สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
News สอนใช้

แนะนำการตั้งค่า iOS 15 ที่จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น

รูปภาพประกอบด้วย ข้อความ, ในอาคาร

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำให้คุณต้องอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15 ของ iPhone ซึ่งไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone 13, iPhone 12, iPhone 11 หรือรุ่นเก่ากว่านี้ คุณก็สามารถปรับแต่งการตั้งค่า iOS 15 เพื่อทำให้สมาร์ทโฟนของคุณทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่า iPhone แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แต่พวกมันก็สามารถใช้งานคุณสมบัติของ iOS 15 ได้เหมือนกันด้วยการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15 บน iPhone ของคุณ และเพื่อให้คุณสามารถใช้งานฟีเจอร์บางประการของ iOS 15 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงได้รวบรวมการตั้งค่า iOS 15 ที่จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ 

ระบบปฏิบัติการ  iOS 15 คืออะไร?

ที่มาของรูปภาพ

ก่อนที่คุณจะไปเรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งค่า iOS 15 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน คุณรู้หรือไม่ว่าระบบปฏิบัติการ iOS 15 คืออะไร? iOS 15 คือ ระบบปฏิบัติการล่าสุดสำหรับ iPhone ของบริษัท Apple ที่พร้อมให้ใช้งานได้แล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี และมีคุณสมบัติอันชาญฉลาดใหม่ ๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้ iPhone ของคุณทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้มากขึ้น iOS 15 มีอะไรบ้าง? ความจริงแล้ว iOS 15 ได้มีการอัปเดต FaceTime มีโหมดโฟกัสที่จะช่วยลดการรบกวน และมีคุณสมบัติใหม่ที่ไม่เคยมีในระบบปฏิบัติการ iOS มาก่อนอย่าง “ข้อความในรูปภาพ” หรือ Live Text ซึ่งใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อดึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกมาแสดง และอื่น ๆ อีกมากมาย  

การตั้งค่า iOS 15 ที่จะทำให้ iPhone ของคุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ที่มาของรูปภาพ

หาก iPhone ของคุณได้รับการอัปเดต iOS 15 เรียบร้อยแล้ว คุณอาจจะต้องการใช้ฟีเจอร์ยอดนิยมบางอย่างเช่น SharePlay ใน FaceTime หรือการจดจำข้อความในกล้องของคุณ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากการฟีเจอร์ iOS 15 ก็คือการตั้งค่าการทำงานของฟีเจอร์ ดังนั้นเราจะนำคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับการกำหนดการตั้งค่า iOS 15 เพื่อทำให้ iPhone ของคุณทำงานได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนี้

  1. การแจ้งเตือนสายเรียกเข้าแบบเต็มหน้าจอ: เปลี่ยนการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าแบบเต็มหน้าจอที่ดึงดูดความสนใจ ทำให้คุณไม่เกือบการรับสายให้ไปที่  การตั้งค่า > โทรศัพท์ > สายเรียกเข้า  แล้วแตะที่ ‘เต็มหน้าจอ’
  2. ปิดการครอบคลุม 5G ที่คุณไม่ต้องการ: Apple มีคุณสมบัติ Smart Data เฉพาะสำหรับโทรศัพท์ 5G เท่านั้น (iPhone 12 และ iPhone 13) ซึ่งมันจะสลับระหว่างเครือข่าย 4G LTE และ 5G โดยอัตโนมัติ แต่สวิตช์อัตโนมัตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่หมดเร็ว หากคุณไม่ต้องการให้แบตหมดเร็วให้ปิดการเชื่อมต่อ 5G โดยการไปที่ การตั้งค่า > เซลลูลาร์ > ตัวเลือกข้อมูลเซลลูลาร์ > เสียงและข้อมูล แล้วเลือก ‘LTE’ และคุณสามารถเปิด 5G อีกครั้งได้ทุกเมื่อที่ต้องการ หากคุณอยู่พื้นที่ที่ครอบคลุมสัญญาณ 5G
  3. ปลดล็อกโทรศัพท์ขณะสวมหน้ากากอนามัย: iPhone มีเทคโนโลยี Face ID ของ Apple ที่มีตัวเลือกให้คุณเปิดคุณสมบัติการปลดล็อกด้วยใบหน้า ทำให้การปลดล็อค iPhone ของคุณสะดวกสบายมากขึ้น หากคุณเป็นเจ้าของ Apple Watch ด้วยคุณจะสามารถปลดล็อกโทรศัพท์ขณะสวมหน้ากากอนามัยได้ เมื่ออุปกรณ์ทั้งสองได้รับการอัปเดต iOS 15 แล้ว โดยไปที่ การตั้งค่าบน iPhone > ตัวเลือก Face ID และใส่รหัสผ่าน > ส่วนปลดล็อกด้วย Apple Watch (คุณต้องเชื่อมต่อกับ Apple Watch เพื่อให้การตั้งค่าปรากฏ) 
  4. จัดระเบียบการแจ้งเตือนของคุณ: คุณสามารถจัดการกับการแจ้งเตือนใน iOS 15 ได้ด้วยคุณสมบัติสรุปการแจ้งเตือน โดยคุณสามารถกำหนดเวลาการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญในเวลาที่กำหนดของวันได้ เช่น การโทร ข้อความส่วนตัว และการแจ้งเตือนตามเวลาอื่น ๆ หากคุณต้องการลองใช้ให้ไปที่ การตั้งค่า > การแจ้งเตือน แล้วแตะที่ ‘กำหนดเวลาส่งสรุป’
  5. การตั้งค่าอีเมลหรือเว็บเบราว์เซอร์ที่คุณชื่นชอบให้เป็นค่าเริ่มต้น: เมื่อคุณแตะลิงก์หรือปุ่มสำหรับส่งอีเมล iPhone ของคุณจะเปิดเว็บเบราว์เซอร์หรือผู้ให้บริการอีเมลที่คุณเลือกโดยอัตโนมัติ แทนที่จะเป็น Safari หรือ Mail โดยการไปที่การตั้งค่า > เลือกแอปที่คุณต้องการตั้งเป็นค่าเริ่มต้น (เช่น Google Chrome, Outlook เป็นต้น) > ระบุว่า Default Mail App หรือ Default Browser App แล้วแตะที่ตัวเลือกนั้นและเลือกแอปที่คุณเลือกแทน Safari หรือ Mail 
  6. ตั้งค่าคุณสมบัติที่คุณสามารถใช้ได้เมื่อ iPhone ของคุณถูกล็อค: คุณสามารถเข้าถึงคุณสมบัติบางประการได้ ถึงแม้ iPhone ของคุณจะถูกล็อค โดยการไปที่ การตั้งค่า > Face ID & Passcode > ป้อนรหัสผ่าน > อนุญาตการเข้าถึงเมื่อถูกล็อค แล้วสลับแถบเลื่อนตามความต้องการของคุณ

Author

Suwanna Preebunpul

Suwanna Preebunpul

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

Contact >> Instagram, Facebook, Line

เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์

Categories
News

ทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมยานยนต์ยุคใหม่ที่จะพาคุณก้าวเข้าไปสู่โลกอนาคตอย่างแท้จริง

รถยนต์ไฟฟ้า

เมื่อไม่นานมานี้ประเทศไทยได้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า โดยรถยนต์ชนิดนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้รถสมัยใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เริ่มหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น เนื่องจากมันใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมยานยนต์ยุคใหม่ที่หลาย ๆ ประเทศสามารถใช้งานได้แล้ว แต่ในไทยเพิ่งเริ่มเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2020 ซึ่งหลังจากการเปิดตัวก็ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคึกคักเป็นอย่างมาก โดยสังเกตได้จากกระแสในโลกโซเชียลและบริษัทรถยนต์อันดับต้น ๆ ก็สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งยังมีสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเพิ่มมากขึ้น สำหรับที่กำลังสงสัยว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? คุณสามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยค่ะ

รถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?

หลังจากเกิดกระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น หลายคนคงกำลังสงสัยใช่ไหมคะว่ารถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? รถยนต์ไฟฟ้า หรือเรียกสั้น ๆ ว่า EV ที่ย่อมาจาก Electric Vehicle เป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน และสามารถชาร์จไฟได้เมื่อแบตเตอรี่หมด โดยการทำงานรถยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มต้นจากแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ต่อมาอุปกรณ์ตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับและถูกส่งต่อไปที่ตัวมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรถยนต์

และด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้าจะมีราคาน้อยกว่าพลังงานเชื้อเพลิง โดยทั่วไปรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีอายุการใช้งานยาวนานและสามารถเก็บพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญรถยนต์ชนิดนี้ไม่มีการปล่อยไอเสียจึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถยนต์ไฟฟ้า

ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า

โดยทั่วไปรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีหลายประเภท บางคันใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรือที่เรียกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วนและบางรุ่นสามารถใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลได้ ซึ่งเรียกว่ารถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด และนี่คือประเภทรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่พบในปัจจุบัน

  • รถยนต์ไฟฟ้าล้วน คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ให้พลังงานไฟฟ้า 100% และได้รับพลังงานไฟฟ้าเมื่อเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลในการทำงาน จึงไม่ปล่อยมลพิษเหมือนรถยนต์ทั่วไป เช่น ORA Good Cat, MG EP, Lexus UX 300E และ Kia Soul EV เป็นต้น
รถยนต์ไฟฟ้า
  • รถยนต์ไฟฟ้าระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ให้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก แต่มีเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแบบเดิม ดังนั้นรถยนต์ประเภทนี้จึงสามารถใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลได้หากแบตเตอรี่หมด เมื่อวิ่งด้วยเชื้อเพลิงจะปล่อยมลพิษ แต่เมื่อวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าจะไม่ปล่อยมลพิษ สามารถเสียบปลั๊กไฮบริดเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ เช่น Mercedes-Benz C-Class, Porsche Cayenne E-Hybrid และ Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid T5 เป็นต้น
  • รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด คือ รถยนต์ไฟฟ้าแบบลูกผสม (Hybrid) ที่ใช้เชื้อเพลิง (น้ำมันเบนซินหรือดีเซล) และแบตเตอรี่ไฟฟ้าด้วย ผู้ใช้รถยนต์สามารถสลับไปมาระหว่างการใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงกับการใช้โหมด ‘EV’ ได้เพียงกดปุ่ม จึงมีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถยนต์ปกติ และยังสามารถนำพลังงานกลที่เหลือหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บในแบตเตอรี่ได้ แต่ไม่มีช่องสำหรับเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้า เช่น Toyota Corolla Altis Hybrid, Toyota Camry Hybrid และ Honda Accord Hybrid เป็นต้น
  • รถยนต์ไฟฟ้า

    ในปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาถูกเริ่มต้นไม่ถึง 6 แสนบาท ไปจนถึงราคาแพง 6 ล้านกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งในปี 2022 มีรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าซื้อหลายรุ่น เช่น FOMM One, MG EP, Volvo XC40 Recharge Pure Electric, Porsche Taycan และ Audi e-tron GT / RS e-tron GT เป็นต้น

    Suwanna Preebunpul

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    sa gaming

    Categories
    News

    ทำความรู้จักกับสุดยอดเกม NFT ที่กำลังเป็นที่น่าสนใจสำหรับวงการวิดีโอเกมในปัจจุบัน

    เกม NFT

    ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่าเกม NFT หรือเกมที่อยู่บนระบบบล็อกเชน กำลังเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในวงการวิดีโอเกมมากขึ้น โดยสังเกตได้จากการที่นักพัฒนาเกมหลายคนได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการพัฒนาเกมจำนวนมาก อีกทั้งสกุลเงินดิจิทัลสำหรับเกม NFT ใหม่กำลังเพิ่มขึ้นในการจัดอันดับสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากนักลงทุนหลายคนกำลังมองหาโอกาสใหม่ในการสร้างผลกำไร 

    การเล่นเกม NFT สามารถสร้างรายได้ ได้หรือไม่? แน่นอนว่าได้ค่ะ เพราะเกมที่อยู่บนระบบบล็อกเชนจะเชื่อมต่อกับระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ NFT หรือโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ เรียกง่าย ๆ ก็คือการเล่นเกม NFT ก็คือการหารายได้ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทำซ้ำหรือ COPY เพิ่มเติมได้ แต่สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้มีค่ามีราคาเหมือนกับสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงทุนในเกม NFT คุณควรจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเกม NFT กันก่อน ซึ่งในบทความนี้เราก็จะพาคุณไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเกม NFT พร้อมกับแนะนำสุดยอดเกม NFT ที่น่าจับตามองในอนาคต

    ไขข้อสงสัยเกม NFT คืออะไร?

    คุณรู้หรือไม่? การเล่นเกม NFT ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนในตลาด NFT ที่มีแนวโน้มการขับเคลื่อนที่จะเติบโตสูง เนื่องจากเกม NFT สามารถสร้างรายได้ให้กับนักพัฒนาเนื้อหาเกมได้ ในขณะที่ผู้เล่นสามารถรับ CRYPTOCURRENCIES ได้โดยการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเกม 

    คุณคงกำลังสงสัยใช่ไหมคะว่าเกม NFT คืออะไร? NFT GAME คือ เกมที่อยู่บนระบบบล็อกเชน โดยมีหลักการทำงานแบบเกม PLAY TO EARN เป็นรูปแบบเกมประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถสร้างรายได้ไปพร้อม ๆ กับการเล่นเกมไปด้วยบนระบบบล็อกเชน เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุมเนื้อหาในเกมได้มากขึ้น เช่น สกิน ตัวละคร อาวุธ ดินแดนเสมือนจริง และอื่น ๆ อีกมากมาย 

    ผู้เล่นเกม NFT สามารถอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินในเกมผ่าน 3 วิธีเล่นเกม NFT หลัก ได้แก่ การสร้างตัวละครใหม่หรืออัพเกรดตัวละคร การซื้อสินค้าดิจิทัลในตลาดกลางหรือบุคคลที่สาม หรือการปลดล็อกและรับไอเท็มใหม่ในเกม ซึ่งมูลค่าของไอเท็มจะขึ้นอยู่กับการใช้งานและความหายาก

    ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของไอเท็มในเกม มีโอกาสได้รับเงินจากการขายต่อไอเท็ม NFT ในตลาดรองให้กับผู้เล่นคนอื่น หรือสามารถโอนออกจากแพลตฟอร์มได้ นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถแปลงโทเค็นของตัวเองเป็นสกุลเงินอื่น ๆ สำหรับการแลกเปลี่ยนในประเทศที่กำลังพัฒนาได้ ซึ่งนี่อาจเป็นแหล่งรายได้สำหรับผู้ที่เล่นเกม NFT ที่ต้องการหารายได้ใหม่ ๆ 

    NFT เป็นโทเค็นดิจิทัลที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ ซึ่งถูกกำหนดสินทรัพย์ให้เป็นสินทรัพย์ดั้งเดิม ไม่ซ้ำใคร หายาก และไม่สามารถทำซ้ำได้ ซึ่ง NFT ใช้บัญชีแยกประเภท BLOCKCHAIN เพื่อตรวจสอบการสะสมทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใคร นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญในการทำงานของเกม NFT โดยนักพัฒนาเกมจะใช้สัญญาอัจฉริยะที่กำหนดวิธีการทำงานของ NFT ภายในเกม ซึ่งสัญญาจะถูกเก็บไว้ในบล็อกเชน ถึงแม้รายการจะมีการแลกเปลี่ยนราวกับว่าเป็นสินทรัพย์ทางกายภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกในบล็อกเชนทั้งสิ้น

    ข้อดีและข้อเสียของเกม NFT ที่ผู้ลงทุนควรรู้

    ความจริงแล้ว เกม NFT เป็นระบบเศรษฐกิจเสมือนจริงครั้งแรกที่มีอยู่ในวงการวิดีโอเกม ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีเกม NFT น่าเล่นมากมาย แต่การเกม NFT อาจจะไม่เหมือนกับการเล่นเกมแบบปกติที่อยากเล่นอะไรก็เล่น เพราะการเล่นเกม NFT ก็เปรียบเสมือนการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ต้องคำนึงถึงเงินทุน และปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คุณขาดทุนและช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย

    ข้อดีของเกม NFT

    อย่างที่เราทราบกันดี เกม NFT ขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ NFT หรือโทเค็นที่ไม่สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้อย่างไม่มีกำหนด โดยแต่ละรายการมีความเกี่ยวข้องกับค่าที่แตกต่างกัน และแต่ละตัวจะมีอยู่ในบัญชีแยกประเภทดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งข้อดีของเกม NFT ก็คือทำให้คุณมีโอกาสในการสร้างกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลในขณะเล่นเกม และงานศิลปะดิจิทัลในเกมก็ยังสามารถสร้างรายได้ ได้เช่นกัน เช่น มีมต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตก็เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล 

    โดยคุณสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของเกมได้ทุกเมื่อในราคาที่ยุติธรรม ผู้ซื้อจะกลายเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นหลังจากการโอนสิทธิความเป็นเจ้าของ และธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ธุรกรรมทุกอย่างมีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์และสามารถตรวจสอบได้โดยนักสำรวจบล็อคเชน

    ของสะสมในเกม NFT สามารถกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยการสร้างสิ่งที่เทียบเท่าดิจิทัลและแสดงด้วยโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ดิจิทัลในเกมนั้นปลอดภัย เพราะมันไม่สามารถทำซ้ำได้ ดังนั้นคุณจึงถือเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง และสามารถสร้างรายได้จากไอเท็มในเกม NFT ได้ แต่การลงทุนในเกม NFT นั้นจะลงทุนน้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับตัวเกมนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ของสะสมดิจิทัล “CRYPTOPUNK #3100” ขายครั้งแรกในปี 2560 ราคา 2,127 ดอลลาร์ แต่เมื่อขายให้กับนักสะสมรายอื่นในปี 2564 ผู้ขายจะสามารถทำเงินได้มากกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์

    ข้อเสียของเกม NFT

    ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความนิยมและความกังวลของเกม NFT คือข้อเสียที่หลายคนไม่ควรมองข้าม เนื่องจากความนิยมในการซื้อสินทรัพย์ที่สร้างโดย NFT ในปัจจุบันทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเปรียบเทียบกับปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างปรากฏการณ์ฟองสบู่ที่อาจจะเกิดขึ้นในการลงทุน NFT อย่างไรก็ตาม โทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้หลายตัวได้พิสูจน์คุณค่าและศักยภาพในการเติบโตแล้ว แต่การลงทุนใน NFTก็ยังมีขอบเขตสำหรับการเก็งกำไรที่มากเกินไป 

    นอกจากนี้ข้อเสียที่โดดเด่นของ NFT คือเทคโนโลยีบล็อกเชนมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก เช่น เว็บ NIFTY GATEWAY และเหรียญ SUPERRARE ที่ใช้ CRYPTOCURRENCY ETHEREUM เหมือนกับสกุลเงินดิจิทัลหลัก ๆ ส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนระบบที่เรียกว่า “PROOF OF WORK” ซึ่งต้องใช้พลังงานจำนวนมาก นั่นคือการถอดรหัสคอมพิวเตอร์ โดยใช้คอมพิวเตอร์หลายพันเครื่อง ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ อันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเช่น ปัญหาโลกร้อน

    สุดยอดเกม NFT ที่น่าจับตามองสำหรับการลงทุนในอนาคต

    นับตั้งแต่มีการแนะนำเกม NFT ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ NFT ในการเปลี่ยนแปลงวงการเกมมากขึ้น สังเกตได้จากจำนวนเกม NFT ในปัจจุบันที่มีเพิ่มมากขึ้น และเกม NFT ยอดนิยมหลายเกมมีราคาและจำนวนผู้เล่นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าเกม NFT ที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้มีอะไรบ้าง

    โชคดีที่วันนี้เราก็ได้รวบรวมรายชื่อเกม NFT ที่ดีที่สุดของปี 2021และคาดว่ามีแนวโน้นที่จะสามารถทำเงินให้คุณได้ในอนาคต ซึ่งเกมเหล่านี้มีทั้งความสนุกสนานและสามารถค้าขายตัวละครในเกมกับผู้เล่นอื่น ๆ ได้ นอกจากยังมีเกม NFT ฟรีอีกหลายเกมที่ให้คุณเล่นเพื่อรับรางวัล และนี่คือรายชื่อสุดยอดเกม NFT ที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับการลงทุนในอนาคต

    AXIE INFINITY 

    เริ่มต้นกันที่เกม NFT ที่มีลักษณะเหมือนกับ POKEMON โดยมีชื่อเรียกว่า AXIE INFINITY เป็นเกมออนไลน์บนระบบบล็อกเชน ETHEREUM อันดับต้น ๆ ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการเริ่มต้นเล่นเกมผู้เล่นต้องมี AXIES อย่างน้อย 3 ตัว สำหรับทำแต่ละภารกิจและเพื่อใช้ในการต่อสู้กับ AXIES ของผู้เล่นคนอื่น ๆ

    ซึ่ง AXIES ก็คือสัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่ใช้รูปแบบการทำงานเช่นเดียวกับ NFT ผู้เล่นต้องพยายามอัพเลเวล AXIES เพื่อรับของรางวัลที่สูงขึ้น โดยการต่อสู้ ออกผจญภัย และเพาะพันธุ์ AXIES ซึ่งแน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงดิจิทัลเหล่านี้สามารถนำไปแลกเปลี่ยนได้ในตลาดซื้อขาย ETHEREUM NFT และราคาของแต่ละชนิดจะขึ้นอยู่กับความหายากและลักษณะเฉพาะของพวกมัน

    BATTLE OF GUARDIANS (BOG)

    อีกหนึ่งเกม NFT ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า BATTLE OF GUARDIANS (BOG) เป็นเกมต่อสู้แบบผู้เล่นหลายคนในบล็อกเชนแบบเรียลไทม์ที่พัฒนาขึ้นบน UNREAL ENGINE เกมนี้เป็นเกมต่อสู้ขั้นสูงที่ใช้เครือข่าย SOLANA โดยผู้เล่นต้องต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ เพื่อรับรางวัลเพิ่มเติม ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมในการต่อสู้แบบหลายอาณาจักรในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกเกม SCIFI ปัจจุบันเกม BOG ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมบน PC เท่านั้น แต่ในอนาคตเกมนี้จะรองรับผู้เล่นหลายคนข้ามแพลตฟอร์มบนระบบ IOS และ ANDROID

    เกม BOG มุ่งมั่นที่จะสร้างเศรษฐกิจเกมที่ปลอดภัยด้วยศักยภาพในระยะยาว พร้อมกับสร้างประสบการณ์ METAVERSE ที่สนุกสนานด้วยกราฟิกที่น่าทึ่ง NFT ที่ไม่ซ้ำใคร และโอกาสมากมายในการรับผลกำไรที่แท้จริง ซึ่งจากการสำรวจตลาดเกมทั่วโลกตอนนี้มีมูลค่ามากกว่า 9,996,000,000 บาท ในขณะที่ตลาดเกม NFT มีส่วนร่วมน้อยกว่า 10% โดยเฉพาะเกมต่อสู้ NFT ที่มีศักยภาพมากขึ้น

    GODS UNCHAINED

    มาต่อกันที่อีกหนึ่งเกม NFT ยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า GODS UNCHAINED เป็นเกมการ์ดแนววางกลยุทธ์ในรูปแบบ FREE-TO-PLAY ที่สร้างขึ้นบน ETHEREUM เหมาะกับสายฟรีที่ไม่ต้องลงทุนและต้องการเล่นเกมเพื่อหารายได้ GODS UNCHAINED ถือเป็นตัวเลือกที่ดี โดยเกมนี้ผู้เล่นสามารถสร้างสำรับและครอบครองการ์ด หรือไอเท็มต่าง ๆ ได้ผ่าน ERC-721 หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ NFT เนื่องจากการ์ดเป็นทรัพย์สินที่ตรวจสอบได้ใน ETHEREUM ผู้เล่นทุกคนจึงเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนได้อย่างแท้จริง

    เกม GODS UNCHAINED มีลักษณะคล้ายกับเกมซื้อขายการ์ดแบบดั้งเดิมแต่มีวิธีแลกเปลี่ยนการ์ดที่มากกว่าที่เคยมีมา และด้วยคุณสมบัติในเกมที่ยอดเยี่ยมและแอนิเมชั่นที่ซับซ้อน ทำให้เกมนี้มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ในครึ่งเดือนตามประกาศบนเว็บไซต์ทางการ และทำให้ GODS UNCHAINED กลายเป็นผู้ให้บริการเกมซื้อขายการ์ดชั้นนำที่ทำงานบน IMMUTABLE X โปรโตคอลแบบ ZERO-KNOWLEDGE ROLLUP (ZK-ROLLUP) ที่ทำให้สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก

    SPLINTERLANDS

    อีกหนึ่งเกม NFT ที่มีชื่อเรียกว่า SPLINTERLANDS เป็นเกมการ์ดที่ผู้เล่นสามารถเล่นได้ฟรี เช่นเดียวกับ GODS UNCHAINED โดยผู้เล่นจะได้รับรางวัลเมื่อผู้เล่นชนะการจับคู่การ์ด การเริ่มเล่นเกม SPLINTERLANDS ผู้เล่นต้องซื้อการ์ดแพ็คเริ่มต้น แล้วลงทะเบียนบัญชี STEEM ในบางกรณีผู้เล่นต้องเปิดเผยการ์ดที่ซื้อไว้ ผู้เล่นอาจจะโชคดีหากเปิดพบการ์ดหายากในการ์ดชุดแรกที่ซื้อ 

    นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถค้นหาการ์ดประเภทเดียวกันได้หลายแบบ และสามารถรวบรวมการ์ดที่เหมือนกันเพื่อเพิ่มพลังหรือขายการ์ดหนึ่งในนั้นเพื่อแลกกับ CRYPTOCURRENCIES ได้ เมื่อผู้เล่นได้ทำความคุ้นเคยกับการ์ดแล้ว ผู้เล่นก็จะสามารถดำเนินการต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นหรือเข้าร่วมในภารกิจได้ง่ายขึ้น และผลของกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้รับการ์ดเพิ่มหรือไม่

    THE SANDBOX 3D

    มาต่อกันที่เกม NFT ที่มีชื่อเรียกว่า THE SANDBOX 3D เป็นเกมยอดฮิตบนมือถือที่ผู้เล่นสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เสมือนได้ เกมนี้มีลักษณะคล้ายกับเกม MINECRAFT แบบสามมิติเหมือนเกมในสมัยก่อน แต่ความพิเศษของเกม THE SANDBOX คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์ ในเกมนี้ผู้เล่นสามารถจัดการและสร้างรายได้จากเนื้อหา VOXEL สามมิติในเกมได้  

    SANDBOX 3D ได้เปิดตัว SAND ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 แบบดั้งเดิมของ METAVERSE ทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อไอเท็มในเกมได้ในตลาดซื้อขายของแพลตฟอร์ม ไอเท็มในเกม THE SANDBOX จะไม่มีโอกาสซ้ำกันได้อีกเนื่องจากว่ามันรันอยู่บน BLOCKCHAIN และใช้ฟีเจอร์ ERC-721 ทำให้ผู้เล่นสามารถนำไอเท็มในเกมไปขายแลกเป็นเหรียญคริปโตก่อนนำไปแลกเป็นเงินจริงได้

    BATTLE RACERS

    นี่คือเกม NFT ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมยอดนิยมอย่าง SUPER MARIO KART และ F-ZERO ที่มีชื่อเรียกว่า BATTLE RACERS เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องรวบรวมอาวุธและชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุด โดยผู้เล่นต้องผสมผสานชิ้นส่วนและอาวุธต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อทำให้รถของคุณได้เปรียบบนสนามแข่งขนาดเท่าอาร์เคด หากผู้เล่นสามารถชนะหรือได้รับรางวัลบนบล็อกเชนเป็น NFT ผู้เล่นก็สามารถนำไปขายเป็นสกุลเงินดิจิทัลบน OPENSEA ได้ 

    ผู้เล่นแต่ละคนต้องพยายามสร้างสุดยอดรถด้วยทักษะและสถิติที่แตกต่างกัน โดยผู้เล่นสามารถเลือกควบคุมความเร็วหรือใช้อาวุธ พร้อมกับป้องกันการโดนยิงจากผู้เล่นคนอื่น เพื่อจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ ปัจจุบันเกมนี้สามารถเล่นได้บน DECENTRALAND ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงบนบล็อกเชน

    GUILD OF GUARDIANS

    มาต่อกันที่เกม NFT แนวผจญภัยอย่างเกม GUILD OF GUARDIANS เป็นเกมออนไลน์สนุก ๆ ที่ผู้เล่นต้องสวมบทบาทในธีมแฟนตาซีที่มีรูปแบบเป็นการสร้างทีมฮีโร่ เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จใน DUNGEON กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ในรูปแบบของ MULTIPLAYER และรับสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งสิ่งของที่รวบรวมมาได้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างไอเท็มในเกมได้ 

    ผู้เล่นสามารถนำไอเท็มเหล่านั้นมาซื้อขายกันได้บนแพลตฟอร์มในรูปแบบของ NFT อย่างไรก็ตาม เกมนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งในขณะนี้ NFT ของผู้ก่อตั้งกำลังลดราคาอยู่และมีกำหนดเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ในปี 2022 โดยมีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง จึงเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจและน่าจับตามองในอนาคต

    NEON DISTRICT

    อีกหนึ่งเกม NFT ที่ดีที่สุดของเกม RPG ที่มีชื่อเรียกว่า NEON DISTRICT เป็นเกมสวมบทบาท (RPG) ตัวละครในเกม และการสะสมทรัพย์สิน โดยไอเท็มในเกมและตัวละครที่นำเสนอบน NEON DISTRICT คือ NFT ด้วยเหตุนี้ ไอเท็มในเกมนี้จึงเป็นของสะสมดิจิทัลที่อยู่บนบล็อกเชนและผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากการเข้าร่วมในเกมโดยการขายทรัพย์สินที่ได้รับหรือซื้อในเกมให้กับผู้เล่นรายอื่น

    เป้าหมายของเกม NEON DISTRICT คือการสร้างทีมและแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นในการทำภารกิจหรือการต่อสู้แบบเรียลไทม์ เป็นโหมดเกมการแข่งขันแบบผู้เล่นหลายคน โดย NEON PIZZA จะเสนอผู้เล่นให้แข่งขันกันเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม เช่น NEON เกียร์ ชิ้นส่วน และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม NEON ถูกกำหนดให้เป็นรายได้ที่สามารถใช้ซื้อตัวละคร อาวุธ ชิ้นส่วน ชุดเกราะ น้ำผลไม้ และไอเท็มในเกมอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการอัพเกรดตัวละคร

    ILLUVIUM

    มาต่อกันที่เกม NFT ที่มีชื่อเรียกว่า ILLUVIUM เป็นเกมแนวเกมผจญภัย RPG แบบโอเพ่นเวิลด์ที่สร้างขึ้นบน ETHEREUM BLOCKCHAIN มาพร้อมกับโครงสร้างการเล่นเกมเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งผู้เล่นเกมนี้สามารถรับรางวัลในเกมได้ ด้วยการผสานรวมกับ IMMUTABLE X ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่ ๆ จาก NFT โดย ILLUVIALS NFT แต่ละตัวจะมีคุณสมบัติและระดับความหายากที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เกม ILLUVIUM กําลังจะเปิดตัวสู่สาธารณะในปี 2022 

    GOLD FEVER

    สุดท้ายเกม NFT ที่น่าจับตามองให้อนาคตที่มีชื่อเรียกว่า GOLD FEVER เป็นเกมเอาตัวรอดในป่า โดยผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครและต้องพยายามเอาชนะผู้เล่นคนอื่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการขุดทองในรูปแบบของโทเค็นดั้งเดิมของเกมคือ NGL นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสะสมไอเท็มพื้นฐานจาก NFT ได้ เช่น เสื้อผ้า อาวุธ และอุปกรณ์อื่น ๆ คล้ายกับการทำงานของเกม NFT ส่วนใหญ่ โดยไอเท็มส่วนใหญ่ในเกมสามารถซื้อขายได้ในตลาดกลาง ดังนั้น ผู้เล่นจึงสามารถสร้างรายได้จากการรับ NGL เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลในตลาดกลาง NFT ได้

    บทสรุป 

    จากข้อมูลของเกม NFT ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นจะเห็นได้ว่า NFT ถือเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมเกมในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเกม NFT ที่น่าจับตามองสำหรับการลงทุนที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นล้วนเป็นเกมที่ให้ทั้งความบันเทิงและให้ผลกำไรค่อนข้างสูงแก่ผู้เล่น ทำให้ผู้เล่นเกมเพลิดเพลินไปกับแนวเกมที่พวกเขาชื่นชอบ ในขณะเดียวกันก็ยังสร้างรายได้ในตลาด NFT อีกด้วย 

    จากรายการเกม NFT ข้างต้นจะสังเกตเห็นว่าเกมเข้ารหัส NFT ส่วนใหญ่มักจะนำเอาแนวเกมยอดนิยมมาใช้ ถึงแม้ว่าจะมีการรวมเข้ากับองค์ประกอบของบล็อกเชน แต่มันกลับยิ่งสร้างความหายากและความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้ เกม NFT จึงเล่นได้ไม่ยาก ทำให้ผู้เล่นได้รับความสนุกสนานและมีโอกาสได้รับรางวัลสูง เช่นในกรณีของ AXIE INFINITY ซึ่งผู้เล่นบางคนสามารถสร้างกำไรได้อย่างเหมาะสม

    วิดีโอเกม NFT เป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่และมีผู้คนจำนวนมากต่างให้ความสนใจ ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่มาจากผลตอบแทนที่ดีและปลอดภัยในโลกแห่งความเป็นจริง ความขาดแคลน การเป็นเจ้าของที่พิสูจน์ได้ และความสามารถในการโอนทรัพย์สินไปยังผู้เล่นรายอื่น ยิ่งทำให้เกม NFT เป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ 

    และด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มีศักยภาพมหาศาลจึงทำให้สกุลเงินดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเกมมากขึ้น โดยมีเกม NFT อีกมากมายที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในปี 2564 และมีบางเกมที่คาดว่าจะเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2565 ดังนั้นใครที่รอการเปิดตัวเกมใหม่ ๆ หรือกำลังคิดที่จะลงทุนกับการเล่นเกม NFT เราขอแนะนำรายการเกมที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น รับรองได้เลยว่าเกมเหล่านี้จะช่วยทำเงินให้คุณในอนาคตได้อย่างแน่นอน 

    Suwanna Preebunpul

    SUWANNA PREEBUNPUL

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGRAPHIC DESIGN ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    CONTACT >> INSTAGRAM, FACEBOOK, LINE

    เว็บพนันออนไลน์ ฝากถอน ไม่มี ขั้น ต่ํา

    Categories
    News

    แนะนำ 15 โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 โดดเด่นด้วยฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ครบจบในเครื่องเดียว

    โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022

    ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ความก้าวหน้าและเข้ามามีบทบาทให้ชีวิตของมนุษย์มากขึ้น ทำให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตของทุกคนไปแล้ว และสำหรับใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 เชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวม 15 โทรศัพท์มือถือน่าใช้มาแนะนำทุกคน ขอบอกเลยว่าโทรศัพท์ทุกรุ่นที่เราได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ล้วนเป็นสุดยอดโทรศัพท์มือถือของปี 2022 ที่โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์แบบจัดเต็ม และอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนที่ดีเรียกได้ว่าครบจบในเครื่องเดียว! ซึ่งจะมีโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนบ้าง? ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ

    โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022

    15 โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ฟีเจอร์จัดเต็ม ครบจบในเครื่องเดียว

    ทุกวันนี้บริษัทเทคโนโลยีมากมายต่างพากันเปิดตัวโทรศัพท์มือถือมากมายหลายรุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่ามีโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง? ซึ่งแน่นอนว่าภายในปี 2022 ได้มีมือถือออกใหม่หลายรุ่นจากหลาย ๆ แบรนด์ โดยแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป 

    เราเชื่อว่ามือถือที่ดีควรใช้งานได้นานหลายปี กล้องมีคุณภาพ มีหน้าจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และความเร็วเพียงพอต่อการเล่น SOCIAL NETWORK และเล่นเกมที่คุณต้องการ แต่จะมีมือถือรุ่นไหนดีที่สุด? มาไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กันกับ 15 โทรศัพท์มือถือน่าใช้ ประจำปี 2022 ที่อัดแน่นไปฟีเจอร์และคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนที่ดีที่คุ้มค่าต่อการใช้งานของคุณแน่นอนค่ะ

    SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA

    SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA

    แบรนด์ / รุ่น: 

    SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA

    ขนาด: 

    165.1 X 75.6 X 8.9 มม. 

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 11

    แรม: 

    12GB / 16GB

    แบตเตอรี่:

    5,000MAH 

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    39,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • ระบบกล้องยอดเยี่ยม
    • การออกแบบที่สวยงาม
    • อายุการใช้แบตเตอรี่งานยาวนาน

    ข้อเสีย: 

    • ไม่มีช่องเสียบการ์ด MICROSD

    หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ SAMSUNG GALAXY S21 ULTRA สมาร์ทโฟนจาก SAMSUNG แบรนด์ชื่อดังอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่ง GALAXY S21 ULTRA เป็นอีกหนึ่งมือถือน่าใช้ 2022 ราคาไม่เกิน 15000 ที่คุ้มค่าต่อการใช้งานอย่างมากถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพกล้องที่ยอดเยี่ยมด้วยการซูม 100 เท่า อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน การออกแบบที่น่าทึ่ง และสุดยอดคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมายที่มาพร้อมกับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 120HZ และความละเอียด QUAD HD 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG 

    IPHONE 13 PRO / IPHONE 13 PRO MAX

    IPHONE 13 PRO / IPHONE 13 PRO MAX

    แบรนด์ / รุ่น: 

    APPLE IPHONE 13 PRO / IPHONE 13 PRO MAX

    ขนาด: 

    • 146.7 มม. X 71.5 มม. X 7.7 มม. (13 PRO)
    • 160.8 มม. X 78.1 มม. X 7.7 มม. (13 PRO MAX)

    ระบบปฏิบัติการ:

    IOS 15

    แรม: 

    6GB

    แบตเตอรี่:

    3,095MAH (13 PRO) / 4,352MAH (13 PRO MAX)

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    38,900 บาท (13 PRO) / 42,900 บาท (13 PRO MAX)

    จุดเด่น: 

    • มีฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า IPHONE รุ่นอื่น ๆ
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
    • รูปภาพคมชัด

    ข้อเสีย: 

    • กล้อง SELFIE ไม่ได้รับอัปเดต
    • CINEMATIC MODE ไม่ได้เหมาะกับรุ่นโปร

    หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 จากแบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง APPLE หลายคนคงจะนึกถึง IPHONE 13 PRO และ IPHONE 13 PRO MAX เป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อปี2020 โดยมีคุณสมบัติที่เหลือกว่า IPHONE รุ่นอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงกล้องใหม่ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือก IPHONE 13 PRO ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว หรือ IPHONE 13 PRO MAX ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว คุณก็จะได้หน้าจอ OLED ที่คมชัดด้วยอัตราการรีเฟรช 120HZ ทำให้รูปภาพโดยรวมคมชัดมากยิ่งขึ้น

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: APPLE

    SAMSUNG GALAXY S21 / S21 PLUS

    SAMSUNG GALAXY S21 / S21 PLUS 

    แบรนด์ / รุ่น: 

    SAMSUNG GALAXY S21 / S21 PLUS 

    ขนาด: 

    • 151.7 X 71.2 X 7.9 มม. (S21)
    • 161.5 X 75.6 X 7.8 มม. (S21 PLUS)

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 11

    แรม: 

    8GB

    แบตเตอรี่:

    4,000MAH (S21) / 4,800MAH (S21 PLUS)

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    27,900 บาท (S21) / 33,900 บาท (S21 PLUS)

    จุดเด่น: 

    • ราคาถูกกว่า GALAXY S20
    • การถ่ายภาพแบบ SNAP SHOT

    ข้อเสีย: 

    • ไม่รองรับ MICROSD
    • หน้าจอยังไม่ได้ถือว่าดีที่สุด

    หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่ถูกและดี หลายคนคงนึกถึง SAMSUNG GALAXY S21และ S21 PLUS เป็นอีกหนึ่งโทรศัพท์ที่ดีที่สุดของ SAMSUNG เป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบในหลาย ๆ ด้าน ด้วยฟีเจอร์ที่น่าทึ่งผสมผสานกับสเปคที่ยอดเยี่ยม รวมถึงการออกแบบที่ดูทันสมัย โดย GALAXY S21 และ S21 PLUS ใช้หน้าจอ FULL HD ส่วนกล้องของ GALAXY S21 นั้นเหมือนกับ GALAXY S20 เพียงแค่ปรับแต่งซอฟต์แวร์บางอย่างที่ทำให้การสัมผัสนั้นดีขึ้น แต่หากคุณต้องการหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและแบตเตอรี่ที่ดีกว่า แนะนำให้เลือกซื้อรุ่น S21 PLUS 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    IPHONE 13

    IPHONE 13

    แบรนด์ / รุ่น: 

    APPLE IPHONE 13 

    ขนาด: 

    146.7 X 71.5 X 7.7 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    IOS 15

    แรม: 

    4GB

    แบตเตอรี่:

    อายุการใช้งานสูงสุด 19 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    25,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า IPHONE รุ่นก่อน ๆ
    • คุณภาพกล้องทำงานได้ดี

    ข้อเสีย: 

    • เปลี่ยนแปลงการออกแบบเล็กน้อย
    • ไม่มีหน้าจออัตราการรีเฟรช 120HZ
    • ไม่มีกล้องเลนส์เทเลโฟโต้

    IPHONE 13 เป็นอีกหนึ่งโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 จาก APPLE ที่อาจจะไม่ได้ถูกอัปเกรดเท่า PHONE 13 PRO แต่ IPHONE 13 ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือกหนึ่งเช่นกัน ด้วยจอแสดงผล OLED ขนาด 6.1 นิ้วที่สว่างและคมชัด กล้องหลักและมุมกล้องกว้างพิเศษทำงานได้ดี มีพิกเซลที่ใหญ่กว่า IPHONE 12 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: APPLE

    ONEPLUS 9 PRO

    ONEPLUS 9 PRO

    แบรนด์ / รุ่น: 

    ONEPLUS 9 PRO

    ขนาด: 

    163.2 X 73.6 X 8.7 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 11

    แรม: 

    8GB / 12GB

    แบตเตอรี่:

    4,500MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    22,500 บาท 

    จุดเด่น: 

    • โทรศัพท์กล้อง ONEPLUS ที่ดีที่สุด
    • อัตราการรีเฟรชเป็น 120HZ

    ข้อเสีย: 

    • ราคาแพง เมื่อเทียบกับ ONEPLUS รุ่นอื่น ๆ 
    • ไม่รองรับ MICROSD

    หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่มีคุณภาพกล้องเทียบเท่ากับโทรศัพท์มือถือชั้นนำอื่น ๆ เราขอแนะนำ ONEPLUS 9 PRO เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม และคุณสมบัติส่วนใหญ่ที่น่าทึ่ง ด้วยหน้าจอขนาด 6.7 นิ้วที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับคุณได้มากกว่า IPHONE บางรุ่น เพราะมี ‘FLUID DISPLAY’ ที่ตั้งค่าอัตราการรีเฟรชเป็น 120HZ ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้การเล่นเกมดีขึ้นเท่านั้น แต่มันยังทำให้การเข้าดูเว็บไซต์ราบรื่นขึ้นด้วย 

    จุดเด่นของ ONEPLUS 9 PRO อยู่ที่กล้องที่ได้รับการผสมผสาน HASSELBLAD และเลนส์มุมกว้างพิเศษ ‘ฟรีฟอร์ม’ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดการบิดเบือนขอบของภาพ ด้วยกล้องหลัก 48MP ควบคู่ไปกับกล้องเลนส์เทเลโฟโต้ 8MP และอัลตร้าไวด์ 50MP ส่วนอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังอยู่ในระดับที่ดี และใช้งานได้เต็มวันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็วและการชาร์จแบบไร้สาย 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: JD CENTRAL

    SAMSUNG GALAXY NOTE 20 ULTRA

    SAMSUNG GALAXY NOTE 20 ULTRA

    แบรนด์ / รุ่น: 

    SAMSUNG GALAXY NOTE 20 ULTRA

    ขนาด: 

    164.8 X 77.2 X 8.1 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 10

    แรม: 

    12GB

    แบตเตอรี่:

    4,500MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    38,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • กล้องซูมแบบ OPTICAL ZOOM 5X และ DIGITAL ZOOM 50X S PEN
    • กล้องอัลตร้าไวด์ที่ดีที่สุด

    ข้อเสีย: 

    • ราคาแพงมาก
    • ไม่รองรับการชาร์จแบบมีสาย 45W

    หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่มีกล้องที่น่าทึ่งที่สุดในยุคนี้ เราขอแนะนำ GALAXY NOTE 20 ULTRA เป็นสมาร์ทโฟนน่าใช้ที่ถือว่ามีราคาแพงที่สุดของ SAMSUNG และมีความสามารถสำหรับการถ่ายระยะไกลสุดขีดด้วยการซูมแบบ OPTICAL ZOOM 5X และ DIGITAL ZOOM 50X S PEN มาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ ๆ เช่น การบันทึกเสียงและการซิงค์กับบันทึกที่เขียนด้วยลายมือ 

    GALAXY NOTE 20 ULTRA เป็นหนึ่งในโทรศัพท์ที่ดีที่สุดของ SAMSUNG ด้วยขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว ความลื่นไหลของหน้าจอผ่านอัตราการรีเฟรช 120HZ ส่วนอายุการใช้งานแบตเตอรี่เราพบว่าสามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งวันโดยไม่มีปัญหา พร้อมกับการชาร์จแบบมีสายเร็ว 25W และเข้ากันได้กับการชาร์จแบบไร้สายเร็ว 15W

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    SAMSUNG GALAXY S20 FE 5G

    SAMSUNG GALAXY S20 FE 5G

    แบรนด์ / รุ่น: 

    SAMSUNG GALAXY S20 FE 5G

    ขนาด: 

    159.8 X 74.5 X 8.4 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 10

    แรม: 

    6GB / 8GB

    แบตเตอรี่:

    4,500MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    25,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • สเปคเครื่องดีเมื่อเทียบกับราคา
    • หน้าจอขนาดใหญ่

    ข้อเสีย: 

    • คุณภาพกล้องปานกลาง
    • ยังไม่รองรับ ANDROID 11
    • ไม่มีอัตราการรีเฟรช 120HZ

    หากใครกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่มีสเปคที่ดีพร้อมกับฟีเจอร์ยอดเยี่ยมต้องไม่พลาดกับ GALAXY S20 FE 5G ของ SAMSUNG เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสเปคเครื่องและกล้อง ทำให้มันกลายเป็นโทรศัพท์ที่คุ้มราคาที่สุดของ SAMSUNG ที่แซงหน้าโทรศัพท์รุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกัน GALAXY S20 FE 5G มีหน้าจอ INFINITY-O AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความคมชัด FULL HD PLUS ในขณะกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 12MP กล้องเลนส์เทเลโฟโต้ 8MP พร้อมซูมออปติคอล 3X และกล้องเซลฟี่ 32MP

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    IPHONE 12 PRO / IPHONE 12 PRO MAX

    IPHONE 12 PRO / IPHONE 12 PRO MAX

    แบรนด์ / รุ่น: 

    APPLE IPHONE 12 PRO / IPHONE 12 PRO MAX

    ขนาด: 

    • 146.7 มม. X 71.5 มม. X 7.4 มม. (12 PRO)
    • 160.8 มม. X 78.1 มม. X 7.4 มม. (12 PRO MAX)

    ระบบปฏิบัติการ:

    IOS 15

    แรม: 

    6GB

    แบตเตอรี่:

    2,815 MAH (12 PRO) / 3,687 MAH (12 PRO MAX)

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    36,900 บาท (12 PRO) / 39,900 บาท (12 PRO MAX)

    จุดเด่น: 

    • มีหลากหลายสีให้เลือก
    • คุณภาพหน้าจอคมชัดสดใส

    ข้อเสีย: 

    • ราคาแพง
    • ไม่มีแท่นชาร์จในกล่อง
    • อัตราการรีเฟรช 60HZ

    หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020 หลายคนคงจะนึกถึง IPHONE 12 PRO และ 12 PRO MAX เป็นสมาร์ทโฟนของ APPLE ที่ได้รับการยกระดับมาจาก IPHONE 12 โดยมีการปรับปรุงให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นและกล้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นเล็กน้อย รวมถึงหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ที่เพียงพอต่อการสตรีมวิดีโอและการเล่นเกม กล้องหลังสามตัวที่ไม่ได้ต่างจากกล้องใน IPHONE 11 PRO มากนัก แต่มีการเพิ่มเซ็นเซอร์ LIDAR ซึ่งคาดว่าจะสามารถถ่ายภาพสไตล์โหมดแนวตั้งได้แม้ในโหมดกลางคืน 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: ISTUDIO 

    XIAOMI 11T PRO

    XIAOMI 11T PRO

    แบรนด์ / รุ่น: 

    XIAOMI 11T PRO

    ขนาด: 

    164.1 × 76.9 × 8.8 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 11

    แรม: 

    8GB / 12GB

    แบตเตอรี่:

    5,000 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    16,990 บาท

    จุดเด่น: 

    • การเปิดรับแสงในภาพถ่ายและวิดีโอแม่นยำ
    • วิดีโอระดับความละเอียดสูง
    • ภาพถ่ายและวิดีโอสีสันสวยงาม
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน

    ข้อเสีย: 

    • บางครั้งสีในภาพถ่ายทิวทัศน์อาจดูสดใสจนผิดปกติ
    • กลางคืนการเปิดรับแสงมักจะต่ำเกินไป

    สำหรับใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ระดับพรีเมียม เราขอแนะนำ XIAOMI 11T PRO เป็นอีกหนึ่งมือถือน่าใช้ 2022 ราคาไม่เกิน 20000 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพต่อจาก MI 10T PRO ของปี 2020 11T PRO มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์ของ QUALCOMM SNAPDRAGON 888 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว มี RAM สูงสุด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 256GB ทำให้คุณสามารถโหลดแอปพลิเคชันและเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในโทรศัพท์ได้เยอะขึ้น 

    XIAOMI 11T PRO มีโมดูลกล้องหลักที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ 108MP และกล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP นอกจากนี้ยังมีเลนส์มาโครที่ XIAOMI เรียกว่า “เทเลมาโคร” ถึงแม้ว่ากล้องนี้ไม่ได้ใช้สำหรับการซูมระยะไกล แต่อุปกรณ์นี้ใช้อัลกอริทึมการซูมดิจิตอลในกล้องหลักแทน

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SHOPEE, LAZADA

    GOOGLE PIXEL 6 PRO

    GOOGLE PIXEL 6 PRO

    แบรนด์ / รุ่น: 

    GOOGLE PIXEL 6 PRO

    ขนาด: 

    163.9 × 75.9 × 8.9 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 12

    แรม: 

    12GB

    แบตเตอรี่:

    5,000 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    29,990 บาท

    จุดเด่น: 

    • ดีไซน์ใหม่ดูทันสมัย
    • กล้องและซอฟต์แวร์ AI ดียิ่งขึ้น
    • จอแสดงผลที่ยอดเยี่ยม

    ข้อเสีย: 

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ปานกลาง

    PIXEL 6 PRO เป็นอีกหนึ่งโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2020 ซึ่ง PIXEL 6 PRO มาพร้อมกับชิปเซ็ต TENSOR ใหม่ล่าสุดที่ออกแบบโดย GOOGLE ทำให้ประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ AI ดียิ่งขึ้น และมีคุณสมบัติสุดพิเศษมากมาย เช่น เลนส์เทเลโฟโต้ปริทรรศน์ หน้าจอ QHD และกล้องเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ 

    PIXEL 6 PRO 6 มีหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมความละเอียด QHD (3120 X 1440) และอัตราการรีเฟรช 120HZ เพื่อภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น และสีสันสดใสที่สวยงาม มีแบตเตอรี่ความจุ 5,000 MAH รองรับการชาร์จแบบไร้สายสูงสุดที่ 21W แต่ใช้ได้กับที่ชาร์จของ GOOGLE เท่านั้น สำหรับกล้อง PIXEL 6 PRO สามารถซูมออปติคอลได้ 4 เท่า กล้องเซลฟี่ 8MP (พร้อมมุมมอง 84 องศา) เป็นกล้องหน้า 11MP (มุมมอง 94 องศา) และมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่น่าทึ่ง เช่น การลบวัตถุที่ไม่ต้องการและการถ่ายภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวรอบ ๆ วัตถุควบคู่ไปกับโหมดกลางคืนที่ดีที่สุด

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SHOPEE, LAZADA

    SAMSUNG GALAXY S20 PLUS

    SAMSUNG GALAXY S20 PLUS

    แบรนด์ / รุ่น: 

    SAMSUNG GALAXY S20 PLUS

    ขนาด: 

    161.9 × 73.7 × 7.8 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 10

    แรม: 

    12GB

    แบตเตอรี่:

    4500MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    31,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • วิดีโอ 8K 24FPS จากกล้องด้านหลัง
    • คุณภาพกล้องที่ยอดเยี่ยม

    ข้อเสีย: 

    • ราคายังค่อนข้างสูง

    อีกหนึ่งโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ SAMSUNG GALAXY S20 PLUS โทรศัพท์หน้าจอแสดงผล INFINITY-O AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ดีไซน์สวยงามดูทันสมัยอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120HZ เพื่อการเล่นแอปพลิเคชันและการเล่นเกมที่ลื่นไหล มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,500MAH ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน GALAXY S20 PLUS มีกล้องที่น่าทึ่งด้วยกล้องหลักความละเอียด 12MP เลนส์เทเลโฟโต้ 64MP การซูมแบบออปติคอล 3X (เพิ่มขึ้นจากซูม 2X ปกติ) กล้องยังสามารถครอบตัดการซูมเป็นดิจิตอลซูม 30X และกล้องมุมกว้างพิเศษ 12MP ทำงานได้ดีในขณะที่กล้องหน้า 10MP ใช้งานได้ดีกับฟิลเตอร์ต่าง ๆ 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SHOPEE, LAZADA

    IPHONE 12

    IPHONE 12

    แบรนด์ / รุ่น: 

    APPLE IPHONE 12

    ขนาด: 

    146.7 มม. X 71.5 มม. X 7.4 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    IOS 15

    แรม: 

    4GB

    แบตเตอรี่:

    2,815 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    29,900 บาท

    จุดเด่น: 

    • จอแสดงผลสีสันสดใสคุณภาพยอดเยี่ยม
    • รองรับการเชื่อมต่อ 5G

    ข้อเสีย: 

    • กล้องคล้ายกับ IPHONE 11
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย

    อีกหนึ่งโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 จาก APPLE ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2020 อย่าง IPHONE 12 โทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติส่วนใหญ่ที่พบในโทรศัพท์มือถือระดับ PRO เท่านั้น เช่น กล้องโหมดกลางคืน IPHONE 12 ใช้หน้าจอ OLED ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วขนาดเดียวกับจอแสดงผลของ IPHONE 12 PRO ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่กำลังพอดีไม่ใหญ่มาก มาพร้อมกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งวันและดีกว่าแบตเตอรี่ IPHONE 11 เล็กน้อย สำหรับกล้อง IPHONE 12 มีกล้องหลัก 12MP และกล้องมุมกว้างพิเศษ 12MP ไม่มีกล้องสามเลนส์เหมือนรุ่น PRO โหมดกลางคืนเปิดรับแสงนาน เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับภาพถ่ายที่มืดโดยอัตโนมัติ

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: APPLE

    GALAXY A32 5G

    GALAXY A32 5G

    แบรนด์ / รุ่น: 

    GALAXY A32 5G

    ขนาด: 

    164.2 × 76.1 × 9.1 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 11

    แรม: 

    8GB

    แบตเตอรี่:

    5,000 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    9,999 บาท

    จุดเด่น: 

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
    • ถ่ายภาพและวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด
    • ความสว่างของหน้าจอกำลังดี

    ข้อเสีย: 

    • ไม่กันน้ำ
    • ด้านหลังเป็นพลาสติกต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
    • เล่นเกมหนัก ๆ มักเด้งออก

    หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ มีการออกแบบที่น่าสนใจและเป็น SMART PHONE ราคาถูก เราขอแนะนำ GALAXY A32 5G ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมือถือน่าใช้ 2022 ราคาไม่เกิน 10000 และเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ 5G ที่ถูกที่สุด GALAXY A32 5G ได้รับการออกแบบที่ทันสมัย ด้านหลังเป็นพลาสติกที่แข็งแรงพอที่จะรับมือกับการกระแทกเล็กน้อย แต่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ มีจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้วที่เพียงพอต่อการเล่นเกมหรือดูวิดีโอ กล้อง GALAXY A32 5G ประกอบด้วยกล้องมาตรฐาน 48 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์มุมกว้างพิเศษ 8 ล้านพิกเซล รวมถึงเซ็นเซอร์ความลึกและกล้องมาโครสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    XIAOMI REDMI 9T

    XIAOMI REDMI 9T

    แบรนด์ / รุ่น: 

    XIAOMI REDMI 9T

    ขนาด: 

    161.9 × 77.3 × 9.05 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 10

    แรม: 

    4GB

    แบตเตอรี่:

    6000 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    4,499 บาท

    จุดเด่น: 

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานหลายวัน
    • จอแสดงผลคมชัด
    • ราคาถูก

    ข้อเสีย: 

    • กันน้ำได้ชั่วคราวเท่านั้น

    หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ราคาถูกและดี เราขอแนะนำ XIAOMI REDMI 9T เป็นโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ราคาไม่เกิน 5000 ที่มีสเปคเครื่องแบบจัดเต็มด้วยขนาดหน้าจอ ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ กล้องหลัง 4 ตัวประกอบไปด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 MP (F/1.8) + เลนส์ ULTRAWIDE ความละเอียด 8 MP + เลนส์ MACRO ความละเอียด 2 MP + เลนส์ DEPTH ความละเอียด 2 MP มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานหลายวันด้วยความจุถึง 6000 MAH แถมยังรองรับการชาร์จเร็ว 18W อีกด้วย 

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: SHOPEE, LAZADA

    REALME C3

    REALME C3

    แบรนด์ / รุ่น: 

    REALME C3

    ขนาด: 

    164.4 × 75 × 9 มม.

    ระบบปฏิบัติการ:

    ANDROID 10

    แรม: 

    2 GB

    แบตเตอรี่:

    5,000 MAH

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น: 

    3,999 บาท

    จุดเด่น: 

    • คุณภาพกล้องที่ยอดเยี่ยม
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
    • หน้าจอขนาดใหญ่พอดี

    ข้อเสีย: 

    • แรมค่อนข้างน้อย
    • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลค่อนข้างน้อย

    สุดท้ายโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่ราคาไม่แพงและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน REALME C3 หนึ่งในโทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ราคาไม่เกิน 3000 (ราคาปัจจุบัน) ที่โดดเด่นทั้งคุณสมบัติของแบตเตอรี่และกล้องถ่ายภาพด้วยขนาดหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว โดยกล้องหลังจะประกอบด้วยเลนส์ทั้งหมด 3 เลนส์ความละเอียด 12MP + 2MP + 2MP พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8MP ทำให้ภาพถ่ายคมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังมีความจุถึง 5,000 MAH ซึ่งถือว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ราคาเดียวกัน ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน

    เช็คราคามือถือและส่วนลดได้ที่: REALME

    บทสรุป

    เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? สำหรับ 15 โทรศัพท์มือถือน่าใช้ 2022 ที่เราได้รวบรวมมาแนะนำทุกคนในวันนี้ ซึ่งโทรศัพท์ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นเราจะพบว่าโทรศัพท์ที่น่าใช้ที่สุดนอกจากจะมีความทนทานแล้ว ยังต้องมีฟีเจอร์ที่ตรงตามความต้องการของคุณ มีกล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพ และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน รวมถึงการมีหน้าจอที่ยอดเยี่ยม สามารถเล่น SOCIAL NETWORK และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในบทความนี้เราจะเน้นกล่าวถึงโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดและน่าซื้อมาใช้งานที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีที่สุดสำหรับทุกคน บางคนอาจกำลังสงสัยว่าจะเลือกซื้อโทรศัพท์อะไรดี? ซึ่งเราขอแนะนำให้เลือกซื้อโทรศัพท์ที่ดีที่สุดโดยการคำนึงถึงประสิทธิภาพของคุณสมบัติต่าง ๆ การออกแบบที่ทันสมัยใช้งานง่าย รวมไปจนถึงความคุ้มค่าต่อการใช้งานที่สำคัญคุณภาพที่เสนอให้ต้องสัมพันธ์กับราคา

    เว็บบอล

    Categories
    News

    แนะนำ 15 SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 ใช้ดีจนต้องบอกต่อ

    SMART WATCH

    ปัจจุบันมีบริษัทเทคโนโลยีมากมาย เช่น APPLE, SAMSUNG, SONY และผู้ผลิตรายใหญ่อื่น ๆ เริ่มเปิดตัวนาฬิกา SMART WATCH ของตัวเองมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการบอกเวลา SMART WATCH แต่ละยี่ห้อก็มีความสามารถบางประการที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับใครที่สงสัยว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า SMART WATCH ที่ซื้อมาคุ้มค่าต่อการใช้งานหรือไม่? เชิญทางนี้ค่ะ เพราะวันนี้เราก็มีวิธีตรวจสอบ SMART WATCH ที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน พร้อมทั้งรวบรวมสุดยอด 15 SMART WATCH รุ่นที่ดีที่สุดในปี 2021 มาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ 

    คุณรู้หรือไม่? นาฬิกาดิจิตอลมีมานานทศวรรษแล้ว บางรุ่นนอกเหนือจากบอกเวลาแล้วยังมีสามารถอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เครื่องคิดเลขและตัวแปลงหน่วย ซึ่งในปี 2010 เราจะเห็นวิวัฒนาการของนาฬิกาดิจิทัลชัดเจนที่สุด เนื่องจากมีบริษัทเทคโนโลยีมากมายเริ่มเปิดตัวนาฬิกา SMART WATCH ที่มีความสามารถเหมือนสมาร์ทโฟน ซึ่งแน่นอนว่าต้องยกเครดิตให้กับบริษัท PEBBLE TECHNOLOGY CORPORATION ที่เป็นผู้ริเริ่มเผยแพร่ SMART WATCH ยุคใหม่และมียอดขายมากกว่าหนึ่งล้านเครื่อง

    SMART WATCH เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับนาฬิกาข้อมือ ซึ่งนอกเหนือจากบอกเวลาแล้ว SMART WATCH หลายรุ่นยังเป็นอะแดปเตอร์บลูทูธไร้สายที่สามารถขยายขีดความสามารถจากสมาร์ทโฟนของผู้สวมใส่ไปยังนาฬิกาได้ เช่น การอ่านอีเมลและข้อความ การได้รับรายงานสภาพอากาศ การฟังเพลง เป็นต้น นอกจากนี้ SMART WATCH ยังเป็นอุปกรณ์แบบสแตนด์อโลนที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์มากมาย เช่น แอปรวบรวมและติดตามข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจของผู้สวมใส่ หรือแอปบอกเส้นทางการเดินทางหรือขับรถให้ผู้สวมใส่ เป็นต้น 

    SMART WATCH

    เราจะรู้ได้อย่างไรว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 ที่คุ้มค่าต่อการใช้งานที่สุด

    หลายคนคงกำลังสงสัยกันใช่ไหมคะว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 ที่คุ้มค่าต่อการใช้งานของเราที่สุด? โดยทั่วไปสมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ความสามารถด้านสุขภาพของผู้สวมใส่ ซึ่งบางคนมักเรียก SMART WATCH ว่า “นาฬิกาวัดความดัน” เพราะมีระบบเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติและการออกแบบของ SMART WATCH แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป ซึ่งการเลือกซื้อ SMART WATCH คุณควรพิจารณาปัจจัยบางประการ เพื่อความคุ้มค่าและความเหมาะต่อการใช้งานของคุณ โดยมีวิธีตรวจสอบ ดังนี้

    SMART WATCH
    1. ความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟน
      เราจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? แนะนำให้เลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนของคุณ เนื่องจาก SMART WATCH ส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานคู่กับระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนของคุณไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ ANDROID หรือ IOS ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก 
    2. คุณสมบัติด้านสุขภาพ หากคุณเป็นสายชอบออกกำลังกายการ แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 แนะนำให้เลือก SMART WATCH รุ่นที่มีระบบเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและ GPS (เพื่อติดตามการวิ่ง หรือเดินของคุณ) นอกจากนี้คุณสมบัติอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบ ECG และ SPO2 ก็อาจจะมีความสำคัญต่อคุณเช่นกัน เนื่องจาก ECGS สามารถตรวจจับสัญญาณของภาวะหัวใจห้องบนได้ และ SPO2 สามารถอ่านระดับออกซิเจนในเลือดของคุณได้เช่นกัน
    3. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? ซึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยในการเลือกซื้อ SMART WATCH นั่นก็คือ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดย SMART WATCH ส่วนใหญ่จะใช้หน้าจอที่มีสีสันสดใสทำให้ใช้เวลาระหว่างการชาร์จนาน ซึ่งสมาร์ทวอทช์แบบไฮบริดที่ดูเหมือนนาฬิกาอะนาล็อกมักจะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุด แต่ไม่มีหน้าจอสัมผัส ส่วน SMART WATCH ที่มีเสียงและหน้าจอสัมผัสได้อย่าง APPLE WATCH จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
    4. สายนาฬิกาแบบถอดเปลี่ยนได้
      หากคุณเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนนาฬิกาบ่อย ๆ แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 เราแนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่สามารถถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ โดยตรวจสอบว่าตัวล็อกหรือหัวเข็มขัดของสายนาฬิกาใช้งานง่ายและเปลี่ยนได้ง่ายได้หรือไม่? ในปัจจุบัน SMART WATCH ส่วนใหญ่มีตัวเลือกการปรับแต่งสายตัวเลือกการปรับแต่ง เช่น XIAOMI SMART WATCH ก็มีสายนาฬิกาให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีและวัสดุของสาย 
    5. ความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชันหากคุณไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 แนะนำให้ลองเลือกรุ่นที่มีความพร้อมสำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ซึ่งตลาด SMART WATCH กำลังเติบโต และตอนนี้บางรุ่นก็รองรับแอปได้นับร้อยหรือหลายพันแอป ดังนั้นก่อนเลือกซื้อคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า SMART WATCH ของคุณนั้นรองรับการใช้งานของแอปที่คุณต้องการใช้งานหรือไม่?
    SMART WATCH

    15 SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021 ที่น่าซื้อไว้ใช้งาน

    SMART WATCH เป็นนาฬิกาข้อมือยุคใหม่ที่มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากมันสามารถรับการแจ้งเตือนของสมาร์ทโฟนของคุณและยังสามารถติดตามสุขภาพของคุณได้โดยตรงจากข้อมือของคุณ ซึ่งในปัจจุบันมียี่ห้อ SMART WATCH หลากหลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีสมาร์ทวอทช์ให้เลือกซื้อมากกว่าหนึ่งรุ่น แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? หรือ SMART WATCH ยี่ห้อไหนดี? โชคดีที่วันนี้เราได้รวบรวม SMART WATCH ในปี 2021 สำหรับ ANDROID และ IPHONE ที่น่าซื้อมาใช้งานมาแนะนำทุกคน โดยมีทั้งหมด 15 รุ่นจากหลายแบรนด์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ดังนี้

    SAMSUNG GALAXY WATCH 4 CLASSIC

    SAMSUNG GALAXY WATCH 4 CLASSIC 

    ยี่ห้อ:

    SAMSUNG

    น้ำหนัก:

    46.5 G. และ 52 G.

    สี:

    BLACK และ SILVER

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    อายุการใช้งานได้นานสุด 40 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    11,900 บาท

    ข้อดี:

    • เปิดประสบการณ์ WEAR OS ที่ดีที่สุด
    • หน้าจอแบบสัมผัส 
    • มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม

    ข้อเสีย:

    • ฟังก์ชันเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้ SAMSUNG GALAXY เท่านั้น 
    • ฟังก์ชันบางตัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    ใครที่จะซื้อนาฬิกา SMART WATCH มาใช้งานแต่ก็ไม่รู้ว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? กลุ่มผลิตภัณฑ์ GALAXY WATCH ของ SAMSUNG ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างรุ่น GALAXY WATCH 4 CLASSIC ในปี 2021 ก็แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุปกรณ์ SMART WATCH พร้อมการออกแบบในสไตล์นาฬิกาข้อมือแบบคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ที่เหมาะกับผู้สวมใส่ทั้งผู้ชายและผู้หญิง GALAXY WATCH 4 CLASSIC ทำงานบน WEAR OS ที่สามารถเข้าถึงหน้าปัดนาฬิกาและแอปต่าง ๆ ได้มากมาย 

    นอกจากนี้ GALAXY WATCH 4 CLASSIC ยังให้สิทธิ์ผู้ใช้ SAMSUNG GALAXY เข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพใหม่ ๆ ได้ เช่น การวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย ตลอดจนฟีเจอร์ ECG และการตรวจจับ AFIB (จังหวะการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอ) ช่วยเปิดประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียมให้แก่คุณ

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    SAMSUNG GALAXY WATCH 4

    SAMSUNG GALAXY WATCH 4

    ยี่ห้อ:

    SAMSUNG

    น้ำหนัก:

    25.9 G. และ 30.3 G.

    สี:

    BLACK/PINK GOLD (25.9 G.) และ BLACK/GREEN (30.3 G.)

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    361MAH (30.3 G.) และ 247MAH (25.9 G.) อายุใช้งานประมาณ 40 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    7,990 บาท

    ข้อดี:

    • เปิดประสบการณ์ WEAR OS ที่ดีที่สุด
    • มีการออกแบบที่ปรับแต่งได้ 
    • มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม

    ข้อเสีย:

    ฟังก์ชันเต็มรูปแบบสำหรับผู้ใช้ SAMSUNG GALAXY เท่านั้น

    หากคุณกำลังสงสัยว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ GALAXY WATCH ของ SAMSUNG ยังคงเป็นที่จับตามองอย่าง WATCH 4 ก็เป็นอีกหนึ่ง SMART WATCH ที่มีคุณสมบัติระดับพรีเมียม มาพร้อมกับ GOOGLE PLAY STORE, ฟังก์ชัน ECG (สำหรับผู้ใช้ SAMSUNG GALAXY เท่านั้น) และรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันอีกมากมาย นอกจากนี้ยังการออกแบบที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมกรอบดิจิตอลที่ใช้การตอบสนองแบบสัมผัสอีกด้วย แถมราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ WATCH 4 CLASSIC

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: SAMSUNG

    APPLE WATCH SERIES 7

    APPLE WATCH SERIES 7

    ยี่ห้อ:

    ยี่ห้อ: APPLE

    น้ำหนัก:

    • อะลูมิเนียม: 32.0 กรัม
    • สแตนเลสสตีล: 42.3 กรัม
    • ไทเทเนียม: 37.0 กรัม

    สี:

    มีทั้งหมด 10 สี จาก 3 วัสดุ

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่องสูงสุด 18 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    13,900 บาท

    ข้อดี:

    • ชาร์จเร็ว 80% ใน 45 นาที
    • กรอบมินิมอล
    • กันน้ำ – ทนฝุ่น
    • วัดออกซิเจนในเลือด และการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า

    ข้อเสีย:

    • ต้องชาร์จแบตเตอรี่ทุกวัน 
    • การชาร์จเร็วต้องใช้คู่กับสายชาร์จใหม่เท่านั้น

    สำหรับใครที่อยากไปนาฬิกา SMART WATCH สักเรือน แต่ไม่รู้ว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ APPLE WATCH SERIES 7 ของ APPLE ที่ได้รับการอัพเกรดที่ดีขึ้นจาก SERIES 6 ซึ่งมาพร้อมกับสีสันที่หลากหลายให้เลือกทั้งหมด 10 สี จาก 3 วัสดุ ได้แก่ วัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 5 สี (มิดไนท์, สตาร์ไลท์, เขียว, น้ำเงิน และแดง) วัสดุแตนเลสสตีล 3 สี (สีกราไฟต์, สีเงิน และสีทอง) และวัสดุไทเทเนียม 2 สี (สีไทเทเนียม และสีดำสเปซแบล็ค) 

    นอกเหนือจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติให้ดีขึ้น นั่นคือ มีเครื่องวัดระยะสูงตลอดเวลาและการตรวจสอบออกซิเจนในเลือด อีกทั้งยังมีการชาร์จเร็วกว่าเดิมมากกว่า 33% และมีจอแสดงผลใหม่ที่ใหญ่ขึ้น 20% ในขณะที่กรอบบางลงประมาณ 40% ทำให้ SMART WATCH ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: APPLE

    HUAWEI WATCH GT 2 PRO

    HUAWEI WATCH GT 2 PRO

    ยี่ห้อ:

    HUAWEI

    น้ำหนัก:

    21 G.

    สี:

    NEBULA GRAY

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    455MAH ใช้งานได้นานสุด 14 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    9,990 บาท

    ข้อดี:

    • มีการติดตามกิจกรรมที่หลากหลาย
    • ใช้วัสดุพรีเมียม
    • จอแสดงผลได้ดี

    ข้อเสีย:

    รองรับแอปพลิเคชันได้น้อย

    หากคุณกำลังมองหา SMART WATCH ที่ทนทานแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ HUAWEI WATCH GT 2 PRO นาฬิกา SMART WATCH ที่มีการออกแบบที่หรูหราด้วยวัสดุสุดพรีเมียมอย่างไทเทเนียม เซรามิก และกระจกแซฟไฟร์ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 14 วันต่อหนึ่งชาร์จ 

    ยิ่งไปกว่านั้น HUAWEI WATCH GT 2 PRO ยังได้นำคุณสมบัติที่ดีที่สุดมาใส่ไว้ในนาฬิกาเรือนนี้อย่างการติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณ เช่น การติดตามการออกกำลังกายที่ดีที่สุดที่รองรับประเภทการออกกำลังกายมากกว่า 100 ประเภทและให้การติดตามระดับมืออาชีพใน 17 หมวดหมู่ ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่อัตราการเต้นของหัวใจไปจนถึงอัตราการก้าวเดินของคุณนอกจากนี้ WATCH GT 2 PRO ยังมีความสามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือด SPO2 ตรวจสอบความเครียด และติดตามการนอนหลับของคุณ พร้อมกับการแจ้งเตือนด้วยเสียง เพื่อแนะนำคุณตลอดการออกกำลังกายโดยไม่ต้องดูที่หน้าจอ

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    SUUNTO 7

    SUUNTO 7 

    ยี่ห้อ:

    SUUNTO

    น้ำหนัก:

    70 G.

    สี:

    PINK, BLACK, SILVER และ BROWN

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    450 MAH ใช้งานได้สูงสุด 2 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    16,900 บาท

    ข้อดี:

    • การออกแบบที่ทนทาน
    • การติดตามกิจกรรมที่ครอบคลุม
    • ใช้งานง่าย เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน

    ข้อเสีย:

    • ราคาแพง
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ
    • ยังไม่รองรับฟังก์ชันติดตามการนอน (SLEEP TRACKING)

    หากคุณกำลังมองหา SMART WATCH ที่ติดตาม GPS ได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ SUUNTO 7 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เหมาะสมกับทุกสภาพอากาศ มีความแม่นยำของ GPS ที่เหมาะสำหรับการติดตามเส้นทาง มาพร้อมกับแอปฟิตเนสของ SUUNTO เองที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าแอป GOOGLE FIT พื้นฐานที่มาพร้อมกับ WEAR OS แต่ SUUNTO 7 มีแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้สูงสุดเพียง 2 วัน จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานคุณสมบัติสมาร์ทวอทช์ทั่วไป และคนที่ชอบการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำในช่วงที่ไม่ยาวนาน

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    FOSSIL GEN 5

    FOSSIL GEN 5 

    ยี่ห้อ:

    FOSSIL

    น้ำหนัก:

    79 G.

    สี:

    PINK, BLACK, GOLD และ ROSE GOLD

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    310 MAH ใช้งานสูงสุด 3 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    12,440 บาท

    ข้อดี:

    • การออกแบบที่หรูหรา
    • รองรับการชาร์จเร็ว
    • การรองรับเครือข่ายแบบ LTE ในรูปแบบของการใช้งาน ESIM หรือ EMBEDDED SIM
    • ใช้งานง่าย

    ข้อเสีย:

    • ไม่รองรับ WEAR OS 3
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย
    • ไม่สามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SPO2) ได้

    หากคุณกำลังมองหา SMART WATCH ที่มีคุณสมบัติรอบด้าน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ FOSSIL GEN 5 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีความสามารถรอบด้านที่ดีเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ SNAPDRAGON WEAR 3100 ที่มาพร้อมกับการจัดการพลังงานของ WEAR OS ทำให้นาฬิกาเรือนนี้สามารถควบคุมคุณสมบัติต่าง ๆ ได้ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 310MA นอกจากนี้ GEN 5 ยังมอบประสบการณ์ความแรงที่ราบรื่นให้แก่ผู้ใช้ 

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: CENTRAL

    FITBIT SENSE

    FITBIT SENSE

    ยี่ห้อ:

    FITBIT

    น้ำหนัก:

    45.9 – 48.2G

    สี:

    LUNAR WHITE และ SOFT GOLD

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    ใช้งานได้สูงสุด 6 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    11,990 บาท

    ข้อดี:

    • มีฟีเจอร์เพื่อสุขภาพมากมาย
    • ดีไซน์แข็งแรงและทนทาน
    • กันน้ำลึก 50 เมตร
    • การติดตามสุขภาพได้อย่างแม่นยำ

    ข้อเสีย:

    • ราคาค่อนข้างแพง

    เข้าใจคนรักสุขภาพแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ FITBIT SENSE สมาร์ทวอทช์ที่ได้รับการเพิ่มคุณสมบัติด้านสุขภาพใหม่ ๆ มากมาย ทำให้หลายคนเรียกมันว่าสมาร์ทวอทช์ของ HYPOCHONDRIAC เนื่องจากมันเป็น SMART WATCH ที่เต็มไปด้วยสัญญาณเตือนช่วยบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงของคุณได้ มาพร้อมกับฟีเจอร์ตรวจจับการนอนหลับและเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ออกกำลังกายเยอะมาก ครอบคลุมแทบจะทุกอย่าง ตั้งแต่เดิน วิ่ง คาร์ดิโอ ไปจนถึงการว่ายน้ำ เหมาะกับสายสุขภาพมาก ๆ เลยค่ะ

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    OPPO WATCH

    OPPO WATCH

    ยี่ห้อ:

    OPPO

    น้ำหนัก:

    29.7 G. – 40 G.

    สี:

    • ELEGANT BLACK, ROSE GOLD และ FOG SILVER COLORS (41มม.)
    • BLACK และ ROSE GOLD (46มม.)

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    • 430MAH (46มม.) ใช้งานได้สูงสุด 21 วัน
    • 300MAH (41มม.) ใช้งานได้สูงสุด 14 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    5,999 บาท

    ข้อดี:

    • ประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม
    • ความทนทานที่มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำ ATM
    • การออกแบบที่น่าดึงดูด
    • หน้าจอสีสันสดใส

    ข้อเสีย:

    • การออกแบบเหมือน APPLE WATCH

    เอาใจคนที่อยากได้ SMART WATCH ที่ถูกและดี แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ OPPO WATCH เป็นนาฬิกา SMART WATCH เรือนแรกของ OPPO ที่มีทั้งหมด 2 รุ่นตามขนาด คือ 41 มม. และ 46 มม. ซึ่งรุ่น 46 มม. จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและดีไซน์สวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก APPLE WATCH และฟังก์ชันเซลลูลาร์ที่เป็นอุปกรณ์เสริมของทั้งคู่ยังมีชุดคุณสมบัติที่หลากหลาย มาพร้อมกับ GOOGLE WEAROS ที่ครอบคลุมการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบทำให้ OPPO WATCH เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทวอทช์ของฝั่ง ANDROID ที่มีความหลากหลายในการ ใช้งานเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    APPLE WATCH SE

    APPLE WATCH SE

    ยี่ห้อ:

    APPLE

    น้ำหนัก:

    30.49 G. (40 มม.), 36.20 G. (44 มม.)

    สี:

    เงิน, เทาสเปซเกรย์, ทอง

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    ใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    9,900 บาท

    ข้อดี:

    • การออกแบบดีไซน์ระดับพรีเมียม
    • ราคาคุ้มที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ APPLE WATCH
    • กันน้ำได้ถึง 50 M.

    ข้อเสีย:

    • ไม่มีหน้าจอแสดงตลอดเวลา
    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่ำ

    หากคุณเป็นสาวก APPLE ที่อยากได้ APPLE WATCH ที่ราคาถูกและดี แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ APPLE WATCH SE เป็นหนึ่งให้ SMART WATCH ที่ถูกและดีที่สุด สามารถทำได้ทุกอย่างเท่าที่สมาร์ทวอทช์จะทำได้ เพียงแต่มันเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งาน IPHONE ซึ่ง APPLE WATCH SE มาพร้อมกับสเปกระดับสูง มีการออกแบบระดับไฮเอนด์ และคุณสมบัติมากมายที่เทียบเท่ากับสมาร์ทวอทช์อื่น ๆ ที่มีราคาที่สูงกว่า แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังไม่ได้ถือว่าดีที่สุด เมื่อเทียบกับ APPLE WATCH 6

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: APPLE

    SAMSUNG GALAXY WATCH ACTIVE 2

    SAMSUNG GALAXY WATCH ACTIVE 2

    ยี่ห้อ:

    SAMSUNG

    น้ำหนัก:

    42 G.

    สี:

    BLACK, SILVER และ GOLD

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    340 MAH (44 มม.) และ 247 MAH (40 มม.)

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    11,900 บาท

    ข้อดี:

    • การออกแบบระดับไฮเอนด์
    • ขอบหน้าปัดดิจิตอลแบบหมุนได้
    • รองรับชาร์จไว และรองรับชาร์จไร้สาย
    • กันน้ำกันฝุ่น

    ข้อเสีย:

    • คุณสมบัติบางประการไม่เปิดใช้งานในบางครั้ง
    • ยังคงใช้งานได้อย่างจำกัดกับ IOS

    สำหรับใครที่ต้องการนาฬิกา SMART WATCH ที่เน้นการออกกำลังกาย แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ SAMSUNG GALAXY WATCH ACTIVE 2 สมาร์ตวอทช์แนวสปอร์ตที่บางเบา และสะดวกสบาย มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงขอบหน้าปัดดิจิตอลแบบหมุนได้และรุ่น LTE 

    GALAXY WATCH ACTIVE 2 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาอัจฉริยะที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมด้วยหน้าจอขนาด 1.2 นิ้วที่สว่างและสีสันสวยงาม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติด้านฟิตเนสระดับสูงจากกลุ่มนาฬิกา TIZEN ของ SAMSUNG ด้วยโหมดการออกกำลังกาย 39 โหมด สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจและเซ็นเซอร์ ECG รองรับแอปสุขภาพพร้อมการตรวจสอบความเครียดและการนอนหลับ รวมไปจนถึงตรวจสอบความดันโลหิตของคุณแต่คุณสมบัตินี้จะไม่เปิดใช้งานในบางครั้ง

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    XIAOMI MI BAND 4

    XIAOMI MI BAND 4

    ยี่ห้อ:

    XIAOMI

    น้ำหนัก:

    22.1 G.

    สี:

    ดำ

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID 4.4 ขึ้นไป และ IOS 9.0 ขึ้นไป

    แบตเตอรี่:

    135MAH ใช้งานได้ประมาณ 20 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    1,290 บาท

    ข้อดี:

    • หน้าจอสีสันสวยงาม
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่ราคาเท่ากัน
    • กันน้ำ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้
    • มีฟังก์ชันการควบคุมเพลง

    ข้อเสีย:

    • หน้าจอไม่สัมผัส

    เอาใจเหล่าสาวก XIAOMI ที่อยากซื้อ SMART WATCH สักเรือน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? อย่างที่เราทราบกันดีว่า XIAOMI ได้มีการผลิต นาฬิกา SMART WATCH ของตัวเองออกมาหลายรุ่น ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า SMART WATCH XIAOMI รุ่นไหนดี? เราขอแนะนำรุ่น MI BAND 4 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะจาก XIAOMI ที่เหมาะกับคนที่ต้องการทั้งสมาร์ทวอทช์และอุปกรณ์วัดการออกกำลังกาย หรือการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ MI BAND 4 ยังถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก สวมใส่ง่ายสามารถใส่ได้ทุกที่ ทุกเวลา เพราะใช้วัสดุที่เป็นยาง และพลาสติกเป็นหลัก

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: XIAOMISHOPTH

    HONOR MAGIC WATCH 2

    HONOR MAGIC WATCH 2

    ยี่ห้อ:

    HONOR

    น้ำหนัก:

    41 G.

    สี:

    BLACK, GOLD และ BROWN

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    455MAH ใช้งานได้ประมาณ 14 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    3,882 บาท – 8,840 บาท

    ข้อดี:

    • มีชุดคุณสมบัติด้านฟิตเนสที่หลากหลาย
    • วัสดุเกรดพรีเมียม ทนทาน

    ข้อเสีย:

    • ดูดฝุ่นจำเป็นต้องทำความสะอาดเรื่อย ๆ 
    • คุณสมบัติด้านฟิตเนสบางอย่างไม่มีให้บริการบน IOS

    หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบออกกำลังกาย แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ HONOR MAGIC WATCH 2 ที่อาจเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช่สำหรับคุณด้วยชุดคุณสมบัติด้านฟิตเนสมากมาย เนื่องจาก MAGIC WATCH 2 สามารถติดตามการเล่นกีฬาของคุณได้หลากหลายประเภทด้วยข้อมูลที่ละเอียด และสามารถให้คำแนะนำการออกกำลังกายและข้อเสนอแนะสำหรับกิจกรรมบางอย่างได้อย่างละเอียด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิตหุ่นมาก ๆ เลยค่ะ

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    TICWATCH PRO 3

    TICWATCH PRO 3

    ยี่ห้อ:

    TICWATCH

    น้ำหนัก:

    41.9 G.

    สี:

    ดำ

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    ใช้งานต่อเนื่อง 72 ชั่วโมง

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    11,999 บาท

    ข้อดี:

    • ชิปเซ็ตที่เร็วแรง

    ข้อเสีย:

    • อินเทอร์เฟซเข้าใจยาก
    • ติดตามการนอนหลับได้ไม่ดี

    หากคุณสงสัยว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? TICWATCH PRO 3 เป็นอีกหนึ่งนาฬิกา SMART WATCH ระบบปฏิบัติการ WEAR OS ที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน IPHONE หรือ ANDROID ของคุณ ซึ่ง TICWATCH PRO 3 ใช้ชิปเซ็ต QUALCOMM SNAPDRAGON WEAR 4100 ล่าสุดพร้อม RAM 1GB ทำให้สมาร์ตวอทช์รุ่นนี้โหลดแอปได้อย่างรวดเร็ว 

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    FITBIT VERSA 3

    FITBIT VERSA 3

    ยี่ห้อ:

    FITBIT

    น้ำหนัก:

    0.043 G.

    สี:

    MIDNIGHT, PINK CLAY และ BLACK

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    อายุการใช้งานสูงสุด 6 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    9,190 บาท

    ข้อดี:

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
    • ชาร์จไว 12 นาที อยู่ได้ 1 วัน
    • ฟีเจอร์ฟิตเนสยอดเยี่ยม

    ข้อเสีย:

    • สามารถตอบกลับข้อความบน ANDROID เท่านั้น

    หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ FITBIT VERSA 3 สมาร์ตวอทช์ที่เน้นการออกกำลังกายที่ดูเหมือนจะดีทุกอย่าง ตั้งแต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ไปจนถึงคุณสมบัติด้านสุขภาพ ฟิตเนส และการแจ้งเตือน โดย FITBIT มีแอปพลิเคชันที่รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์กว่า 100 แอป และมีระบบติดตามการออกกำลังกาย ติดตามการนอน ติดตามอัตราการเต้นหัวใจ และระบบวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SPO2) 

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: LAZADA, SHOPEE

    GARMIN VIVOACTIVE 4

    GARMIN VIVOACTIVE 4

    ยี่ห้อ:

    GARMIN

    น้ำหนัก:

    50.5 G.

    สี:

    BLACK, SILVER และ GRAY

    รองรับการทำงาน:

    ANDROID, IOS

    แบตเตอรี่:

    อายุการใช้งานสูงสุด 8 วัน

    ราคาเปิดตัวเริ่มต้น:

    13,500 บาท

    ข้อดี:

    • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
    • มีแอนิเมชั่นการออกกำลังกายบนหน้าจอ
    • มีเซ็นเซอร์ SPO2

    ข้อเสีย:

    • ต้องใช้แอปพลิเคชันมือถือหลายตัว

    ใครที่อยากได้ SMART WATCH ไว้สวมใส่ระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? เราขอแนะนำ GARMIN VIVOACTIVE 4 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่เหมาะกับผู้ใช้สมาร์ทโฟน ANDROID ที่สุด ซึ่ง VIVOACTIVE 4 มีที่เก็บข้อมูลในตัวสำหรับการเล่นเพลงในขณะที่คุณออกกำลังกายที่สำคัญยังมาพร้อมกับคลังแอปออกกำลังกายขนาดใหญ่ การติดตามการนอนหลับและการมีประจำเดือนแบบบูรณาการ ช่วยให้คุณจัดการกับสุขภาพของคุณในด้านอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย 

    นอกจากนี้ GARMIN ยังรวม GARMIN PAY (การชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส เช่น APPLE PAY หรือ ANDROID PAY) และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดด้วยการใช้งานสูงสุดถึง 8 วันไว้ใน VIVOACTIVE 4 พร้อมเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อกิจวัตรประจำวันของคุณ เช่น การตรวจสอบพลังงาน เซ็นเซอร์ชีพจร OX การติดตามความเครียด การติดตามสุขภาพของผู้หญิง เป็นต้น

    เช็คราคาและส่วนลดได้ที่: SHOPEE

    บทสรุป

    เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 15 SMART WATCH รุ่นไหนดี 2021? ซึ่งสมาร์ทวอทช์ที่เราได้รวบรวมมาแนะนำทุกคนข้างต้นล้วนเป็นสุดยอดนาฬิกา SMART WATCH จากแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน บางรุ่นราคาถูก น่าใช้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งอุปกรณ์ SMART WATCHES มีการเติบโตที่สูงมากในช่วงปลายปี 2010 และได้รับการยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น ทำให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่าง ๆ หันมาผลิตนาฬิกา SMART WATCH มากขึ้น และส่งผลให้มันมีหลากหลายรุ่นจากหลาย ๆ แบรนด์

    ซึ่งการที่คุณได้รับรู้ว่า SMART WATCH รุ่นไหนดี? หรือรู้จักวิธีการเลือกซื้อ SMART WATCH ที่คุ้มค่าต่อการใช้งานก็อาจจะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ SMART WATCH ที่มีประโยชน์ต่อการใช้งานของคุณ อย่างไรก็ตามแม้ว่าสมาร์ทวอทช์จะมีคุณสมบัติครบถ้วนที่สามารถทำอะไรได้มากมาย แต่มันจะทำงานได้ดีมากขึ้นเมื่อได้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่เหมาะสม

    หากคุณเป็นผู้ใช้สมาร์ทโฟน ANDROID สมาร์ทวอทช์ระบบปฏิบัติการ WEAR OS จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็อาจจะไม่จำเป็นบางคน เนื่องจากระบบปฏิบัติการของ GOOGLE ที่ถูกปรับแต่งสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ยังคงใช้ได้ดีกับระบบปฏิบัติการ IOS แต่ด้วยฟังก์ชันที่ลดขนาดลง ผู้ใช้ IPHONE จะได้รับประโยชน์มากขึ้นหากใช้สมาร์ทวอทช์ของ APPLE WATCH

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    สล็อต เว็บตรง ฝากถอน ไม่มี ขั้นต่ำ

    Categories
    News สอนใช้ แนะนำแอปฯ

    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถดูและกู้คืนโพสต์ที่ถูกลบในแอปได้ 

    Instagram

    ล่าสุด Instagram ได้เปิดตัวฟีเจอร์ “ลบล่าสุด”ที่จำเป็นต่อผู้ใช้อย่างมาก เนื่องจากฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถกลับไปดูหรือกู้คืนโพสต์ที่ถูกลบล่าสุดในแอปพลิเคชันได้ ซึ่งคุณลักษณะนี้รองรับการใช้งานในโทรศัพท์ทั้งระบบ Android และ iOS ดังนั้นทุกคนจึงมีโอกาสที่จะสามารถเข้าถึงคุณลักษณะนี้ได้ 

    Instagram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สำหรับการแชร์รูปภาพ/วิดีโอที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบและกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยผู้ใช้งาน 1 พันล้านรายต่อเดือน ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้แอป Instagram เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือการให้บริการตามวัตถุประสงค์ของการตลาดด้วยเนื้อหาภาพ และองค์กรต่าง ๆ ก็ใช้ประโยชน์จาก Instagram เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าสถานการณ์ทั่วไปที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เผชิญคงจะเป็นการกู้คืนรูปภาพ Instagram ที่สูญหายหรือไม่? หากคุณเผลอลบรูปภาพหรือวิดีโอ Instagram ของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือบางครั้งแฮกเกอร์อาจจะทำการลบเนื้อหาของคุณเมื่อพวกเขาเหล่านั้นสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณ และจนถึงตอนนั้นคุณจะไม่มีทางกู้คืนรูปภาพและวิดีโอกลับคืนมาได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน แล้วคุณจะกู้คืนได้อย่างไร? 

    Instagram เผยว่าฟีเจอร์ “ลบล่าสุด” จะช่วยให้คุณจัดการกับเนื้อหาบน Instagram ของคุณได้ง่าย ๆ และเราเชื่อว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ผู้ใช้หลายคนต้องการ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่คุณสามารถตรวจสอบและกู้คืนเนื้อหาที่ถูกลบในแอป Instagram ของคุณได้ นอกจากนี้ Instagram ยังเพิ่มการป้องกันเพื่อช่วยป้องกันแฮกเกอร์ไม่ให้บุกรุกบัญชีของคุณและลบโพสต์ที่คุณแชร์ ซึ่งบทความนี้ได้เราจะให้คำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับการกู้คืนรูปภาพหรือวิดีโอบน Instagram ของคุณที่สูญหายหรือถูกลบ

    Instagram

    วิธีกู้คืนรูปภาพและวิดีโอ Instagram ที่ถูกลบหรือสูญหาย 

    สำหรับผู้ใช้งาน Instagram ตอนนี้คุณสามารถลบหรือ กู้คืนรูปภาพและวิดีโอ บน Instagram ของคุณอย่างถาวรได้อย่างง่ายดายจากโฟลเดอร์ที่เพิ่งลบล่าสุดไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, วิดีโอ, วิดีโอ IGTV และเรื่องราวทั้งหมดที่คุณเลือกลบออกจากฟีดของคุณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ที่เพิ่งลบล่าสุด เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกลบได้ในภายหลัง โดยมีขั้นตอนได้กู้คืนง่าย ๆ ดังนี้

    1. ติดตั้งหรืออัปเดต Instagram เวอร์ชันล่าสุดจาก Google Play หรือ App Store 
    2. เปิดแอป Instagram แล้วไปที่หน้าโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณ
    3. แตะเมนูเส้นสามขีดที่มุมขวาบนและแตะไปที่เมนูการตั้งค่า 
    4. แตะไปที่มนูบัญชี จากนั้นเลื่อนหาเมนู “ลบล่าสุด” แล้วแตะมัน
    5. เนื้อหาที่ถูกลบล่าสุดของคุณจะแสดงบนหน้าจอโดยด้านซ้ายจะเป็นโพสต์ที่ถูกลบ และด้านขวาจะเป็นสตอรี่ที่ถูกลบ
    6. แตะที่โพสต์ที่คุณต้องการกู้คืน จากนั้นแตะที่ไอคอนสามจุดที่ด้านบนขวา แล้วแตะกู้คืน หากต้องการกู้คืนสตอรี่ให้แตะที่สตอรี่ที่คุณต้องการกู้คืน จากนั้นแตะที่ไอคอนสามจุดที่ด้านล่างขวา แล้วแตะกู้คืน นอกจากนี้คุณสามารถลบโพสต์อย่างถาวรได้ เพียงแค่แตะไปที่ลบ
    7. เพียงเท่านี้โพสต์/สตอรี่บน Instagram ที่ถูกลบของคุณก็จะถูกกู้คืน
    Instagram

    สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการกู้คืนรูปภาพ/วิดีโอ

    อย่างไรก็ตาม คุณลักษณะกู้คืนเนื้อหาลบล่าสุดของ Instagram นี้มีของจำกัดที่คุณควรทราบคือ รูปภาพ วิดีโอ ม้วนฟิล์ม วิดีโอ IGTV และเรื่องราวที่คุณเลือกลบจะถูกลบออกจากบัญชีของคุณทันที และจะถูกย้ายไปยังโฟลเดอร์ที่เพิ่งลบล่าสุด ส่วนสตอรี่ Instagram ที่ถูกลบและไม่ได้อยู่ในไฟล์เก็บถาวรของคุณแต่จะอยู่ในโฟลเดอร์นานถึง 24 ชั่วโมง หากคุณไม่ทำการกู้คืน มันจะถูกลบโดยอัตโนมัติใน 30 วันต่อมา 

    แล้วไฟล์เก็บถาวรอะไร? Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ “เก็บโพสต์ถาวร” ในปี 2560 ซึ่งมันจะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถซ่อนรูปภาพและเรื่องราวไม่ให้คนอื่นเห็นได้ และยังช่วยให้สามารถกู้คืนรูปภาพที่ ‘ลบ’ จากอัลบั้มเก็บถาวรได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ความจริงแล้วมันคือที่จัดเก็บรูปภาพของคุณชั่วคราว หากคุณลบสิ่งใดออกจากโฟลเดอร์เก็บถาวรก็จะไม่สามารถรับประกันการกู้คืนรูปภาพของคุณได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบในอัลบั้มเก็บถาวรสำหรับการกู้คืนเสียก่อน

    Suwanna Preebunpul

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

    Categories
    News

    Galaxy Watch รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung จะเปิดตัวปีนี้ในงาน Galaxy Unpacked พร้อมเผยรูปลักษณ์ใหม่ที่ร่วมออกแบบกับ Google

    Galaxy Watch

    ยังคงเป็นที่จับตามองสำหรับใครหลาย ๆ คนกับงาน Galaxy Unpacked งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ตระกูล Galaxy ของ Samsung ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2021 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Mobile World Congress 2021 โดยรอบนี้ซัมซุงเตรียมขนเอาฮาร์ดแวร์สุดพิเศษไม่ว่าจะเป็น Galaxy Z Fold 3, Galaxy Z Flip 3, Galaxy Buds 2 และ Galaxy Watch รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งนาฬิกา Galaxy รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung นี้มีระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซใหม่ที่ถูกออกแบบโดย Google ที่เรียกว่า “One UI Watch” 

    โดยตัวเอกหลัก ๆ ของงานรอบนี้คงจะหนีไม่พ้น Galaxy Z Fold 3 พี่ใหญ่ของสมาร์ทโฟนจอพับได้ เชื่อกันว่าเป็นตัวตายตัวแทนของมือถือ Galaxy Note ที่จะมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ทั้งด้านในด้านนอก และขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 888 พ่วงกับ RAM 12GB กล้องหน้า-หลังทั้งหมด 5 ตัว มีเลนส์ Ultra-Wide ซึ่งคาดว่าจะมีราคาที่น่าจะถูกกว่า Galaxy Z Fold 2 รุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย

    สำหรับคืออินเทอร์เฟซของ Galaxy Watch ที่ Samsung ร่วมออกแบบกับ Google ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด แต่มีข่าวลือว่า การออกแบบ Galaxy Watch รุ่นใหม่ล่าสุดจะมีรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายกับการออกแบบGalaxy Watch Active 2 และอาจถูกเรียกว่า Galaxy Watch 4

    การประกาศร่วมมือออกแบบ Galaxy Watch รุ่นใหม่ระหว่าง Samsung และ Google 

    เมื่อต้นปีนี้ Google และ Samsung ได้ประกาศความร่วมมือกันในการออกแบบนาฬิกา Google Wear และ Galaxy Watch รุ่นใหม่ของ Samsung ซึ่งนี้จะเป็นอุปกรณ์เครื่องแรกที่ได้รับซอฟต์แวร์ นาฬิการุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ซอฟต์แวร์ One UI Watch ใหม่ โดยอินเทอร์เฟซ One UI จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ที่จับคู่ไว้ในทันทีและจะเชื่อมต่อกับการตั้งค่าหลักของโทรศัพท์มากขึ้น เช่นเดียวกับ Apple Watch 

    ในการดูรูปลักษณ์ของ One UI Watch ครั้งแรกนั้นจะดูคล้าย ๆ กับ Google มาก แต่คุณสมบัติที่แสดงออกมานั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาไม่ว่าจะเป็นแอปนาฬิกาโลกที่ซิงค์ระหว่างโทรศัพท์กับนาฬิกา และการตั้งค่ามาตรฐานสากล เช่น Do Not Disturb ที่จะปรากฏบนนาฬิกาและโทรศัพท์พร้อมกัน

    Galaxy Watch

    ซอฟต์แวร์ One UI Watch มีความพิเศษอย่างไรบ้าง

    จากข้อมูลข้างต้น Galaxy Watch รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung อาจมีชื่อเรียกว่า Galaxy Watch 4 ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ One UI Watch โดยสามารถดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ ได้ผ่าน Google Play โดยมีแอป Wear OS ให้โหลดมากมาย ซึ่งการประกาศของ Samsung ในครั้งนี้ยืนยันว่า Adidas Running, Golfbuddy Smart Caddie, Strava, Swim.com, Calm, Sleep Cycle, Spotify, YouTube Music และ Google Maps ยังคงเป็นแอปที่ได้รับการรองรับ นอกจากนี้ซัมซุงยังยืนยันด้วยว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะรองรับ eSIM พร้อมการเชื่อมต่อ LTE เช่นเดียวกับ Galaxy Watch 3 ดังนั้นนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดเหล่านี้จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์ของคุณ

    Sameer Samat ของ Google ได้กล่าวถึง Galaxy Watch เรือนใหม่ในงานแถลงข่าวของ Samsung ว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น พร้อมประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น และแอปที่หลากหลายจาก Google มาสู่ประสบการณ์สวมใส่แบบใหม่” 

    อย่างไรก็ตามแอปบางตัวของ Samsung จาก Galaxy Watch รุ่นก่อนหน้านี้จะพร้อมให้ใช้งานผ่าน Google Play แต่สำหรับ One UI Watch ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีแอปใดบ้าง โดยซัมซุงซัมซุงยังแสดงซอฟต์แวร์การออกแบบหน้าปัดสำหรับนักพัฒนาหรือผู้ชื่นชอบหน้าปัดด้วย แต่เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาถึงความสามารถของนักออกแบบจากวิดีโอตัวอย่างของ Samsung นอกจากนี้ซัมซุงยังเปิดเผยอีกว่าเจ้าของนาฬิกาที่ใช้ Tizen เช่น Galaxy Watch 3 และ Active 2 รุ่นปัจจุบันจะยังไม่หยุดการพัฒนา โดยมีการรับประกันการอัปเดตซอฟต์แวร์และรองรับแพลตฟอร์มดังกล่าวภายใน 3 ปีหลังจากวันที่เปิดตัวครั้งแรกของผลิตภัณฑ์

    Suwanna Preebunpul

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    เว็บตรงไม่มีขั้นต่ำ

    Categories
    News สอนใช้

    ปัญหาที่ผู้ใช้โทรศัพท์ Nokia ต้องเจอหลังอัปเดต Android 11 พร้อมวิธีแก้ปัญหา

    Nokia

    ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ Android อย่างยี่ห้อ Nokia หลายคนคงจะกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์หลังอัปเดต Android 11 ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟน Nokia บางรุ่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับการอัปเกรดเป็น Android 11 เช่น Nokia 8.3 5G, Nokia 3.2 และ Nokia 1 plus เป็นต้น ซึ่งบทความนี้เราจะพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการอัปเดต/ติดตั้ง และการใช้งาน (ผู้ใช้) สมาร์ทโฟน Nokia ระบบปฏิบัติการ Android 1ห1ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักเจอ พร้อมวิธีการแก้ไขเหล่านั้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ในการติดตั้งและใช้งานระบบปฏิบัติการ Android และการอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดจากผู้ใช้งาน

    ปัญหาและวิธีแก้ปัญหาโดยทั่วไปเกี่ยวกับโทรศัพท์ Nokia ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้

    Nokia

    สำหรับปัญหาที่ผู้ใช้งานโทรศัพท์ Nokia ส่วนใหญ่มักพบหลังอัปเดต Android 11 คือ สมาร์ทโฟน Nokia ทำงานได้ไม่ดีหลังจากติดตั้งการอัปเดต, อายุการใช้งานแบตเตอรี่ลดลงอย่างมาก และประสบปัญหามากมายหลังจากติดตั้งการอัปเดต Android 11 โดยปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นกับโทรศัพท์หลายยี่ห้อเช่นกัน ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักแก้ปัญหาด้วยวิธีการ ดังนี้

    1. ลองรีเซ็ตเครื่อง : วิธีนี้เป็นการเรียกคืนการตั้งค่าจากโรงงาน แต่คุณควรทราบว่าวิธีการนี้เป็นการปรับการตั้งค่าและข้อมูลทั้งหมดที่คุณป้อนไว้ในโทรศัพท์จะถูกลบ ดังนั้นก่อนจะทำการรีเซ็ตเครื่องคุณควรทำการสำรองข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำเสียก่อน ซึ่งคุณสามารถทำการสำรองข้อมูลทั้งหมด, รีเซ็ตเครื่อง และการเรียกข้อมูลสำรองได้ด้วยขั้นตอน ดังนี้
    • วิธีการสำรองข้อมูลทั้งหมด

    ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > สำรองข้อมูล แล้วแตะสลับไปที่ “สำรองข้อมูลไปที่ Google ไดรฟ์” คุณจะต้องตั้งค่าบัญชีสำรอง โดยใช้บัญชี Google ที่คุณใช้ในการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ และตรวจสอบดูตัวเลือกการสำรองข้อมูลเพิ่มเติม

    • วิธีการรีเซ็ตเครื่อง

    ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > ตัวเลือกการรีเซ็ต แตะที่ “ลบข้อมูลทั้งหมด (รีเซ็ตเป็นค่าจากโรงงาน)” การดำเนินการนี้จะล้างข้อมูลทั้งหมดจากสมาร์ทโฟนของคุณและจะกลับสู่การตั้งค่าของโรงงาน 

    • วิธีการเรียกข้อมูลสำรอง

    หลังจากที่คุณได้ทำการสำรองข้อมูลทั้งหมดของคุณและรีเซ็ตเครื่องเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเรียกข้อมูลสำรองเหล่านั้นได้ โดยการไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > การสำรองข้อมูล > เรียกข้อมูลสำรอง คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการกู้คืนแอปใดในโทรศัพท์ของคุณพร้อมกับข้อมูล จากนั้นโทรศัพท์ของจะรีสตาร์ทหลังจากเรียกคืนไฟล์ข้อมูลสำรองแล้ว

    1. การแก้ปัญหาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ : นี่เป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานโทรศัพท์หลายยี่ห้อได้รับผลกระทบอย่างมาก อาจเกิดขึ้นเนื่องจากคุณลักษณะโหมดหน้าจอแบบแอมเบียนท์ที่เปิดใช้งาน คุณสามารถปิดโหมดนี้ได้ โดยการไปที่ Settings –> Google –> Account services –> Search, Assistant & Voice –> Google Assistant –> Assistant –>เลื่อนลงไปที่โหมด Ambient mode แล้วปิดคุณลักษณะ Ambient mode
    2. ข้อผิดพลาด “อุปกรณ์ของคุณไม่ผ่านการรับรองจาก Google” : Google จะมีเอกสารคำจำกัดความความเข้ากันได้ (CDD) เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามเพื่อผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ของ Google หากอุปกรณ์ไม่ได้รับการรับรองจาก Google อุปกรณ์ของคุณจะไม่สามารถใช้แอป Google ได้อีกต่อไป เช่น Google Play Store หรือแอป Google ที่สำคัญอื่น ๆ ได้ นั่นหมายความว่า Google จะสามารถปิดการทำงานของแอปได้ทุกเมื่อ ยกตัวอย่างเช่น แอป Google Messages จะไม่ทำงานบนอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการรับรองหลังจากเดือนมีนาคม 2021 หากคุณไม่ทราบว่าโทรศัพท์ของคุณไม่ผ่านการรับรองหรือไม่? ให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้
    • เปิด Google Play Store บนโทรศัพท์ Android ของคุณแล้วแตะไอคอนเมนูแฮมเบอร์เกอร์ 
    • แล้วในเมนูแถบด้านข้างให้เลื่อนลงไปที่ส่วน “เกี่ยวกับ” ซึ่งภายใต้การรับรอง Play Protect คุณจะเห็นว่า “อุปกรณ์ได้รับการรับรอง” หรือ“ ไม่ผ่านการรับรอง” 

    หากโทรศัพท์ของคุณไม่ผ่านการรับรอง สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ Device ID ของคุณ ซึ่งเป็นรหัสตัวอักษรและตัวเลข 16 หลัก หลังจากนั้นคุณจะต้องรับรองรหัสอุปกรณ์ของคุณด้วย Google Service Framework คุณสามารถเข้าถึง Google Play Store เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งไฟล์แอป ID อุปกรณ์ เพื่อรับ ID และหากไม่สามารถทำได้ให้คุณดาวน์โหลดไฟล์ APK และทำการไซด์โหลด 

    • หลังจากติดตั้งแล้วให้เปิดแอปและคัดลอกโค้ดถัดจาก “Google Service Framework (GSF)”
    • ไปที่หน้าเว็บของ Google บนอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการรับรอง
    • จากนั้นป้อน Device-ID ของคุณในช่อง “Google Services Framework Android ID”
    • คลิกที่ “ลงทะเบียน” และรหัสอุปกรณ์ที่คุณลงทะเบียนจะปรากฏบนหน้าจอ

    การแก้ปัญหานี้จะทำให้คุณสามารถใช้งานแอป Google ได้ แต่อาจจะไม่สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์เช่นกัน

    การรับมือกับปัญหาของ Nokia

    Nokia

    ถึงแม้ว่า Nokia จะมาพร้อมกับการอัปเกรด Android 11 ได้ไม่นานหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Android 11 แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรุ่นโทรศัพท์ Nokia ที่สามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android 11 ได้ก็คือ Nokia รุ่น Q1, Q2, Q3 จนถึงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน 

    อย่างไรก็ตาม โนเกีย มีอุปกรณ์จำนวนมากที่เตรียมไว้สำหรับการอัปเดต Android 11 แต่เมื่อการอัปเดตเริ่มเผยแพร่สู่สาธารณะมากขึ้น ผู้ใช้งานจำนวนมากต่างพบว่าอุปกรณ์ของตนเองนั้นมีข้อบกพร่องประมาณ 2-3 ประการเช่นกัน แต่ยังดีที่บริษัท Nokia มีความกระตือรือร้นและผู้ดูแลระบบที่ยินดีรับข้อร้องเรียนของผู้ใช้และส่งต่อความคิดเห็นไปยังแผนกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไป

    Suwanna Preebunpul

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี,สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    แทงบอลออนไลน์

    Categories
    News

    Microsoft เปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่มีคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุด

    Windows 11

    มีรายงานว่า Microsoft กำลังจะเปิดตัว Windows 11 ในเร็ว ๆ นี้ และครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่มีมาอย่างยาวนาน โดยรายงานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก Microsoft เปิดตัว Windows 10 เวอร์ชันล่าสุด และหลังการอัปเดต Windows 10 เมื่อวันที่10 พฤษภาคม 2021 ซึ่งจากรายงานระบุว่า Windows 11 จะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่โดดเด่น เช่น ความสามารถที่จะดาวน์โหลดและเรียกใช้แอปพลิเคชัน Android บน Windows พร้อมกับการปรับปรุง Microsoft Teams, เมนู Start และรูปลักษณ์โดยรวมของซอฟต์แวร์ที่มีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจบทความนี้จึงจะพูดถึงรายละเอียดฟีเจอร์ใหม่ ๆ เกี่ยวกับ Windows 11 รวมถึงวันที่พร้อมให้ดาวน์โหลดและความเข้ากันได้ระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Windows 11 ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ

    ฟีเจอร์ใหม่ 7 อย่างที่ Microsoft จะใส่ลงไปใน Windows 11

    Windows 11

    จากรายงานคาดว่า Microsoft จะใส่ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่หลากหลายและโดดเด่นลงไปใน Windows 11 โดยเมื่อไม่นานมานี้รูปภาพของ Windows 11 รั่วไหลออกมา ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนได้มีแนวคิดเกี่ยวกับคุณลักษณะบางอย่างล่วงหน้า ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมฟีเจอร์ใหม่ 7 อย่างที่น่าสนใจไว้ในบทความนี้ และนี่เป็นเพียงแค่คุณลักษณะใหม่ที่โดดเด่นบางส่วนเท่านั้น 

    • Windows 11 มีการออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ที่เหมือน Mac มากขึ้น โดยมีมุมโค้งมน เฉดสีพาสเทล มีเมนู Start และแถบงานอยู่ตรงกลาง
    • มีแอป Android แบบบูรณาการใน Windows 11 และสามารถติดตั้งได้จากภายใน Microsoft Store ใหม่ผ่าน Amazon Appstore 
    • มีวิดเจ็ตใหม่ ๆ มากมายให้เลือกสรร (ถึงแม้ว่าจะมีอยู่มาระยะหนึ่งแล้ว) และในการอัปเดต Windows 10 ล่าสุดในขณะนี้คุณสามารถเข้าถึงวิดเจ็ตได้โดยตรงจากแถบงาน และสามารถปรับแต่งอุปกรณ์เพื่อดูสิ่งที่คุณต้องการได้แล้ว
    • ทีมงานกำลังปรับโฉมหน้าการรวม Microsoft Teams เข้ากับทาสก์บาร์ของ Windows 11 โดยตรง ซึ่งจะทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น (และคล้ายกับ FaceTime ของ Apple อีกเล็กน้อย) นอกจากนี้คุณจะสามารถเข้าถึง Teams ได้จาก Windows, Mac, Android หรือ iOS ได้
    • มีการนำเอาเทคโนโลยี Xbox มาใช้งานเพื่อช่วยให้เล่นเกมได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น Auto HDR และ DirectStorage เพื่อปรับปรุงการเล่นเกมบนพีซี Windows ของคุณ
    • Windows 11 ได้รับการรองรับเดสก์ท็อปเสมือนที่ดีขึ้น ช่วยให้คุณตั้งค่าเดสก์ท็อปเสมือนในลักษณะที่คล้ายกับ MacOS มากขึ้น โดยสามารถสลับไปมาระหว่างเดสก์ท็อปหลายเครื่องสำหรับการใช้งานส่วนตัว ทำงาน เรียน หรือการเล่นเกม
    • เปลี่ยนจอภาพเป็นแล็ปท็อปได้ง่ายขึ้น และทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ที่มีคุณสมบัติที่เรียกว่า Snap Groups และ Snap Layouts ซึ่งอยู่ในแถบงาน และสามารถทำให้ปรากฏขึ้นหรือย่อขนาดพร้อมกันเพื่อให้สลับการทำงานได้ง่ายขึ้น 

    วันที่พร้อมให้ดาวน์โหลดและความเข้ากันได้ระหว่างคอมพิวเตอร์กับ Windows 11 

    Windows 11

    หลังจากที่ Microsoft ได้ทำการอัปเดต Windows 10 เมื่อวันที่10 พฤษภาคม 2021 ก็มีรายงานเกี่ยวกับ Windows 11 ออกมามากมาย จนล่าสุด Windows 11 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วในรุ่น Insider Preview สำหรับผู้ใช้งาน Windows Insider Program จะพร้อมใช้งานรุ่นเบต้าสาธารณะในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมันจะเริ่มต้นขยายออกไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รองรับและเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ของปี 2021 และจะยังคงขยายออกไปเรื่อย ๆ ในปี 2022 อย่างไรก็ตามมีหลายคนคาดการณ์ว่า Windows 11 จะสามารถใช้งานได้โดยทั่วไปในช่วงต้นเดือนตุลาคม

    เราจะทราบได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ของเราจะเข้ากันได้กับ Windows 11? คุณสามารถเข้าไปอ่านข้อกำหนดการใช้งานได้ที่เว็บไซต์ของ Microsoft ซึ่งเบื้องต้น Microsoft จะแนะนำให้ดาวน์โหลดแอป PC Health Check เพื่อตรวจสอบว่าเครื่องของคุณสามารถเข้ากันกับ Windows ใหม่ล่าสุดได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้หลายคนรายงานว่าไม่ได้รับรายละเอียดที่เพียงพอว่าเหตุใดอุปกรณ์จึงไม่เข้ากัน โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน บล็อกโพสต์ของ Microsoft ระบุว่า บริษัท “กำลังลบแอปออกชั่วคราว” เพื่อแก้ไขปัญหานี้ และเครื่องมือจะกลับมาใช้งานได้ก่อนการเปิดตัว Windows 11 นอกจากนี้หากคุณซื้อพีซีเครื่องใหม่ในช่วงนี้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะมีสิทธิ์ได้รับการอัปเกรดฟรีอีกด้วยค่ะ

    Suwanna Preebunpul

    สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว ถ่ายรูป เขียนบทความแนวแนะนำสินค้า, เทคโนโลยี, สาระความรู้, แฟชั่น และGraphic Design ด้วยความที่ส่วนตัวชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมา ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

    Contact >> Instagram, Facebook, Line

    สมัคร เว็บ แทง บอล

    Suwanna Preebunpul
    Categories
    News

    ทำไมเฟสบุ๊คล่ม? โลกออนไลน์สะเทือน เฟสบุ๊ค IG Whatapps ล่มพร้อมกันทั่วโลก

    ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. สังคมออนไลน์โกลาหล เพราะ เฟสบุ๊คล่ม ใช้งานไม่ได้ โหลดข้อมูลก็ไม่ขึ้น เป็นเหตุผลให้เกิดคำถามขึ้นมากมายบนโลกโซเชียล ทำไมเฟสบุ๊คถึงล่ม? ยืนยันจากผู้ที่อาศัยอยู่ที่อเมริกาว่าในขณะนี้ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีสื่ออื่น ๆ ที่มีเจ้าของคนเดียวกันอย่าง Messenger Instagram และ Whatsapp ก็พร้อมใจกันที่จะใช้งานไม่ได้กันอย่างพร้อมเพียง ซึ่งในขณะนี้ยังคงหาสาเหตุไม่ได้ ว่าเป็นเพราะอะไร? แต่ในขณะเดียวกัน สื่อช่องทางอื่น ๆ อย่าง Line Telegram , Kakao , Wechat ,Twitter ยังคงใช้งานได้ดี

    เฟสบุ๊คล่ม ส่งผลต่อตลาดหุ้นโลก ดาวโจนส์ แนสแดก เฟสบุ๊ค ติดลบหนักมาก

    นับได้ว่าเหตุการณ์ เฟสบุ๊คล่ม รวมไปถึงที่ แมสเซนเจอร์ใช้ไม่ได้ ไอจีล่ม วอทแอพก็ล่มอีกเช่นกัน ได้สร้างความวุ่นวานให้แก่โลกออนไลน์ จนถึงขั้นติดอันดับ 1 เทรนโลกการค้นหาใน Twitter #เฟสล่ม #ไอจีล่ม #Facebookdown จำนวนที่พูดถึงเรื่องนี้ทะลุ 1 แสน Tweets ในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง นอกจากจะส่งผลให้ผู้คนที่มีความจำเป็นต้องใช้สื่อต่าง ๆ เพื่อติดต่อสื่อสารแล้ว เฟสล่ม วันนี้ ยังส่งผลให้ราคาหุ้นตลาดโลกยักษ์ใหญ่ในอเมริกาต้องสะเทือนกันเลยทีเดียว Dow Jones ติดลบ 1%, Nasdaq ติดลบถึง 2% และที่หนักไปยิ่งกว่านั้นคือ ในเวลาประมาณ 23.58 ราคาหุ้นของ Facebook มีแรงเทขายออกมาอย่างล้นหลาม ไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปยังจุดเดิมได้ ถึงขั้นร่วงหนักไปถึง 5% เลยทีเดียว ทำให้เซียนหุ้นต่างพากันส่ายหน้า

    บทสรุป แล้วจะใช้งานได้เมื่อไหร่?

    เฟสบุ๊คล่ม จะใช้งานได้เมื่อไหร่? ในขณะนี้ยังคงไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่า Facebook Messenger Instagram และ Whatapps จะกลับมาใช้งานได้เมื่อไหร่ ในขั้นต้นทางต้นสังกัดได้ออกมาแถลงว่ากำลังแก้ไขระบบที่ขัดข้อง ให้เร็วที่สุด โดยได้มีการออกมาชี้แจง ดังนี้

    เฟสบุ๊คลุ่ม

    “We’re aware that some people are having trouble accessing our apps and products. We’re working to get things back to normal as quickly as possible, and we apologize for any inconvenience.”

    แปลได้ว่า “ทางเราทราบดีว่าบางคนมีปัญหาในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่น และสื่อโซเชียลอื่น ๆ ของเรา ในขณะนี้เรากำลังแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่าง ให้กลับมาใช้งานได้อย่างปกติโดยเร็ว และทางเราต้องขออภัยอย่างยิ่งในความไม่สะดวกในทุก ๆ อย่าง”

    ทางเราขอแนะนำว่า สำหรับเฟสล่ม วันนี้ คนที่ใช้งาน สื่อสาร กับผู้อื่นทางช่องทางดังกล่าวเป็นประจำ อาจจะต้องติดต่อกันผ่านช่องทางอื่นที่ใช้ได้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการหัวร้อนจนเกินไป ในระหว่างที่รอให้ทางทีมงานเฟสบุ๊คแก้ไข

    HILO-88.COM
    HILO-88.COM