สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
News สอนใช้

Apple ตัดสินใจใส่ชิป M1 Mac ไว้ใน iPad Pro

iPad Pro

เมื่อไม่นานมานี้ Apple ประกาศตัดสินใจใส่ชิป M1 Mac ไว้ใน iPad Pro แต่ไม่มีแผนรวม iPad Pro กับ Mac เข้าด้วยกันนะคะ เนื่องจากตลาดของ iPad Pro กับ Mac เป็นคนละตลาดกัน ไม่มีทางทับซ้อนกันแน่นอน ซึ่งการตัดสินใจใส่ชิป M1 Mac ไว้ใน iPad Pro นั้นหมายความว่ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอินเทอร์เฟซผู้ใช้สำหรับ iPad Pro ของ Apple ที่มั่นใจว่าชิป M1 Mac จะปรับปรุงระบบปฏิบัติการให้มีศักยภาพดีขึ้น 

ซึ่ง Apple จะประกาศเปิดตัวในงาน WWDC 2021 ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 7-11 มิถุนายนปี 2021 แต่ ณ ตอนนี้ผู้เขียนยังไม่ทราบแผนการในอนาคตที่แน่ชัดของ Apple ในการปรับปรุง iPadOS 15 แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ Bloomberg ได้อ้างว่า iPad Pro จะมีอัปเดตหน้าจอหลักที่ออกแบบใหม่พร้อมการรองรับวิดเจ็ตขั้นสูง พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนใหม่และการปรับปรุงครั้งใหญ่ของ iMessage 

การที่ iPad Pro ใช้โปรเซสเซอร์เดียวกันกับ Macs ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจที่อาจมุ่งไปสู่ระบบ dual-OS โดยมี iPadOS เป็นค่าเริ่มต้น สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ iPad Pro ดีขึ้นอย่างไร? วันนี้ผู้เขียนก็มีคำตอบมาฝากทุกคนแล้วค่ะ ส่วนจะเป็นอย่างบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

การใส่ชิป M1 Mac จะทำให้ iPad Pro ดีขึ้นอย่างไร?

โปรเซสเซอร์ M1 ภายในเครื่อง Mac เป็นแหล่งพลังงานที่ทรงพลังอย่างมาก ช่วยทำให้ผู้บริโภคเรียกใช้แอปพลิเคชันเกือบทุกชนิดได้เร็วกว่า Intel Mac และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย M1 ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมาก ซึ่งหากนำชิป M1 Mac มาใส่ไว้ใน iPad Pro จะทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้ประโยชน์บางประการของ Mac บน iPad Pro ได้

iPad Pro

Apple เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล Liquid Retina XDR และใส่ชิป M1 แบบ 8 คอร์แบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่อง Mac ทั้งหมดกว่า 50% ที่ Apple วางจำหน่ายในปัจจุบัน พร้อมการรองรับ 5G ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 50% และประสิทธิภาพของ GPU เร็วขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ อีกทั้งการประหยัดพลังงานของชิป M1 ช่วยทำให้ iPad Pro ทำงานได้อย่างน่าทึ่งและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน และด้วยความที่ชิป M1 มีดีไซน์ที่บางและเบา โดยใช้สถาปัตยกรรมพื้นฐานแบบเดียวกับชิปตระกูล A iPadOS จึงได้รับการปรับแต่งมาสำหรับชิป M1 เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันทรงพลังนี้ได้อย่างเต็มที่และพร้อมรับมือกับทุกสิ่ง ตั้งแต่การนำทางที่เรียบง่ายไปจนถึงเวิร์กโฟลว์การทำงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลมากที่สุด

การที่ iPad Pro ใช้ชิป M1เดียวกันกับ Macs ทำให้สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งคือแอปพลิเคชันของ Adobe ที่เปิดตัว Photoshop สำหรับ Mac เวอร์ชัน M1 ดั้งเดิมจะมีความสามารถเช่นเดียวกันบน iPad Pro และแน่นอนว่าอาจจะทำให้ Final Cut Pro X สำหรับ iPad ใกล้จะกลายเป็นความจริง 

iPad Pro รุ่นใหม่เหมาะสำหรับใคร?

iPad Pro รุ่นใหม่มีราคาสูงกว่าหรือมากกว่าเครื่อง Mac บางรุ่นผู้เขียนจึงเห็นว่า iPad Pro รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับผู้บริโภควัยทำงานที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก iPad Pro ในการทำงาน นอกจากนี้เรายังได้เห็นการเติบโตอย่างมากในสายผลิตภัณฑ์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาของ iPad 

Daniel Ives จาก Wedbush Securities ได้กล่าวว่า “Apple ได้เห็นการเติบโตครั้งสำคัญของ iPad … ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตปีต่อปีถึง 40% ในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากมีผู้บริโภควัยทำงานและนักเรียน นักศึกษาจำนวนมากขึ้นผ่านการรีเฟรช iPad” เนื่องจากผู้ที่ซื้อ iPad Pros ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะทำงานที่บ้าน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ Apple จะต้องการให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องทำงานที่น่าสนใจแทนที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกัน

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
News

พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของ Mi Mix Fold สมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกจาก Xiaomi

Mi Mix Fold

เมื่อวันที่ 16 เมษายน ปี 2021 ที่ผ่านมา Xiaomi บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและลงทุนเกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีน ได้เปิดตัว Mi Mix Fold สมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกของบริษัท ทำให้โทรศัพท์รุ่นนี้เป็นที่จับตามองในท้องตลาด เนื่องจากในปี 2020 บริษัท Samsung ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกเช่นเดียวกัน ทำให้เกิดตคำถามมากมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนพับ Mi Mix Fold รุ่นนี้

Mi Mix Fold เป็นสมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกจาก Xiaomi มีขนาดหน้าจอ 8.01 นิ้ว เมื่อหดจอลงเหลือ 6.52 นิ้ว โดยใช้หน้าจอประเภท AMOLED แบบพับได้ พร้อมความละเอียด 1860 x 2480 พิกเซล ซึ่งมีการแบ่งขายเป็น 3 โมเดล ได้แก่ 12GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB นอกจากนี้ทางบริษัท Xiaomi ยังยืนยันว่าสมาร์ทโฟนพับ Mi Mix Fold สามารถพับเข้า-กางออกหน้าจอได้มากกว่า 1 ล้านครั้ง (จากการทดสอบในห้องแล็บ) 

สเปกสมาร์ทโฟนพับได้ Mi Mix Fold

การเปิดตัวของ Mi Mix Fold สมาร์ทโฟนพับเครื่องแรกจาก Xiaomi อาจช่วยทำให้บริษัทดึงดูดผู้ใช้ในวงกว้างด้วยกลุ่มราคาต่าง ๆ ได้ ซึ่งถือว่าเป็นความพยายามที่จะแข่งขัน Apple และ Samsung 2 บริษัทสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในปัจจุบัน เสี่ยวหมี่ พยายามดึงดูดผู้ใช้ด้วยบริการระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับ Mi Mix Fold นอกจากนี้ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องนี้จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย รวมถึงค่าซ่อมหน้าจอที่ถูกกว่าสำหรับผู้ซื้อครั้งแรกโดยเฉพาะ สำหรับสเปก Mi Mix Fold สมาร์ทโฟนพับได้มีดังนี้

  • หน้าจอ : ขนาด 8.01 นิ้ว แบบ AMOLED แบบพับได้ เมื่อหดจอลงเหลือ 6.52 นิ้ว
  • ความละเอียดหน้าจอแสดงผล : 1860 x 2480 พิกเซล อัตราส่วน 4: 3
  • ชิปประมวลผล : Qualcomm SM8350 Snapdragon 888 5G (5 นาโนเมตร)
  • หน่วยความจำภายใน : 12GB+256GB, 12GB+512GB และ 16GB+512GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว : กล้องหลัง 108 ล้านพิกเซล, กล้องอัลตราไวด์ 13 ล้านพิกเซล, กล้องเทเลมาโคร 8 ล้านพิกเซล
  • คุณสมบัติกล้องหลัง : แฟลช LED คู่, HDR, พาโนรามา
  • กล้องหน้า : 20 ล้านพิกเซล
  • คุณสมบัติกล้องหลัง : HDR, พาโนรามา
  • ลำโพง : ลำโพงสเตอริโอ (ลำโพง 4 ตัว) ผลิตโดย Harman Kardon
  • แบตเตอรี่ : 5,020 mAh รองรับชาร์จไว 67W 100% ใน 37 นาที
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 10, MIUI 12
Mi Mix Fold

Mi Mix Fold นอกจากจะมีสเปกที่น่าสนใจแล้วยังมีราคาเปิดตัวที่แบ่งขายเป็น 3 โมเดล นั่นคือ 12GB+256GB 9,999 หยวน (48,000 บาท), 12GB+512GB 10,999 หยวน (53,000 บาท) และ 16GB+512GB โทรศัพท์รุ่นพิเศษพร้อมปลอกเซรามิกพิเศษจะวางจำหน่ายในราคา 12,999 หยวน (62,000 บาท) ซึ่งในตอนนี้ Mi Mix Fold มีสีให้เลือกแค่สีเดียว นั่นคือ สีดำเซรามิก

Mi Mix Fold ใช้เซ็ตกล้องภายในตัวแรกของ Xiaomi

Mi Mix Fold สมาร์ทโฟนพับได้เครื่องแรกที่ใช้ชิปเซ็ตกล้องภายในตัวแรกของ Xiaomi ที่เรียกว่า Surge C1 เป็นชิปภาพตัวแรกของบริษัท และ Lei Jun CEOของ Xiaomi อ้างว่า “ชิปเซ็ตกล้อง Surge C1 ได้รับการปรับปรุงคุณภาพของภาพที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์พับได้ แม้จะถ่ายภาพในที่แสงน้อย”

Lei ได้กล่าวว่า Xiaomi ได้พยายามผลิตชิปมาตั้งแต่ปี 2014 และในปี 2017 บริษัทได้เปิดตัว Surge S1 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลสมาร์ทโฟนตัวแรกที่ถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ระดับกลางที่เรียกว่า Mi 5C นอกจากนี้ Xiaomi ยังได้เข้าร่วมกับ Apple และ Samsung ในการเน้นการออกแบบชิปอีกด้วย “เราต้องการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของเทคโนโลยีล้ำสมัย…และเราจะไม่หยุดการพัฒนาอุปกรณ์ของเรา” Lei กล่าวเพิ่มเติมด้วยภาษาจีนกลาง

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
News

ข่าวลือการออกแบบดีไซน์และขนาดจอแสดงผล iPhone 13 คาดว่าจะใกล้เคียงกับ iPhone 12

เราเชื่อว่าเหล่าสาวก iPhone ต้องกำลังตั้งตารอการเปิดตัว iPhone 13 กันอยู่ใช่ไหมคะ? ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ iPhone 13 หลายคนคาดการณ์ว่าการออกแบบ iPhone 13 จะมีลักษณะคล้ายกันกับตระกูล iPhone 12 และหน้าจอก้น่าจะมีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกันเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมา Apple ได้ทำการการอัปเกรดองค์ประกอบของ iPhone 12 เป็นจำนวนมาก ข่าวลือล่าสุดได้ชี้ให้เห็นว่า Apple กำลังจัดการลดการกระแทกของกล้องในปีนี้ รวมทั้งยังได้แนะนำตัวเลือกสีดำด้านสำหรับโทรศัพท์รุ่น Pro ซึ่งปรับปรุงใหม่จากสีกราไฟท์ในปัจจุบัน ซึ่งวันนี้ผู้เขียนก็ได้รวบรวมข่าวลือเกี่ยวกับการออกแบบดีไซน์และขนาดจอแสดงผลของ iPhone 13 มาฝากเหล่าสาวก iPhone ทุกคน ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

iPhone 13

การออกแบบดีไซน์และจอแสดงผล iPhone 13

มีข่าวลือว่า Apple จะนำเทคโนโลยีที่มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad Pro มาใช้กับ iPhone 13 ซึ่งมันจะสามารถเปลี่ยนอัตราการรีเฟรชของกิจกรรมที่คุณทำบนโทรศัพท์ได้ ทำให้การแสดงผลดูนุ่มนวลขึ้นเมื่อเล่นเกมหรือเลื่อนดูฟีดโซเชียลมีเดีย 

มีรายงานจากDigiTimes และนักวิเคราะห์หลายท่านได้คาดการณ์ว่าฟีเจอร์อัตราการรีเฟรช 120Hz อาจจะมีเฉพาะใน iPhone 13 สองรุ่น นั่นคือ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ที่จะมีหน้าจอ 120Hz ซึ่งในความเป็นจริง iPhone 13 มีโอกาสที่จะมีอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นเนื่องจากสิทธิบัตรของ Appleพูดถึงโทรศัพท์ที่มีอัตราการรีเฟรชหลายรายการซึ่งอาจมีอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 240Hz 

นอกจากนี้ยังมีการจำลอง 3D ของลักษณะ iPhone 13 ขึ้นแสดงให้เห็นรอยขนาดเล็ก โดยเฉพาะรอยบากที่กว้าง 26.8 มม. (เทียบกับ 34.83 มม. ใน iPhone 12) แต่ก็ลึก 5.35 มม. ทำให้รอยบากยื่นออกมาเล็กน้อยมากกว่า 5.3 มม. บน iPhone 12 แต่อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า การออกแบบและขนาดของ iPhone 13 จะเหมือนกับ iPhone 12 Pro Max ไม่มากก็น้อย

สำหรับสีของ iPhone 13 ผู้เขียนยังไม่ทราบว่ามีจะมีสีอะไรบ้าง แต่คาดว่าจะมีเฉดสีที่คล้ายกันกับ iPhone 12 นั่นหมายความว่าเรามีแนวโน้มที่จะเห็น iPhone 13 หลายเฉดสีที่สว่างมากขึ้น นั่นหมายความว่าคุณมีแนวโน้มที่จะเห็นตัวเลือกสีมากขึ้นพร้อมเฉดสีที่สว่างกว่าใน iPhone 13 และ iPhone 13 mini ในขณะที่ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีแนวโน้มที่จะมีตัวเลือกเฉดสีน้อยกว่าและมีสีขรึม ๆ เช่นสีเงินกราไฟต์และสีทอง

iPhone 13 อาจใช้เทคโนโลยีหน้าจอ LTPO 

มีข่าวลือว่า Apple จะนำเทคโนโลยีหน้าจอ LTPO มาใช้กับ iPhone 13 ทั้งสองรุ่น นั่นคือ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ซึ่งจะทำให้หน้าจอแสดงผลสามารถปรับลดอัตรารีเฟรชของหน้าจอให้สูงหรือต่ำลงได้ เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้งาน ส่งผลให้โทรศัพท์ประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม นักวิเคราะห์เชื่อว่าโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ จะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้ ในอีกสองปีข้างหน้าเราอาจเห็นสมาร์ทโฟนจำนวนมากที่ใช้หน้าจอแสดงผล LTPO แทน LTPS ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน Ross Young นักวิเคราะห์หลักของ Display Search และ DSCC คาดการณ์ว่าภายในปี 2023 โทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยี LTPO รุ่นใหม่จะแซงโทรศัพท์หน้าจอ LTPS OLED มาตรฐาน แต่เห็นได้ชัดว่าข่าวลือนี้เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บบาคาร่า

Categories
News

ข่าวลือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของคุณสมบัติกล้อง iPhone 13 ที่เหนือกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยมีมา

iPhone 13

มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะเปิดตัวภายในเดือนกันยายน ปี 2021 ซึ่งข่าวลือเกี่ยวกับคุณสมบัติของ iPhone 13 เริ่มมีมาตั้งแต่ก่อนที่ iPhone 12 ปี 2020 จะเปิดตัวอีกค่ะ สำหรับ iPhone 13 ปี 2021 คาดว่าจะมีลักษณะคล้ายกับ iPhone 12 โดยมี 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 12 mini ขนาด 5.4 นิ้ว, iPhone 12 ขนาด 6.1 นิ้ว และขนาด 6.7 นิ้ว สำหรับ iPhone รุ่น “Pro” ระดับไฮเอนด์ทั้งสองเครื่อง

มีรายงานข่าวหลายเว็บคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงสำหรับ iPhone 13 ปี 2021 จะมีฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกับ iPhone12 มีการปรับปรุงกล้อง, โปรเซสเซอร์ A-series ที่เร็วขึ้น, ชิป 5G ใหม่จาก Qualcomm, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นและการปรับแต่งรอยบาก อีกทั้งยังมีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีการออกแบบแบบไม่ใช้พอร์ต ซึ่งหลายความว่า iPhone 13 จะอาศัยการชาร์จแบบไร้สายทั้งหมด แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่อีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนตั้งตารอ นั่นคือ เทคโนโลยีกล้องของ iPhone 13 ซึ่งมีข่าวลือมากมายว่ากล้อง iPhone 13 จะได้รับการปรับปรุงที่เหนือกว่า iPhone ทุกรุ่นที่เคยมีมา ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

iPhone 13

การออกแบบกล้องสำหรับ iPhone 13

มีข่าวลือว่า iPhone 13 จะมีการปรับปรุงเลนส์ Ultra Wide ใน รุ่น “Pro” ที่มีรูรับแสงต่ำลงเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อยและระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยสำหรับเลนส์ Wide 

iPhone 13 รุ่นมาตรฐานมีการออกแบบกล้องเลนส์คู่ให้สามารถมองเห็นเลนส์ที่จัดเรียงในแนวทแยงมุมมากกว่าการออกแบบแนวตั้ง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เนื่องจากอุปกรณ์จะยังคงใช้เลนส์ Wide และ Ultra Wide เหมือนเดิม และมีการเปลี่ยนแปลงบางประการ เช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเซ็นเซอร์ออปติคอลสำหรับเลนส์ Wide 

ไอโฟน 13 รุ่น Pro อาจจะมีความหนากว่า iPhone 12 0.2 mm เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และมีหน่วยกล้องด้านหลังขนาดใหญ่และหนาตามภาพข้างล่าง ซึ่งหน่วยกล้องที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับระบบป้องกันการสั่นไหวของเซ็นเซอร์ และดูเหมือนว่าจะมีขนาดเท่ากับหน่วยกล้องด้านหลังของ iPhone 12 Pro Max

มีรายงานระบุว่าระบบกล้องหลังของ iPhone 13 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ระบบกล้องของ iPhone 13 Pro Max จะยื่นออกมามากกว่า iPhone 12 Pro Max ในปัจจุบันถึง 0.87 มม. เป็นผลให้ความหนาของตัวเครื่องโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.25 มม. ขนาดเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นการออกแบบกล้องในแนวทแยงใน iPhone 13 

Leaker Max Weinbach กล่าวว่า โมดูลกล้องใหม่ของ iPhone 13 จะไม่แบนสนิท แต่เลนส์แต่ละตัวจะยื่นออกมาจากตัวเครื่องน้อยลง นอกจากนี้การรันโมดูลกล้องในทันทีจะมีขนาดเล็กลงซึ่งจะช่วยลดความหนาของระบบกล้อง

iPhone 13

การปรับปรุงกล้อง iPhone 13 ที่เหนือกว่า iPhone 12

มีการคาดการณ์ว่า iPhone 13 จะมีการปรับปรุงกล้องที่โดดเด่น พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว Sensor-shift โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในที่แสงน้อยและการป้องกันการสั่นไหวโดยมีคุณสมบัติลดการสั่นไหวของกล้องที่มีข่าวลือว่าจะมีใช้สำหรับเลนส์ Wide และเลนส์ Ultra Wide ของรุ่น Pro 

iPhone 13 รุ่นระดับไฮเอนด์จะได้รับกล้องอัลตร้าไวด์ที่อัพเกรดพร้อมเลนส์ 6 องค์ประกอบและการปรับปรุงรูรับแสง f/1.8 ซึ่งจะปล่อยแสงได้มากกว่าเลนส์รูรับแสง f/2.4 ในปัจจุบัน ทำให้การถ่ายรูปมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย และคาดว่าจะมีการปรับปรุงโฟกัสอัตโนมัติ

นักวิเคราะห์ของ Barclays เชื่อว่า iPhone 13 ทั้งสี่รุ่นจะมีเลนส์กล้อง Ultra Wide ที่ได้รับการอัพเกรดพร้อมรูรับแสงที่กว้างขึ้น f/1.8 แต่ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้ ยืนยันว่าการอัพเกรด Ultra Wide นี้ถูกนำมาใช้เฉพาะกับ iPhone รุ่น Pro เท่านั้น และนักวิเคราะห์ของ Barclays ยังเชื่อว่าเลนส์เทเลโฟโต้ที่ได้รับการอัพเกรดใช้เฉพาะใน iPhone 12 Pro Max จะถูกนำมาใช้กับ iPhone 13 Pro ในปี 2021 ด้วยเช่นกัน 

Ross Young นักวิเคราะห์ด้าน Display เชื่อว่า iPhone 13 ทุกรุ่นจะใช้เซ็นเซอร์กล้องเดียวกับ iPhone 12 Pro Max และ Ming-Chi Kuo คาดการณ์ว่า iPhone 13 mini, iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จะมีเลนส์มุมกว้าง 7P แบบเดียวกับที่มีรูรับแสง f/1.6 เหมือนกับ iPhone 12 รุ่นก่อน ๆ อีกทั้ง iPhone 13 Pro Max ที่ใหญ่ขึ้นนั้นจะมีเลนส์มุมกว้างรูรับแสง f/1.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรูรับแสง f/1.6 บน iPhone 12 Pro Max

Weinbach อ้างว่า iPhone 13 ปี 2021 จะมีการนำความสามารถของกล้องถ่ายภาพดวงดาวในการถ่ายภาพท้องฟ้ามาใช้ คาดว่าจะเป็นโหมดพิเศษที่เปิดใช้งานเมื่อกล้อง iPhone 13 ชี้ไปที่ท้องฟ้าทำให้อุปกรณ์ตรวจจับดวงจันทร์ และ ดวงดาว พร้อมทั้งสามารถปรับการรับแสงได้ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า iPhone 13 จะสามารถถ่ายวิดีโอโหมดแนวตั้งใน Pro iPhones ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงโดยการใช้เครื่องสแกน LiDAR ที่เพิ่มขึ้นและกล่าวว่า Apple จะรวมโหมด “การแก้ไขภาพสั่นไหว” ใหม่ที่จะสามารถตรวจจับและทำให้วัตถุอยู่ในโฟกัสระหว่างวิดีโอโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้นด้วยรูปแบบลำแสง แต่ Weinbach ไม่ใช่แหล่งข้อมูลเฉพาะที่น่าเชื่อถือเท่าไร ดังนั้นจึงควรใช้วิจารณญาณจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากประกาศของ Apple

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

gclub

Categories
News

การคาดการณ์วันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 ก่อนประกาศเปิดตัว 

ไอโฟน 13

เชื่อว่าหลายคนคงกำลังตั้งตารอการเปิดตัวของไอโฟน 13 กันอยู่ใช่ไหมคะ? ซึ่งแน่นอนว่ามีการคาดการณ์ว่า iPhone 13 มีแนวโน้มที่จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2021 ถึงแม้ว่าจะยังไม่เปิดตัว ซึ่งมีเราคาดหวังว่า iPhone 13 จะมีทั้งหมด 4 รุ่น คือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max นอกจากนี้ยังมีข่าวลือรั่วไหลเกี่ยวกับวันวางจำหน่าย iPhone 13 และราคา iPhone 13 เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ถึงการออกแบบข้อกำหนดและคุณสมบัติที่เป็นไปได้มากมาย ซึ่งเชื่อว่าไอโฟน 13 จะมีการปรับปรุงกล้องและอัตราการรีเฟรช พร้อมชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนการออกแบบคาดว่าจะคล้ายกับ iPhone 12 และวันนี้คุณจะพบรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับวันที่วางจำหน่ายและราคาของไอโฟน 13 จากบทความนี้ โดยผู้เขียนได้รวบรวมข่าวลือทั้งหมดมาฝากทุกคนแล้ว ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

วันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 

คุณคงกำลังรอการเปิดตัวไอโฟน 13 กันอยู่ใช่ไหมคะ? แล้วไอโฟน 13 มาเมื่อไหร่? ซึ่งมีรายงานระบุว่าจะมีการกำหนดวันวางจำหน่าย iPhone 13 ในเดือนกันยายน 2021 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากการระบาดของ COVID 19 ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา Apple มักเปิดตัว iPhone ในช่วงใกล้ ๆ ต้นเดือนกันยายนและวางจำหน่ายตัวโทรศัพท์ในอีก 10 วันต่อมา แต่เนื่องจากการระบาดของ COVID 19 ในปี 2020 อาจทำให้งานเปิดตัวไอโฟน 13 ล่าช้ากว่าปีก่อน ๆ 

หลายคนคาดหวังว่า Apple จะดำเนินการเปิดตัวไอโฟนในช่วงเดือนกันยายน แต่เห็นได้ชัดว่าความล่าช้าในปี 2020 ส่งผลให้ยอดขายโทรศัพท์เพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า Apple อาจตัดสินใจเปลี่ยนแผนเรื่องวันวางจำหน่ายไอโฟน 13 

มีนักวิเคราะห์หลายคนได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่าไอโฟน 13 จะวางจำหน่ายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน และประกาศเปิดตัวในช่วงต้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตามรุ่นอย่างน้อยหนึ่งรุ่นอาจเข้าสู่ร้านค้าช่วงเดือนตุลาคม นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่า Apple จะประกาศเปิดตัวไอโฟน 13 ในวันที่ 13 เดือนกันยายน 2021

ก่อนหน้าปี 2020 Apple มักจะประกาศ iPhone รุ่นใหม่ในวันอังคารที่ 1 หรือ 2 ของเดือนกันยายน แต่หากเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2021 นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการเปิดเผยในวันที่ 7 กันยายนหรือ 14 กันยายน และดูเหมือนว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน Apple จะเปิดเผยวันที่วางจำหน่ายไอโฟน 13 หลังประกาศเปิดตัว 10 วัน เหมือนที่เคยเปิดเผยของ iPhone 7และiPhone 7 พลัส ในปี 2016 

ไอโฟน 13

การคาดการณ์ราคาไอโฟน 13 

ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์หลายคนจะคาดการณ์ว่าไอโฟน 13 จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายนนี้เช่นกัน เนื่องจากมีข่าวลือมาว่าชิปเซ็ตของ iPhone 13 จะเริ่มจัดส่งไปยัง Apple ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 13 อาจจะเข้าสู่กระบวนการผลิตภายในเดือนพฤษภาคม 

สำหรับเรื่องราคาล่าสุดของ iPhone 13 ยังไม่ค่อยมีใครทราบ แต่ก็ยังมีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีราคาใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของตระกูล iPhone 12 ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีราคาสูงกว่าโทรศัพท์รุ่นปี 2019 อย่าง iPhone 11 series โดยราคาเปิดตัว iPhone 12 series มีดังนี้

  • iPhone 12 mini (64/128/256GB) : ราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 24,900 บาท
  • iPhone 12 (64/128/256GB) : ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 28,900 บาท
  • iPhone 12 Pro (128/256/512GB) : ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 35,900 บาท
  • iPhone 12 Pro Max (128/256/512GB) : ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ ราคาไทยประมาณ 39,900 บาท

สำหรับเหตุผลที่ทำให้ iPhone 12 series มีราคาที่แพงที่สุดของ iPhone ผู้เขียนคิดว่าเป็นเพราะการเพิ่มการรองรับ 5G และองค์ประกอบทางเทคนิคอื่น ๆ ซึ่งผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่า iPhone 13 จะมีราคาที่ใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของ iPhone 12 series อย่างแน่นอนค่ะ

Suwanna-Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา

Categories
News

งานนี้มีลุ้น ศึกยักษ์ใหญ่ระหว่าง Twitter กับ Clubhouse แพลตฟอร์มที่ให้บริการการสนทนาแบบกลุ่มใหญ่

Twitter กับ Clubhouse

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดปรากฎการณ์ผู้คนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Clubhouse มาเป็นจำนวนมาก ดึงดูดผู้ใช้งานและเจาะกลุ่มการตลาดได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ในบทความนี้สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า Clubhouse คืออะไร เราจะขอสรุปให้คร่าว ๆ ก่อนเลย เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน

Clubhouse คืออะไร ทำไมถึงฮิต?

ถ้าจะให้พูดกันแบบเข้าใจง่าย ๆ Clubhouse ก็เป็นแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่มช้งานกันใน Social Media โดยรูปแบบของแอปนี้ จะใช้การตั้งหัวข้อเพื่อสนทนากัน เสมือนจำลองการประชุมในห้องประชุมใหญ่ จะมีทั้งผู้พูดและผู้ฟัง โดยหัวห้องจะเป็นคนกดเลือกคนขึ้นมาพูดจากการยกมือขึ้นเพื่อขอพูดของคนฟังนั่นเอง ซึ่งคอนเซปต์ของคนที่ก่อตั้งแอปนี้ คือ การสร้างประสบการณ์ทางสังคมที่ให้ความรู้สึกถึง “ความเป็นมนุษย์” มากขึ้นนั่นเอง (Felt more human) เพราะมีคนพูด ก็ต้องมีคนฟัง มีคนเสนอไอเดียต่าง ๆ ก็ต้องมีคนลงความคิดเห็น

ข้อจำกัดของแอปนี้ คือต้องเป็นสมาร์ทโฟนระบบ ios เท่านั้น และต้องมีการเชิญจากคนที่เข้าไปอยู่ในคลับต่าง ๆ ก่อน แลดูเหมือนจะยุ่งยาก แต่กลับกลายเป็นกระแสยอดฮิตในการดาวน์โหลดมาใช้กันอย่างสนั่นหวั่นไหว แต่ก็มีข้อเสียคือฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบของ Android ไม่สามารถที่จะดาวน์โหลดมาใช้ได้ แต่ทางผู้สร้างก็มีการพัฒนาในส่วนของระบบ Android ขึ้นแล้ว คงไม่นานเกินรอทีจะได้ใช้

Twitter กับ Clubhouse

โอกาสทองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์

เป็นที่ทราบกันว่า Clubhouse ยังไม่มีการรองรับในระบบของ Android แต่มีการพัฒนาอยู่ จึงเป็นโอกาสทองของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างทวิตเตอร์ ที่เตรียมออกฟังก์ชั่น Twitter Spaces มาสู้ รูปแบบการใช้งานสามารถรองรับได้ทั้งระบบ Android และ ios ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับการรับมือของ Clubhouse แม้ว่าตอนนี้ทางทวิตเตอร์จะยังไม่ปล่อยฟังก์ชันนี้ให้ใช้งานก็จริง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีมาให้ใช้กันแน่ ๆ เรื่องแบบนี้น่าหนักใจมาก

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
News

อัพเดทราคาล่าสุด iphone 12 ปี 2020 จาก Apple Store Online ในไทย และ 3 ค่ายใหญ่

iphone 12

เมื่อวันที่14 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 12 และ iPhone 12 Pro โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดติด iPhone 11 ไป ซึ่ง iPhone 12 ถือรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ปรับปรุงขึ้นจากรุ่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นจอกระจกแบบใหม่ที่ Apple เลือกใช้อย่าง Ceramic Shield ซึ่งเป็นวัสดุที่ Apple เคลมว่าแข็งแรงกว่ากระจกหน้าจอสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปและทนต่อการตกมากกว่าเดิมถึง 4 เท่าพร้อมด้วยการรองรับเครือข่าย 5G รุ่นแรก และใช้ A14 Bionic ที่เร็วแรงแซงหน้าชิพในบรรดาสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ไปไกลหลายขั้น

สำหรับ iPhone 12 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มธรรมดา และกลุ่มโปร ซึ่งมีสเปคความแรง และกล้องไม่ต่างกัน โดยกลุ่มธรรมดาคือ iPhone 12 Mini และ iPhone 12 ซึ่งเลือกง่ายมาก เพราะมีสเปคเหมือนกันเกือบทุกอย่าง รวมไปถึงชุดกล้องหน้า และ กล้องหลังด้วย ส่วนกลุ่มโปรคือ iPhone 12 mini และ iPhone 12 Pro Max 

 iphone 12

สเปคและราคาล่าสุด iphone 12 ปี 2020

หลายคนคงสงสัยว่า iPhone 12 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะมีสมบัติอะไรบ้าง? มีราคาเท่าไร? และในที่สุดก็ถึงวันที่ทุกคนรอคอย วันที่ Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 12 ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายประการ และวันนี้เราก็ได้สรุปและรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับสเปคและราคาล่าสุด ของ iPhone 12 มาฝากทุกคนจะ จะมีคุณสมบัติไหนบ้าง แล้วราคาจะคุ้มค่าหรือไม่ ตามมาดูกันเลย

สเปค iphone 12

  • ขนาดตัวเครื่อง 146.7 x 71.5 x 7.4 มม และมีน้ำหนัก 164 กรัม
  • มีความสามารถกันน้ำ-กันฝุ่น IP68
  • หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว Super Retina XDR ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล, 460ppi รองรับ HDR ความสว่างสูงสุด 1,200 nits
  • CPU A14 Bionic 5 นาโนฯ
  • ความจุมีให้เลือก 64GB, 128GB และ256GB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย เลนส์ Wide 12 ล้านฯ f/2.2, 23mm, 1/3.6″ และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านฯ f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา
  • กล้องหน้า 12 ล้านฯ f/2.2, 23mm, 1/3.6″
  • รองรับ 5G แบบ adaptive ที่ปรับความเร็วตามการใช้งาน
  • รองรับ 2 SIM Nano‑SIM + eSIM
  • รองรับ MagSafe ชาร์จไร้สาย Qi 15 วัตต์ (50% ใน 30 นาที)
 iphone 12

เช็คราคาในไทย iPhone 12 จาก Apple Store Online ของไทยและ 3 ค่ายใหญ่ในไทยอย่าง ทรู, AIS และดีแทค ได้ดังนี้

ราคาไอโฟน 12 ที่ Apple Store Online ไทย

  • 64GB ราคา 29,900 บาท
  • 128GB ราคา 31,900 บาท
  • 256GB ราคา 35,900 บาท

ราคาไอโฟน 12 ที่ TrueMove H

  • 64GB ราคาเครื่องเปล่า 29,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 18,100 บาท
  • 128GB ราคาเครื่องเปล่า 31,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 20,100 บาท
  • 256GB ราคาเครื่องเปล่า 35,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 24,100 บาท

ราคาไอโฟน 12 ที่ AIS

  • 64GB ราคาเครื่องเปล่า 29,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 20,100 บาท
  • 128GB ราคาเครื่องเปล่า 31,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 22,100 บาท
  • 256GB ราคาเครื่องเปล่า 35,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 26,100 บาท

ราคาไอโฟน 12 ที่ DTAC

  • 64GB ราคาเครื่องเปล่า 29,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 14,200 บาท
  • 128GB ราคาเครื่องเปล่า 31,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 16,200 บาท
  • 256GB ราคาเครื่องเปล่า 35,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 20,200 บาท
iphone 12

สรุปคุณสมบัติ iphone 12

iPhone 12 ทุกรุ่นเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก Apple ที่รองรับ 5G ที่ให้ความรวดเร็วในการดาวน์โหลด และปลดล็อกการใช้งานอุปกรณ์อีกหลายอย่างในอนาคต โดยเป็นระบบ 5G Ultrawide Band ที่มีช่องสัญญาณจำนวนมาก ทำให้ความเร็วสูงสุดถึง 4Gbps และ latency ในการใช้งานต่ำ ให้การใช้งานใกล้เคียงเรียลไทม์มากที่สุด

iPhone 12 และiphone 12 mini มีการดีไซน์ที่เหมือนกันเป็นรูปแบบอะลูมิเนียมที่เหลี่ยมกว่าเดิม โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, น้ำเงิน, เขียว และ แดง (PRODUCT)RED ซึ่งขนาดหน้าจอยังคงเท่า iPhone 11 คือ 6.1 นิ้ว แต่สิ่งที่พิเศษขึ้นมาหน่อยคือ Apple ได้เปลี่ยนไปใช้จอ Super Retina XDR ที่ให้ความละเอียดสูงกว่าถึง 2 เท่า รวมถึงแสงหน้าจอที่สว่างกว่าเดิม และลดขอบจอลงทำให้ขนาดตัวเครื่องลดลง

ส่วน CPU ใช้ Apple A14 Bionic ที่พัฒนาในเทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ซึ่งภายในตัวชิพมีทั้งหมด 11.8 พันล้านทรานซิสเตอร์ มีทั้ง CPU, GPU ที่เร็วกว่าเดิม รวมถึงส่วนอื่นอย่าง Neural Engine, ML Accelerators ก็ได้พัฒนาให้เร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้การทำงานด้าน machine learning และ AI มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ส่วนระบบกล้องเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก เพราะใช้กล้อง 2 ตัวเหมือน iPhone 11 แต่ปรับปรุงกล้องให้มีรูรับแสงกว้างขึ้น แถม computational protography ที่ใช้ชิพปรับให้รูปภาพสวยกว่าเดิม และวิดีโอที่คุณภาพสูง มีโหมด night mode time-lapse สำหรับถ่าย time-lapse ในเวลากลางคืน

สล็อตออนไลน์ ฝาก-ถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
News

อัพเดทล่าสุดราคาไอโฟน 8 ในไทย จาก 3 ค่ายใหญ่ยอดนิยม

ราคาไอโฟน 8

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Apple Special Event 2017 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 พร้อมกับ iPhone X ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท Apple และกำหนดวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 22 กันยายน 2560 สำหรับประเทศไทยวางจำหน่ายในวันที่ 3 พฤศจิกายนปีเดียวกัน 

นอกจากนี้ iPhone 8, iPhone 8 Plus ยังจะใช้การออกแบบเหมือนกับ iPhone 7, iPhone 7 Plus แต่ราคาไอโฟน8 จะสูงกว่าโดยหน้าจอ iPhone 8 ยังใช้ขนาด 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus 5.5 นิ้ว และทั้งคู่ยังมีปุ่ม Home และ Touch ID เหมือนเดิม เคลือบสีถึง 7 ชั้น เพื่อป้องกันการเกิดรอย การอัปเกรดสเปคภายใน และเปลี่ยนตัวเครื่องเป็นวัสดุกระจกเพื่อรองรับชาร์จไร้สาย 

ราคาไอโฟน 8

เช็คสเปคและราคาไอโฟน 8 จาก 3 ค่ายใหญ่ในไทย

iPhone 8 มาพร้อมดีไซน์แบบกระจกที่แข็งแกร่งที่สุด มีขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ มาพร้อมกับสีทั้ง 3 สีทั้งสีเทาสเปซเกรย์ สีเงิน และสีทอง มีชิพที่ทั้งฉลาดและทรงพลัง รองรับการชาร์จแบบไร้สายที่ง่าย และวันนี้เราก็ได้สรุปและรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับสเปคและราคาไอโฟน 8 ล่าสุดปี 2563 มาฝากทุกคนจะ จะมีคุณสมบัติไหนบ้าง แล้วราคาจะคุ้มค่าหรือไม่ ตามมาดูกันเลย

สเปค iPhone 8

  • ขนาดของตัวเครื่อง 138.4 x 67.3 x 7.3 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 148.00 กรัม
  • หน้าจอแสดงผลกว้าง 4.7 นิ้ว แบบ Widescreen LCD Multi-Touch Display with IPS Technology Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี และมีความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326 ppi)
  • หน่วยประมวลผล (CPU) Apple A11 Bionic แบบ Hexa-Core Processor (64-bit) (2x Monsoon + 4x Mistral)
  • ชิพประมวลผลกราฟฟิค (GPU) Apple GPU (3-Core graphics)
  • หน่วยความจำ (RAM) 2 GB
  • หน่วยความจำแบบอ่านอย่างเดียว (ROM) 64 GB และ 256 GB
  • หน่วยความจำภายใน 64 GB และ 256 GB
  • หน่วยความจำภายนอก (OS) ไม่รองรับ
  • แบตเตอรี่ Li-Ion 1821 mAh
  • ระบบเซ็นเซอร์สามารถตรวจจับ Touch ID Fingerprint Sensor, Barometer, Three-axis Gyro, Accelerometer, Proximity Sensor และ Ambient Light Sensor
  • กล้องด้านหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/2.2, ไฟแฟลชแบบ Retina Flash ใช้ประโยชน์จากหน้าจอแบบ Retina HD ให้เป็นไฟแฟลช, รองรับการถ่ายคลิปวิดีโอความละเอียดระดับ HD 1080p, Backside illumination sensor, มีหมดการถ่ายภาพ Burst mode และ Timer mode, มีระบบตรวจจับใบหน้า Face Detection และรองรับฟีเจอร์ Live Photos
  • กล้องด้านหลัง มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED True Tone Flash with Slow Sync, มีเลนส์ 6 ชิ้น, มีระบบโฟกัสภาพแบบ Auto Focus + Focus Pixels, มีระบบป้องกันภาพสั่น (Optical Image Stabilization : OIS), รองรับการถ่ายคลิปวิดีโอสูงสุด ที่ความละเอียดระดับ 4K (3840 x 2160 พิกเซล), 30 fps หรือ 60 fps, Backside illumination sensor, มีโหมดการถ่ายภาพ Burst mode และ Timer mode, มีโหมดการถ่ายภาพแบบ Slo-mo ขนาด 1080p (120 fps) และ 720p (240 fps), มีระบบตรวจจับใบหน้า Face Detection, Live Photo, รองรับการซูมแบบ Digital สูงสุด 5 เท่า
ราคาไอโฟน 8

ราคาล่าสุด iPhone 8 จาก 3 ค่ายใหญ่ในไทยอย่าง ทรู, AIS และดีแทค

ราคาไอโฟน 8 จาก TrueMove H

  • 64GB (ไม่มีสินค้า)
  • 128GB (ไม่มีสินค้า)

ราคาไอโฟน 8 ที่ AIS

  • 64GB ราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 5,300 บาท
  • 128GB ราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 7,300 บาท

ราคาไอโฟน 8 ที่ DTAC

  • 64GB ราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 8,200 บาท
ราคาไอโฟน 8

ข้อดี – ข้อเสียของ iPhone 8

แม้ถึงว่าในปี 2563 iPhone จาก Apple จะมีราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาไอโฟน 8 ก็ยังคงลดราคาถูกลงและยังไม่ตกรุ่น วันนี้เราจะพาไปดูข้อดี – ข้อเสีย ของ iPhone 8 เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ข้อดีของ iPhone 8

iPhone 8 กล้องหลังใช้ความละเอียดเดิมอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล แต่ใช้เซนเซอร์รูรับแสง f1.8 ทำให้สามารถถ่ายรูปในที่มืดได้ดีขึ้นมาก มีมาตรฐานกันน้ำ IP68 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ถึง 1 เมตร นานกว่า 30 นาที และสามารถกันฝุ่นอีกด้วย มีสเปคเครื่องที่ทรงพลังอย่างชิพ A11 Fusion ตัวเดียวกับ iPhone 8 Plus และ iPhone X ส่วนในเรื่อง RAM รุ่นใหญ่อย่าง i8 Plus จัดมาถึง 3 GB ส่วน i8 อยู่ที่ 2 GB เหมือนเดิม ที่สำคัญแบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า เพราะมีการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ และด้วยประสิทธิภาพของชิพทำให้ใช้งานได้มากกว่าเดิม 1-2 ชั่วโมง ด้วยสเปคที่ดี แต่เมื่อเปรียบกับราคาในตลาด iPhone 8 ถือว่ามีราคาถูกและเหมาะกับคนที่อยากใช้ iPhone ในราคาไม่แพงมาก

ข้อเสียของ iPhone 8

การดีไซน์ของ iPhone 8 ยังคงใช้ขนาดเดียวกับ iPhone 7 ทุกประการ ที่แตกต่างจากเดิมเห็นจะเป็นการดีไซน์ด้านหลังที่ใช้กระจกแทนเพื่อใช้ฟีเจอร์ชาร์จไร้สาย และรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. หายไป เพื่อช่วยกันน้ำได้ทั้งเครื่อง เช่นเดียวกับ iPhone 7

ราคาไอโฟน 8

สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ํา วอเลท

Categories
News

Apple เปิดตัว iphone ใหม่ล่าสุดประจำปี 2020

<p><a href=

ในทุก ๆ ปีสินค้าที่ Apple ปล่อยออกมาจะเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองและแสดงถึงภาพลักษณ์ของ Apple แม้ถึงว่า Wow Product ปี 2019 ดูเหมือนจะกลายเป็น AirPods แต่ในปี 2020 Apple ได้ประกาศว่าจะสร้างสินค้ายุคใหม่ฝั่งบริการ ตามรอย Apple TV+, News+, Arcade และเมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้ขยายความร่วมมือกับ (RED) เพื่อต่อสู้กับ HIV/AIDS และ COVID-19 โดยมีอุปกรณ์รุ่นใหม่ของ (PRODUCT)RED ให้เลือกมากมาย ซึ่งรวมถึง iphone ใหม่ล่าสุด อย่าง iPhone 12 รุ่น (PRODUCT)RED, iPhone 12 mini รุ่น (PRODUCT)RED โดย ทาง Apple จะมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการซื้อ (PRODUCT)RED ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ให้แก่โครงการรับมือ COVID-19 ของกองทุนโลก เพื่อให้บริการและมอบการรักษาแก่ชุมชนบางส่วนที่ยังขาดการดูแลรักษาในโลก 

iphone ใหม่ล่าสุด

iphone ใหม่ล่าสุด 12 Series รุ่นประจำปี2020 จาก Apple มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าไอโฟนรุ่นเก่า

สิ้นสุดการรอคอย เมื่อApple เปิดตัว iPhone 12 Series อย่างเป็นทางการ ในงาน Apple Even เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020 (ตรงกับเวลา 00:00 น. ตามเวลาประเทศไทย) ถือว่าเป็น iphone ใหม่ล่าสุด ประจำปี 2020 จาก Apple ซึ่งมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยได้แก่ iPhone 12 (6.1 นิ้ว), iPhone 12 mini (5.4 นิ้ว), iPhone 12 Pro (6.1 นิ้ว) และ iPhone 12 Pro Max (6.7 นิ้ว) และแน่นอนค่ะว่ารุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Apple ที่รองรับการใช้งานเครือข่ายไร้สาย 5G พร้อมทั้งยังอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ล้ำๆ ที่เหนือกว่าไอโฟนรุ่นไหนๆเท่าที่เคยมีมา จะมีคุณสมบัติส่วนไหนบ้างที่น่าสนใจ มาดูกันเลยค่ะ

iphone ใหม่ล่าสุด

iPhone 12 Mini / iPhone 12

iPhone 12 Mini และiPhone 12 มีดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยขอบเครื่องที่ดูเหลี่ยมขึ้นลักษณะคล้ายกับ iPhone 5 แต่มีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า ประกอบกับวัสดุเครื่องที่ผสมผสานกันระหว่างโลหะ และกระจก แต่เมื่อเปรียบกับ iPhone 11 แล้ว iPhone 12 จะบางกว่าและเบากว่า โดยทั้งคู่มีราคาล่าสุดเริ่มต้นที่ 25,900 บาท

  • หน้าจอ: iPhone 12 และ12 Mini มีหน้าจอแบบ Super Retina XDR (OLED) โดย iPhone 12 มีขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1170 พิกเซล และ 12 Mini มีขนาด 5.4 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
  • CTU: iPhone 12 ทุกรุ่นใช้ชิป A14 BIONIC ที่ทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟน ทำให้การใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่การเล่นเกมกราฟิก 3D ลื่นไหล
  • กล้องหลังคู่: iPhone 12 และ12 Mini ประกอบด้วยกล้อง Wide 12MP + กล้อง Ultra Wide 12MP ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ Night mode Time-lapse ในทุกเซ็นเซอร์ที่สามารถถ่ายรูปได้แม้แสงน้อย
  • แบตเตอรี่: iPhone 12 ทุกรุ่นมากับฟีเจอร์แถบแม่เหล็กที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายผ่าน MagSafe 15W
  • ขนาด / น้ำหนัก: iPhone 12 Mini มีขนาด 131.5 x 64.2 x 7.4 มม. และมีน้ำหนัก 135 กรัม ส่วน iPhone 12 มีขนาด 146.7 x 71.5 x 7.4 มม. และมีน้ำหนัก 164 กรัม
iphone ใหม่ล่าสุด

iPhone 12 Pro / Pro Max

iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max มีดีไซน์มาในแนวเดียวกับ iPhone 12 และ 12 Mini ด้วยขอบเครื่องที่มีความเหลี่ยมขึ้น และใช้วัสดุแบบเดียวกันที่มีความทนทานในระดับเดียวกัน โดยทั้งคู่มีราคาล่าสุดเริ่มต้นที่ 36,900 บาท

  • หน้าจอ: iPhone 12 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล และ Pro Max มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซล ซึ่งทั้งคู่ใช้หน้าจอแบบ Super Retina XDR ที่ สามารถเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 1200 nits และเคลือบด้วย Ceramic Shield อีกเช่นเดียวกัน
  • กล้องหลัง 3 ตัว: iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max ประกอบด้วยกล้อง Wide 12MP (OIS) + กล้อง Ultra Wide 12MP + กล้อง Telephoto 12MP (OIS) + เซ็นเซอร์ LiDAR และมีระบบกันสั่นที่ตัวเซ็นเซอร์ SENSOR SHIFT OIS ส่วนการถ่ายภาพในที่มืดก็เด็ดไม่แพ้กันโดยเซ็นเซอร์ Wide และ Ultra Wide มีการรองรับแบบ Night Mode สามารถถ่ายวิดีโอ Dolby Vision 30 fps ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
  • ขนาด / น้ำหนัก: iPhone 12 Pro มีขนาด 146.7 x 71.5 x 7.4 มม. และมีน้ำหนัก 189 กรัม ส่วน Pro Max มีขนาด 160.8 x 78.1 x 7.4 มม. และมีน้ำหนัก 228 กรัม
iphone ใหม่ล่าสุด

สรุปสเปค iPhone 12 Series ที่เหนือกว่าไอโฟนรุ่นไหนๆ

หลังจากที่ Apple ประกาศเปิดตัว iphone ใหม่ล่าสุดปี 2020 อย่าง iPhone 12 Series ที่มีรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่น เราจึงได้สรุปสเปคทั้ง 4 รุ่นมาฝากทุกคน จะมีอะไรกันบ้าง มาดูกันเลย 

iPhone 12 Series ทั้ง 4 รุ่นมาพร้อมกับการปรับดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ โดยตัวเครื่องจะมีความเหลี่ยมคล้ายกับ iPhone 5 และใช้กระจกครอบหน้าจอแบบ Ceramic Shield ซึ่ง Apple ระบุว่ามีความแข็งแกร่งกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ แถมทนต่อแรงตกกระแทกได้ดีกว่าแบบเดิมถึง 4 เท่า พร้อมทั้งมีคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ในระดับความลึก 6 เมตร ไม่เกิน 30 นาที มีความสามรถในการรองรับเครือข่ายไร้สาย 5G 

แต่ที่เด็ดที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณสมบัติของกล้อง LiDAR ที่มีอยู่ในรุ่น iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) และได้มีการเพิ่มกล้อง LiDAR Scanner สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงการทำฟีเจอร์เกี่ยวกับเทคโนโลยี AR และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของวงการที่รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 10-bit HDR และแบบ Dolby Vision HDR ด้วยความคมชัดระดับ 4K 60fps เรียกได้ว่าคุณสมบัติเหล่านี้สามารถทดแทนการใช้กล้องตัวใหญ่ๆได้เลย

เว็บพนันออนไลน์ ฝากถอน ไม่มี ขั้น ต่ํา

Categories
News

สรุปสเปค iphone 12 pro มีกี่สี ราคาล่าสุด จาก Apple Store Online ในไทย

iphone 12 pro

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงานเปิดตัว สมาร์ทโฟนสุดพรีเมี่ยมอย่าง iPhone 12 Series ที่หลายๆคนรอคอยกันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยครั้งนี้ Apple ได้เปิดตัวมาด้วยกันถึง 4 รุ่น คือ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งแน่นอนว่าเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ไว้ iPhone 12 Series เป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของ Apple ที่รองรับการใช้งาน 5G ที่มาพร้อมกับการอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ล้ำๆ ที่ทำให้หลายคนต้องทึ่งไปกับความสามารถของมันจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

iPhone 12 Pro และiPhone 12 Pro Max เป็นสมาร์ทโฟนที่ผลิตและวางจำหน่ายโดยบริษัท Apple เป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดขายสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก และได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020 โดยทางกสทช. อนุมัติการนำเข้าไทย ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3 ค่ายใหญ่ในไทยจะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 20 พฤศจิกายน และของเข้าไทยวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2563

iPhone 12 Series เป็น iPhone รุ่นแรกจาก Apple ที่ไม่มีอะแดปเตอร์จ่ายไฟ และหูฟังEarPods ที่พบใน iPhone รุ่นก่อนหน้าอีกต่อไป อย่างไรก็ตามยังมีสาย USB-C to Lightning มาให้ด้วย นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกนำมาใช้มีผลย้อนหลังไป iPhone รุ่นอื่น ๆ ที่ขายโดย Apple รวมทั้ง iPhone 11 และiPhone SE (รุ่นที่ 2) 

iphone 12 pro

สรุปสเปค iphone 12 pro มีสีให้เลือกมากมาย

Apple ได้นำเอาการออกแบบที่เรียบและเหลี่ยมของ iPhone 4 กลับมาออกแบบสำหรับ iphone 12 pro ด้วยรูปแบบขอบโค้งที่เราคุ้นเคยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในครั้งนี้ Apple ได้นำกระจกหน้าจอแบบ Ceramic Shield มาใช้เป็นส่วนประกอบ เพื่อการป้องกันรอยขีดข่วน โดยการเลือกใช้ Ceramic Shield เพื่อปรับปรุงความทนทานของหน้าจอที่ให้การป้องกันการตกกระแทกที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 4 เท่าและ แข็งแรงกว่ากระจกสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ

สำหรับใครที่สงสัยว่า iphone 12 pro มีกี่สี? วันนี้เรามีคำตอบมาให้ 12 Pro และ 12 Pro Max มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, เงิน, ทอง และ แปซิฟิกบลู โดยสี Pacific Blue จะออกสีเทากว่าสีน้ำเงินของ iPhone 12 เล็กน้อยและ iphone 12 pro มีข้อมูลสเปคเครื่องที่น่าสนใจดังนี้

สเปคไอโฟน12 pro

  • ขนาดตัวเครื่อง 146.7 x 71.5 x 7.4มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 189 กรัม
  • หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super Retina XDR (OLED)
  • ความละเอียดหน้าจอ 1170 x 2532 รองรับการแสดงผล HDR10+ Dolby Vision True-Tone และ Wide Color Gamut
  • กระจกหน้าจอเป็น Ceramic Shield
  • มีมาตรฐานการกันน้ำ IP68 กันน้ำได้ลึกสุด 6 เมตรและนานถึง 30 นาที
  • ชิพที่เร็วแรงอย่าง Apple A14 Bionic และ GPU เป็นของ Apple เองแบบ 4 Core 
  • ความจำในตัว ได้แก่ 128GB / 256GB / 512GB 
  • สามารถเพิ่มความจำผ่าน iCloud Storage
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 14 
  • สามารถเชื่อมต่อ WiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.0 NFC และรองรับ Lightning Port
  • รองรับ eSIM และ Nano SIM
  • ระบบเสียงมี ลำโพง Stereo ทั้งด้านบนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS
  • กล้องหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกัน ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelaspe ทั้งกลางวันและกลางคืน
  • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F2.4 มุมมอง120 องศา 
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซูมได้ 2 เท่าแบบ Optical
  • LiDAR Sensor
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ ไม่ได้ระบุความจุ แต่รองรับกำลังชาร์จไฟ (18W) รองรับทั้ง ชาร์จไร้สาย (15W)
  • ระบบความปลอดภัย สามารถสแกนหน้าแบบ Face ID ได้
iphone 12 pro

ราคาล่าสุด iphone 12 pro ในไทย

หลังจากที่คุณได้ทราบถึงคุณสมบัติของ iphone 12 pro แล้ว และหลายคนคงกำลังสงสัยราคาในไทยที่วางจำหน่ายใน Apple Store Online ของไทยและจาก 3 ค่ายใหญ่กันอยู่ใช่ไหมคะ? ซึ่งหลังจากงานประกาศเปิดตัว iPhone 12 Pro ทาง Apple ก็ได้เปิดเผยราคา iphone 12 pro ในไทย ซึ่งเราก็ได้รวบรวบราคาล่าสุด 2020 ของ 12 pro จาก Apple Store Online มาฝากทุกคน โดยแต่ละราคาก็แตกต่างกันตามขนาดความจุ จะมีราคาไหนบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

ราคาไอโฟน 12 Pro ที่ Apple Store Online ไทย

  • 128GB ราคา 36,900 บาท
  • 256GB ราคา 40,900 บาท
  • 512GB ราคา 48,900 บาท

แทงบอลออนไลน์

HILO-88.COM
HILO-88.COM