงผู้คน

วิธีเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud 

คุณสามารถจัดเก็บไฟล์รูปแบบใดก็ได้บน iCloud Drive ด้วยขีดจำกัดสูงสุดที่ 50GB ซึ่งสำหรับบางคนพื้นที่ความจุเท่านี้ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ผู้เขียนขอแนะนำให้อัพเกรดแผนบริการพื้นที่เก็บข้อมูล แต่ก่อนที่คุณจะอัพเกรดโปรดปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้การจัดสรรพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีที่ Apple มอบให้ อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

แต่เมื่อคุณตัดสินใจลงทุนในแผนอื่นวิธีที่ง่ายที่สุดคือเปิด iCloud ในการตั้งค่าหรือการตั้งค่าระบบของคุณ แล้วให้มองหารายการที่เรียกว่า iCloud Storage ซึ่งจะแสดงสถานะปัจจุบันของพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณ สำหรับคนส่วนใหญ่รูปภาพและวิดีโอจะใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ หากต้องการเปลี่ยนไปใช้แผนบริการพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นให้แตะจัดการแล้วเลือกซื้อพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม หรือแตะตัวดาวน์เกรดหรือยกเลิกแผนบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud ของคุณ หากคุณต้องการลดพื้นที่เก็บข้อมูลของคุณ คุณสามารถซื้อพื้นที่เก็บข้อมูลได้ในราคาเริ่มต้นที่ 200GB ราคา 2.99 ดอลลาร์/เดือน (94 บาท) และ 2TB ราคา 9.99 ดอลลาร์/เดือน (314 บาท)

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
News

ข่าวลือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของคุณสมบัติกล้อง iPhone 13 ที่เหนือกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยมีมา

iPhone 13

มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะเปิดตัวภายในเดือนกันยายน ปี 2021 ซึ่งข่าวลือเกี่ยวกับคุณสมบัติของ iPhone 13 เริ่มมีมาตั้งแต่ก่อนที่ iPhone 12 ปี 2020 จะเปิดตัวอีกค่ะ สำหรับ iPhone 13 ปี 2021 คาดว่าจะมีลักษณะคล้ายกับ iPhone 12 โดยมี 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 12 mini ขนาด 5.4 นิ้ว, iPhone 12 ขนาด 6.1 นิ้ว และขนาด 6.7 นิ้ว สำหรับ iPhone รุ่น “Pro” ระดับไฮเอนด์ทั้งสองเครื่อง

มีรายงานข่าวหลายเว็บคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงสำหรับ iPhone 13 ปี 2021 จะมีฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกับ iPhone12 มีการปรับปรุงกล้อง, โปรเซสเซอร์ A-series ที่เร็วขึ้น, ชิป 5G ใหม่จาก Qualcomm, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นและการปรับแต่งรอยบาก อีกทั้งยังมีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีการออกแบบแบบไม่ใช้พอร์ต ซึ่งหลายความว่า iPhone 13 จะอาศัยการชาร์จแบบไร้สายทั้งหมด แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่อีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนตั้งตารอ นั่นคือ เทคโนโลยีกล้องของ iPhone 13 ซึ่งมีข่าวลือมากมายว่ากล้อง iPhone 13 จะได้รับการปรับปรุงที่เหนือกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยมีมา ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

iPhone 13

การออกแบบกล้องสำหรับ iPhone 13

มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีการปรับปรุงเลนส์ Ultra Wide ใน รุ่น “Pro” ที่มีรูรับแสงต่ำลงเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อยและระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยสำหรับเลนส์ Wide 

iPhone 13 รุ่นมาตรฐานมีการออกแบบกล้องเลนส์คู่ให้สามารถมองเห็นเลนส์ที่จัดเรียงในแนวทแยงมุมมากกว่าการออกแบบแนวตั้ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เนื่องจากอุปกรณ์จะยังคงใช้เลนส์ Wide และ Ultra Wide เหมือนเดิม และมีการเปลี่ยนแปลงบางประการ เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเซ็นเซอร์ออปติคอลสำหรับเลนส์ Wide 

ไอโฟน 13 รุ่น Pro อาจจะมีความหนากว่า iPhone 12 0.2 mm เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และมีหน่วยกล้องด้านหลังขนาดใหญ่และหนาตามภาพข้างล่าง ซึ่งหน่วยกล้องที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวของเซ็นเซอร์ และดูเหมือนว่าจะมีขนาดเท่ากับหน่วยกล้องด้านหลังของ iPhone 12 Pro Max

มีรายงานระบุว่าระบบกล้องหลังของ iPhone 13 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ระบบกล้องของ iPhone 13 Pro Max จะยื่นออกมามากกว่า iPhone 12 Pro Max ในปัจจุบันถึง 0.87 มม. เป็นผลให้ความหนาของตัวเครื่องโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.25 มม. ขนาดเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นการออกแบบกล้องในแนวทแยงใน iPhone 13 

Leaker Max Weinbach กล่าวว่า โมดูลกล้องใหม่ของ iPhone 13 จะไม่แบนสนิท แต่เลนส์แต่ละตัวจะยื่นออกมาจากตัวเครื่องน้อยลง นอกจากนี้การรันโมดูลกล้องในทันทีจะมีขนาดเล็กลงซึ่งจะช่วยลดความหนาของระบบกล้อง

iPhone 13

การปรับปรุงกล้อง iPhone 13 ที่เหนือกว่า iPhone 12

มีการคาดการณ์ว่า iPhone 13 จะมีการปรับปรุงกล้องที่โดดเด่น พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว Sensor-shift โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในที่แสงน้อยและการป้องกันการสั่นไหวโดยมีคุณสมบัติลดการสั่นไหวของกล้องที่มีข่าวลือว่าจะมีใช้สำหรับเลนส์ Wide และเลนส์ Ultra Wide ของรุ่น Pro 

iPhone 13 รุ่นระดับไฮเอนด์จะได้รับกล้องอัลตร้าไวด์ที่อัพเกรดพร้อมเลนส์ 6 องค์ประกอบและการปรับปรุงรูรับแสง f/1.8 ซึ่งจะปล่อยแสงได้มากกว่าเลนส์รูรับแสง f/2.4 ในปัจจุบัน ทำให้การถ่ายรูปมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย และคาดว่าจะมีการปรับปรุงโฟกัสอัตโนมัติ

นักวิเคราะห์ของ Barclays เชื่อว่า iPhone 13 ทั้งสี่รุ่นจะมีเลนส์กล้อง Ultra Wide ที่ได้รับการอัพเกรดพร้อมรูรับแสงที่กว้างขึ้น f/1.8 แต่ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้ ยืนยันว่าการอัพเกรด Ultra Wide นี้ถูกนำมาใช้เฉพาะกับ iPhone รุ่น Pro เท่านั้น และนักวิเคราะห์ของ Barclays ยังเชื่อว่าเลนส์เทเลโฟโต้ที่ได้รับการอัพเกรดใช้เฉพาะใน iPhone 12 Pro Max จะถูกนำมาใช้กับ iPhone 13 Pro ในปี 2021 ด้วยเช่นกัน 

Ross Young นักวิเคราะห์ด้าน Display เชื่อว่า iPhone 13 ทุกรุ่นจะใช้เซ็นเซอร์กล้องเดียวกับ iPhone 12 Pro Max และ Ming-Chi Kuo คาดการณ์ว่า iPhone 13 mini, iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จะมีเลนส์มุมกว้าง 7P แบบเดียวกับที่มีรูรับแสง f/1.6 เหมือนกับ iPhone 12 รุ่นก่อน ๆ อีกทั้ง iPhone 13 Pro Max ที่ใหญ่ขึ้นนั้นจะมีเลนส์มุมกว้างรูรับแสง f/1.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรูรับแสง f/1.6 บน iPhone 12 Pro Max

Weinbach อ้างว่า iPhone 13 ปี 2021 จะมีการนำความสามารถของกล้องถ่ายภาพดวงดาวในการถ่ายภาพท้องฟ้ามาใช้ คาดว่าจะเป็นโหมดพิเศษที่เปิดใช้งานเมื่อกล้อง iPhone 13 ชี้ไปที่ท้องฟ้าทำให้อุปกรณ์ตรวจจับดวงจันทร์ และ ดวงดาว พร้อมทั้งสามารถปรับการรับแสงได้ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า iPhone 13 จะสามารถถ่ายวิดีโอโหมดแนวตั้งใน Pro iPhones ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงโดยการใช้เครื่องสแกน LiDAR ที่เพิ่มขึ้นและกล่าวว่า Apple จะรวมโหมด “การแก้ไขภาพสั่นไหว” ใหม่ที่จะสามารถตรวจจับและทำให้วัตถุอยู่ในโฟกัสระหว่างวิดีโอโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นด้วยรูปแบบลำแสง แต่ Weinbach ไม่ใช่แหล่งข้อมูลเฉพาะที่น่าเชื่อถือเท่าไร ดังนั้นจึงควรใช้วิจารณญาณจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากประกาศของ Apple

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

gclub

Categories
สอนใช้

Google Meet ได้รับการรีเฟรช UI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การประชุมให้มีความสมจริงและมีประสิทธิผลมากขึ้น

Google Meet

เมื่อไม่นานมานี้ Google ได้ประกาศรีเฟรช User Interface (UI) สำหรับผู้ใช้บริการ Google Meet ซึ่งครั้งนี้เป็นการอัปเดตหน้าเว็บของแอปการประชุมทางวิดีโอ รวมถึงการปรับปรุงฟีดวิดีโอ และนำเสนอการประชุม พร้อมทั้งแถบนำทางต่าง ๆ Dave Citron ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของ Google Meet ได้กล่าวว่า “การปรับปรุงเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การประชุมให้มีความสมจริงและมีประสิทธิผลมากขึ้น ไม่ว่าผู้คนจะเข้าร่วมอย่างไรและที่ไหนก็ตาม”

Google Meet มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แฮงเอาท์วิดีโอมีความสมจริงครอบคลุมและมีประสิทธิผลมากขึ้น เป็นแอปพลิเคชั่นการประชุมทางวิดีโอที่ใช้ง่ายไม่มีสะดุดจาก Google ช่วยทำให้ผู้ใช้บริการสามารถคุณทำงานร่วมกันและพัฒนาความสัมพันธ์กับทีมได้จากทุกที่ทั่วโลก มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางวิดีโอความละเอียดสูง ที่รองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุดถึง 100 คน เข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่แชร์ลิงก์ให้ทุกคนเข้าร่วมได้ด้วยคลิกเดียว สามารถใช้งานได้หลากหลายบน Desktop, IOS และ Android นอกจากประชุมทางวิดีโอแล้วยังสามารถแชร์หน้าจอ รูปภาพ ไฟล์ และข้อความได้

Google Meet

Google Meet รีเฟรช User Interface (UI) เพื่อลดความเหนื่อยล้าจากการประชุม

Citron ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของ Google Meet ได้โพสต์บล็อกว่า Google หวังว่าจะ “ลดความเหนื่อยล้าจากการประชุม” ด้วยการให้ผู้ใช้ควบคุมวิธีการดูตัวเองในการประชุมได้มากขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกฟีดวิดีโอของตนให้อยู่ในไทล์มาตรฐานในตารางหรือเป็นภาพลอยได้ ซึ่งสามารถปรับขนาดปรับตำแหน่งหรือย่อขนาดได้ทั้งหมด Google กล่าวว่าจะเพิ่มการตั้งค่าที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมการประชุมสามารถปิดการป้อนข้อมูลด้วยตนเองในการโทรทั้งหมดของ Google Meet

การเข้าการใช้งาน Google Meet สามารถเข้าได้จากคอมพิวเตอร์ของคุณ และจากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต สำหรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ได้ทุกรุ่น โดยไม่ต้องดาวน์โหลด ส่วนการใช้งานบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตสามารถดาวน์โหลดแอป Google Meet ได้จาก Google Play หรือ Apple Store

แม้ว่า Google Meet จะมีให้ใช้งานฟรีสำหรับแต่ละบุคคล แต่แอปการประชุมทางวิดีโอตัวนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรมสำนักงานของ Google Workspace สมาชิกจะได้รับเครื่องมือเพิ่มเติมในการรีเฟรชรวมถึงฟังก์ชั่นซูมอัตโนมัติซึ่งจะซูมเข้าและวางตำแหน่งผู้ใช้ให้อยู่ตรงหน้า

Angela Ashenden นักวิเคราะห์หลักด้านการเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานของ CCS Insight กล่าวว่าการรีเฟรชครั้งนี้แสดงถึงการอัปเดตฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับ Google เนื่องจากการระบุถึงความไม่ยืดหยุ่นบางอย่างในประสบการณ์ประชุม ซึ่งเห็นว่าล้มเหลวตามคู่แข่งบางราย เธอกล่าวว่า “ความสามารถในการตรึงฟีดวิดีโอมากกว่าหนึ่งฟีดที่มีลำโพงหลายตัวตลอดจนการไฮไลต์ที่ชัดเจนของลำโพงที่ใช้งานอยู่และการลบตัวควบคุมป๊อปอัปที่วางซ้อนแถวล่างสุดของฟีดวิดีโอหรือเนื้อหาที่แชร์ ช่วยให้ประสบการณ์การประชุมเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้นและรบกวนน้อยลง” 

การตอบสนองความคิดเห็นของผู้ใช้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง User Interface (UI)

Google กล่าวว่าการปรับปรุงใหม่หลายอย่างของ Google Meet นั้น “ได้รับแรงบันดาลใจจากความคิดเห็นของลูกค้าและผู้ใช้” การเปลี่ยนแปลง User Interface (UI) รวมถึงเพิ่มคำบรรยายสดอัตโนมัติ 5 ภาษา และควบคุมการมีส่วนร่วมสำหรับนักศึกษาและนักเรียน พร้อมทั้งความสามารถใหม่บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ออกแบบมาเพื่อให้สมาชิกในทีมเชื่อมต่อกันได้ทุกที่บนโลก แถบนำทางด้านล่างจะได้รับการรีเฟรช การไฟล์แนบกับข้อความ Gmail การโทร การแชทและฟังก์ชันอื่น ๆ จะถูกรวมไว้ที่ด้านล่างทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม

Ashenden กล่าวว่าคุณลักษณะใหม่เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Google ตอบสนองต่อความคิดเห็นของลูกค้าในเชิงบวกและกำลังคิดอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงประสบการณ์การประชุมอย่างไรให้มีความสมจริงและมีประสิทธิผลที่สุด เธอกล่าวว่า “คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้นำเสนอสามารถนำเสนอเนื้อหาได้ ในขณะที่ยังคงใช้งานอยู่ในการประชุม และความขัดแย้งและความทับซ้อนระหว่างความสามารถในการแชทและถามตอบ” 

“สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องแข่งขัน เพราะเราสามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายทั่วไปของเครื่องมือการประชุมเท่านั้น” เธอกล่าว แต่ถ้า Google ต้องการแข่งขันกับ Zoom และ Microsoft Teams สิ่งสำคัญคือ Google จะต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับขีดความสามารถให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

แทงบอลออนไลน์

Categories
News

การคาดการณ์วันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 ก่อนประกาศเปิดตัว 

ไอโฟน 13

เชื่อว่าหลายคนคงกำลังตั้งตารอการเปิดตัวของไอโฟน 13 กันอยู่ใช่ไหมคะ? ซึ่งแน่นอนว่ามีการคาดการณ์ว่า iPhone 13 มีแนวโน้มที่จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2021 ถึงแม้ว่าจะยังไม่เปิดตัว ซึ่งมีเราคาดหวังว่า iPhone 13 จะมีทั้งหมด 4 รุ่น คือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max นอกจากนี้ยังมีข่าวลือรั่วไหลเกี่ยวกับวันวางจำหน่าย iPhone 13 และราคา iPhone 13 เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ถึงการออกแบบข้อกำหนดและคุณสมบัติที่เป็นไปได้มากมาย ซึ่งเชื่อว่าไอโฟน 13 จะมีการปรับปรุงกล้องและอัตราการรีเฟรช พร้อมชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการออกแบบคาดว่าจะคล้ายกับ iPhone 12 และวันนี้คุณจะพบรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับวันที่วางจำหน่ายและราคาของไอโฟน 13 จากบทความนี้ โดยผู้เขียนได้รวบรวมข่าวลือทั้งหมดมาฝากทุกคนแล้ว ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

วันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 

คุณคงกำลังรอการเปิดตัวไอโฟน 13 กันอยู่ใช่ไหมคะ? แล้วไอโฟน 13 มาเมื่อไหร่? ซึ่งมีรายงานระบุว่าจะมีการกำหนดวันวางจำหน่าย iPhone 13 ในเดือนกันยายน 2021 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากการระบาดของ COVID 19 ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา Apple มักเปิดตัว iPhone ในช่วงใกล้ ๆ ต้นเดือนกันยายนและวางจำหน่ายตัวโทรศัพท์ในอีก 10 วันต่อมา แต่เนื่องจากการระบาดของ COVID 19 ในปี 2020 อาจทำให้งานเปิดตัวไอโฟน 13 ล่าช้ากว่าปีก่อน ๆ 

หลายคนคาดหวังว่า Apple จะดำเนินการเปิดตัวไอโฟนในช่วงเดือนกันยายน แต่เห็นได้ชัดว่าความล่าช้าในปี 2020 ส่งผลให้ยอดขายโทรศัพท์เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า Apple อาจตัดสินใจเปลี่ยนแผนเรื่องวันวางจำหน่ายไอโฟน 13 

มีนักวิเคราะห์หลายคนได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไอโฟน 13 จะวางจำหน่ายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน และประกาศเปิดตัวในช่วงต้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตามรุ่นอย่างน้อยหนึ่งรุ่นอาจเข้าสู่ร้านค้าช่วงเดือนตุลาคม นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า Apple จะประกาศเปิดตัวไอโฟน 13 ในวันที่ 13 เดือนกันยายน 2021

ก่อนหน้าปี 2020 Apple มักจะประกาศ iPhone รุ่นใหม่ในวันอังคารที่ 1 หรือ 2 ของเดือนกันยายน แต่หากเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2021 นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการเปิดเผยในวันที่ 7 กันยายนหรือ 14 กันยายน และดูเหมือนว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน Apple จะเปิดเผยวันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 หลังประกาศเปิดตัว 10 วัน เหมือนที่เคยเปิดเผยของ iPhone 7และiPhone 7 พลัส ในปี 2016 

ไอโฟน 13

การคาดการณ์ราคาไอโฟน 13 

ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์หลายคนจะคาดการณ์ว่าไอโฟน 13 จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนนี้เช่นกัน เนื่องจากมีข่าวลือมาว่าชิปเซ็ตของ iPhone 13 จะเริ่มจัดส่งไปยัง Apple ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 13 อาจจะเข้าสู่กระบวนการผลิตภายในเดือนพฤษภาคม 

สำหรับเรื่องราคาล่าสุดของ iPhone 13 ยังไม่ค่อยมีใครทราบ แต่ก็ยังมีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีราคาใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของตระกูล iPhone 12 ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาสูงกว่าโทรศัพท์รุ่นปี 2019 อย่าง iPhone 11 series โดยราคาเปิดตัว iPhone 12 series มีดังนี้

  • iPhone 12 mini (64/128/256GB) : ราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 24,900 บาท
  • iPhone 12 (64/128/256GB) : ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 28,900 บาท
  • iPhone 12 Pro (128/256/512GB) : ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 35,900 บาท
  • iPhone 12 Pro Max (128/256/512GB) : ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 39,900 บาท

สำหรับเหตุผลที่ทำให้ iPhone 12 series มีราคาที่แพงที่สุดของ iPhone ผู้เขียนคิดว่าเป็นเพราะการเพิ่มการรองรับ 5G และองค์ประกอบทางเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่า iPhone 13 จะมีราคาที่ใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของ iPhone 12 series อย่างแน่นอนค่ะ

Suwanna-Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
News

งานนี้มีลุ้น ศึกยักษ์ใหญ่ระหว่าง Twitter กับ Clubhouse แพลตฟอร์มที่ให้บริการการสนทนาแบบกลุ่มใหญ่

Twitter กับ Clubhouse

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดปรากฎการณ์ผู้คนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Clubhouse มาเป็นจำนวนมาก ดึงดูดผู้ใช้งานและเจาะกลุ่มการตลาดได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ในบทความนี้สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า Clubhouse คืออะไร เราจะขอสรุปให้คร่าว ๆ ก่อนเลย เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน

Clubhouse คืออะไร ทำไมถึงฮิต?

ถ้าจะให้พูดกันแบบเข้าใจง่าย ๆ Clubhouse ก็เป็นแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่มช้งานกันใน Social Media โดยรูปแบบของแอปนี้ จะใช้การตั้งหัวข้อเพื่อสนทนากัน เสมือนจำลองการประชุมในห้องประชุมใหญ่ จะมีทั้งผู้พูดและผู้ฟัง โดยหัวห้องจะเป็นคนกดเลือกคนขึ้นมาพูดจากการยกมือขึ้นเพื่อขอพูดของคนฟังนั่นเอง ซึ่งคอนเซปต์ของคนที่ก่อตั้งแอปนี้ คือ การสร้างประสบการณ์ทางสังคมที่ให้ความรู้สึกถึง “ความเป็นมนุษย์” มากขึ้นนั่นเอง (Felt more human) เพราะมีคนพูด ก็ต้องมีคนฟัง มีคนเสนอไอเดียต่าง ๆ ก็ต้องมีคนลงความคิดเห็น

ข้อจำกัดของแอปนี้ คือต้องเป็นสมาร์ทโฟนระบบ ios เท่านั้น และต้องมีการเชิญจากคนที่เข้าไปอยู่ในคลับต่าง ๆ ก่อน แลดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่กลับกลายเป็นกระแสยอดฮิตในการดาวน์โหลดมาใช้กันอย่างสนั่นหวั่นไหว แต่ก็มีข้อเสียคือฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบของ Android ไม่สามารถที่จะดาวน์โหลดมาใช้ได้ แต่ทางผู้สร้างก็มีการพัฒนาในส่วนของระบบ Android ขึ้นแล้ว คงไม่นานเกินรอทีจะได้ใช้

Twitter กับ Clubhouse

โอกาสทองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์

เป็นที่ทราบกันว่า Clubhouse ยังไม่มีการรองรับในระบบของ Android แต่มีการพัฒนาอยู่ จึงเป็นโอกาสทองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ ที่เตรียมออกฟังก์ชั่น Twitter Spaces มาสู้ รูปแบบการใช้งานสามารถรองรับได้ทั้งระบบ Android และ ios ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับการรับมือของ Clubhouse แม้ว่าตอนนี้ทางทวิตเตอร์จะยังไม่ปล่อยฟังก์ชันนี้ให้ใช้งานก็จริง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีมาให้ใช้กันแน่ ๆ เรื่องแบบนี้น่าหนักใจมาก

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

HILO-88.COM
HILO-88.COM