
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการภูมิแพ้ หรือ แพ้ฝุ่นอย่างหนัก คุณก็คงจะทราบดีว่า หากวันไหนที่อากาศปิด หรือ ท้องฟ้าปิด วันนั้นคงเหมือนชีวิตกำลังเจอกับหายนะครั้งใหญ่อยู่แน่ ๆ เพราะเราจะได้รับฝุ่นที่อยู่ในอากาศแบบเต็ม ๆ โดยเฉพาะ PM2.5 ที่เป็นอันตรายกับร่างกายของเราเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อหน้าหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ฝุ่นหนากำลังมาถึง เครื่องฟอกอากาศ จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ 3 เครื่องฟอกอากาศ ที่คุณไม่ควรพลาดมาฝากกัน
3 เครื่องฟอกอากาศ สำหรับปี 2022 – 2023

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้เครื่องฟอกอากาศ ที่ฟอกอากาศเยี่ยม ราคาดี แถมเทคโนโลยีเลิศ วันนี้เรามี 3 เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี สำหรับปี 2022 – 2023 มาฝากทุกคนที่กำลังตามหาเครื่องฟอกดี ๆ กัน
- Dyson Pure Cool TP00
เครื่องฟอกอากาศDyson ซึ่งเป็นเครื่องฟอกอากาศแบบตั้งพื้น (ควบคุมผ่านรีโมท) ที่สามารถดักจับสารมลพิษที่เป็นอันตรายได้สูงถึง 99.95% โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมตัวกรองใยแก้ว HEPA แบบ 360 องศา ดักจับอนุภาคนุภาคขนาดเล็กมากที่อยู่ในอากาศ เช่น สารก่อภูมิแพ้, ละอองเกสร, แบคทีเรีย และสะเก็ดผิวหนังสัตว์เลี้ยง แบบ 360 องศา ดังนั้นรุ่นนี้จึงเหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้เป็นพิเศษ นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยังเหมาะกับกับห้องทุกประเภทที่มีขนาดไม่เกิน 81 ลูกบาศก์เมตรอีกด้วย

ราคา: 13,900 บาท (ราคาพิเศษ 11,900 บาท เพียงกรอกโค้ด “DY2000” ที่หน้าชำระเงินเว็บไซต์ Dyson ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 65 – 2 พ.ย. 65)
- LG PuriCare New 360 รุ่น AS65GDWH0
เครื่องฟอกอากาศจาก LG ที่มีระบบการกรองหลายขั้นตอน สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย, ไวรัส, ฝุ่น, สารก่อภูมิแพ้, ขนสัตว์เลี้ยง, กลิ่นไม่พึงประสงค์ และก๊าซอันตรายชนิดต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM0.01 ที่ละเอียดมากได้ถึง 99.999% และแบคทีเรีย/ไวรัส 99.9% โดยรุ่นนี้จะมีคุณสมบัติในกรองอากาศแบบ 360 องศา พร้อมด้วยใบพัด Clean Booster และระบบการกรอง 6 ขั้นตอน ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่มีขนาด 61.2 ตารางเมตร

ราคา: 20,900 บาท (Powerbuy)
- Philips air purifier series 4000i รุ่น AC3854
เครื่องฟอกอากาศPhilips ที่สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ในเวลาไม่เกิน 5 นาที มีเทคโนโลยีการตรวจจับแบบเรียลไทม์ และสามารถขจัดไวรัส แบคทีเรีย, ละอองเกสร, ฝุ่น, สารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น, ขนสัตว์, ก๊าซและมลพิษอื่น ๆ ได้ถึง 99.9% แผ่นกรอง HEPA สามารถดักจับอนุภาคขนาด PM0.003 ได้ถึง 99.97% มีช่องรับอากาศ 360 องศา ครอบคลุมห้องที่มีขนาดถึง 158 ตารางเมตร ที่สำคัญคือ ใช้งานร่วมกับ Amazon หรือ Alexa ได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถสั่งการเครื่องฟอกด้วยเสียงของคุณได้แบบสบาย ๆ อีกด้วย

เลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
สำหรับใครที่อยากได้ เครื่อง ฟอกอากาศ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรดีจึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน หรือ ไลฟ์สไตล์ของเรา วันนี้เว็บไซต์มีเคล็ดลับ หรือ วิธีในการเลือกเครื่องฟอกอากาศง่าย ๆ มาไว้ใช้งานกัน โดยก่อนอื่นเราควรคำนึงก่อนว่า ห้องที่เราจะนำเครื่องไปวางเป็นห้องอะไร มีขนาดเท่าไร เช่น หากเป็น เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน และหากห้องนอนของคุณมีขนาดที่ไม่กว้างมากนัก คุณอาจจะเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาด หรือ มีความสามารถในการฟอกอากาศพอดีกับขนาดของห้อง (ช่วยประหยัดค่าเครื่อง) และควรเลือกเครื่องฟอกที่มีเสียงเบา หรือ สามารถปิดแสงของตัวเครื่องได้ด้วยจะดีเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง แต่สำหรับใครที่ในบ้านมีเด็กเล็ก หรือ ต้องการนำไปไว้ในห้องเด็ก ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันล็อกปุ่มเพื่อป้องกันเด็กกดเล่น เป็นต้น

แต่หากบ้านของคุณมีพื้นที่ในการวางที่จำกัด การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ที่มีขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการฟอกที่สูง เช่น เครื่องฟอก Dyson อาจจะเป็นหนึ่งตัวเลือกที่อาจจะเหมาะกับการใช้งานของคุณ นอกจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของความสามารถในการฟอก ที่ในปัจจุบันเครื่องหลาย ๆ รุ่นนอกจากจะฟอกฝุ่นได้แล้ว ยังสามารถฟอกกลิ่น, ไวรัส, แบคทีเรีย, ขนสัตว์เลี้ยง และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นการเลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ ควรใช้เหตุผลอื่น ๆ นอกจากความสามารถในการฟอกมาเสริมเพื่อให้คุณได้เครื่องฟอกอากาศที่ถูกใจนั่นเอง
อ่านบทความอื่นๆ: