สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
สอนใช้

20 คีย์ลัด Mac ตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้ชาว Mac OS ทำงานได้ง่ายขึ้น

คีย์ลัด Mac

ชาวMac OS มารวมกันทางนี้ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสาวก Apple อยู่แล้วก็คงจะทราบดีว่า คีย์ลัด Mac ไม่ว่าจะเป็น MacBook หรือ iMac นั้นมีปุ่มใดบ้าง แต่สำหรับใครที่พึ่งจะย้ายค่ายมาเป็นสาวก Apple ก็อาจจะยังไม่ว่าคีย์ลัดต่าง ๆ นั้นมีอะไรบ้าง ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมคีย์ลัดMac 20 คีย์ที่เพื่อน ๆ จะต้องได้ใช้อย่างแน่นอน

คีย์ลัด Mac รวมครบ จบในที่เดียว

สำหรับ คีย์ลัดMac ทั้ง 20 คีย์ที่เราจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกันในวันนี้จะเป็นในส่วนของ “ปุ่มลัดทั่วไป” และ “ปุ่มลัดเอกสาร” โดย คีย์ลัดMac OS ทั้ง 20 คีย์มีดังนี้

คีย์ลัด Mac
  • Command + C คัดลอกรายการที่เลือก 
  • Command + V วางเนื้อหาที่คัดลอกลงในเอกสารหรือแอปปัจจุบัน
  • Command + Z ยกเลิกเลิกทำคำสั่งก่อนหน้า 
  • Command + Shift + Z ย้อนกลับคำสั่งเลิกทำ และเลิกทำ (ทำได้หลายคำสั่ง)
  • Command + P พิมพ์เอกสารปัจจุบัน
  • Shift + Command + R เพื่อเปิดหน้าต่าง AirDrop
  • Shift + Command + 5 บน คีย์ลัด macแคปหน้าจอ สำหรับ macOS Mojave ไปจะถึง macOS Ventura 
  • Shift + Command + 3 หรือ 4 บนระบบปฏิบัติการ macOS Mojave หรือเวอร์ชันใหม่กว่า เพื่อถ่ายภาพหน้าจอ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพหน้าจอ
คีย์ลัด Mac
  • Shift + Command + Delete คีย์ลัด macลบ หรือ ล้างถังขยะ
  • Control + H เพื่อลบตัวอักษรที่ด้านซ้ายของจุดแทรก 
  • Control + D เพื่อลบตัวอักษรที่ด้านขวาของจุดแทรก 
  • Command + K เพิ่มเว็บลิงก์ลงบนเอกสารของคุณ
  • Shift + Command + เครื่องหมายลบ (-) เพื่อลดขนาดของรายการ หรือ ตัวอักษรที่เลือก
  • Shift + Command + เครื่องหมายบวก (+) เพื่อเพิ่มขนาดของรายการ หรือ ตัวที่เลือก 
  • Control + P เลื่อนขึ้นหนึ่งบรรทัด
  • Control + N เลื่อนลงหนึ่งบรรทัด
  • Command + U ขีดเส้นใต้ข้อความที่เลือก หรือ ยกเลิกการขีดเส้นใต้ข้อความที่เลือก
  • Command + T แสดงหรือซ่อนหน้าต่างแบบอักษร
  • Command + A เลือกทั้งหมดทุกรายการ หรือ เลือกข้อความทั้งหมดบนเอกสาร
  • Command + S เพื่อบันทึกเอกสารปัจจุบัน

ใช้คีย์ลัดได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องตั้งค่าจาก แป้นพิมพ์ MacBook 

คีย์ลัด Mac

คีย์ลัดMac นอกจากเพื่อน ๆ จะสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยการตั้งค่าบนอุปกรณ์แล้ว คุณยังสามารถใช้คีย์ลัดได้ง่าย ๆ ด้วยการป้อนคำสั่ง หรือ การใช้คีย์ลัดผ่านแป้นพิมพ์ซึ่งมีให้มากกว่า 100 รายการ รวมไปถึงคีย์ลัดทั้ง 20 คีย์ที่เรานำมาแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ในวันนี้อีกด้วย นอกจากนี้คีย์ลัดหลาย ๆ คีย์ยังเป็น คีย์ลัด MacBook pro MacBook Air และ iMac ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ ดังนั้นสำหรับใครที่ใช้งาน หรือทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น คีย์ลัดเหล่านี้ก็นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเป็นอย่างยิ่ง 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: https://hilo-88.com/ 

Categories
สอนใช้

AIS Play แอปดูหนังที่ดูฟรีก็ได้ สมัครแพ็กเกจก็เลิศ 

AIS Play

AIS Play แอปพลิเคชันดูหนัง อนิเมะ และคอนเทนต์ต่าง ๆ อีกมากมาย ที่มีทั้งในส่วนของคอนเทนต์ที่ให้ดูฟรีสำหรับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก และ คอนเทนต์พิเศษสำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ไม่ว่าคุณจะใช้เบอร์มือถือจากเครือข่ายใด ก็สามารถสมัครสมาชิกของAIS Playได้ 

วิธีเข้าใช้งาน และ สมัครสมาชิก AIS Play 

AIS Play

สำหรับใครที่อยากชมคอนเทนต์สนุก ๆ ไม่ว่าจะเป็น หนัง, ละคร, ซีรีส์, อนิเมะ, กีฬา, ทีวีออนไลน์, อนิเมชั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถชมคนเทนต์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้ง่าย ๆ ผ่านAIS Play ที่สามารถชมได้จากทั้งบนแอปพลิเคชัน หรือ บนเว็บไซต์ โดยความพิเศษของเอไอเอส เพลย์ คือ คุณสามารถรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ฟรี แบบที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก หรือไม่ต้องลงทะเบียน ซึ่ง วิธีดูais playฟรี ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณดาวน์โหลดแอปAIS Playหรือ เข้าเว็บไซต์เอไอเอส แล้วเลือก “เข้าใช้งานแบบไม่ลงทะเบียน” หรือเลือก “เข้าสู่ระบบ” แล้วระบุหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขอินเทอร์เน็ต 10 หลักเพื่อเข้าใช้บริการ จากนั้นกรองรหัส “OTP” จากนั้นก็สามารถเข้าชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้เลย ซึ่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จะเป็นคอนเทนต์ดูฟรี หรือ สำหรับสมาชิก ดังนั้นสำหรับใครที่สงสัยว่าais playฟรีไหม คำตอบคือ ดูฟรีแต่เฉพาะบางคอนเทนต์นั่นเอง 

สมัครAIS Playรายเดือน ราคาแพ็กเกจดีทั้งลูกค้าAIS และ ลูกค้าค่ายอื่น 

AIS Playเป็นแอปดูหนังที่ให้ทั้งลูกค้าเอไอเอสและ ลูกค้าจากค่ายอื่นซื้อแพ็กเกจเพื่อชมคอนเทนต์พรีเมียมของแอปได้ โดย สมัครais playค่ายอื่น หรือผู้ที่ไม่ใช่ลูกค้าAIS คุณสามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านแอป หรือ เว็บไซต์AIS Playโดยแพ็กเกจสำหรับลูกค้าทั่วไป หรือ ลูกค้าต่างค่าย มี 2 แพ็กเกจให้เลือก ได้แก่ “PlayPremium” ราคา 199 บาท/เดือน ฟรี Bein sport connect นาน 12 เดือน และแพ็กเกจ “PlayPremium Plus” ราคา 299 บาท/เดือน ฟรี Viu, WeTV, Bein sport connect และ AISKaraoke

AIS Play

สำหรับ ลูกค้า AIS ทั้งแบบรายเดือน เติมเงิน และ AIS ไฟเบอร์ จะมีแพ็กเกจให้เลือกมากกว่าลูกค้าต่างค่าย โดย สิทธิพิเศษลูกค้า AIS และ AIS ไฟเบอร์ สมัครครั้งแรกเพียง 19 บาท/เดือน (เฉพาะเดือนแรก) เดือนต่อไป 199 บาท/เดือน (ผู้ที่เคยรับสิทธิ์แล้ว 199 บาท/เดือน) และสำหรับลูกค้า AIS เติมเงิน 199 บาท/เดือน และทั้งหมดนี้ฟรี Bein sport connect

AIS Play

นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ 299 บาทให้เลือก โดย สมัครครั้งแรกเพียง 29 บาทเดือน (เฉพาะเดือนแรก) เดือนต่อไป 299 บาท/เดือน และ สำหรับลูกค้าAIS เติมเงิน 299 บาท/เดือน และลูกค้ารายเดือน และเติมเงินรับชมฟรี Disney+ Hotstar, Viu, WeTV, Bein sport connect และAIS Karaoke แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และที่สำคัญคือ คุณสามารถ ดูais play ผ่านทีวี ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป 

อ่านบทความอื่นๆ:

ผู้สนับสนุน: https://hilo-88.com/

Categories
สอนใช้

แชร์วิธีการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ได้ผลจริง ข้อมูลไม่หาย ฉบับอัพเดตปี 2566

ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone
ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone

หลายท่านที่ใช้สมาร์ทโฟน Android แล้วต้องการเปลี่ยนมาใช้ iPhone คงกำลังสงสัยว่าเราสามารถ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ได้ไหม? แล้วถ้าหากย้ายได้ข้อมูลจะครบถ้วนหรือเปล่า? วันนี้เราจะพาทุกท่านจะไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กัน

ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าในปี 2023 เราสามารถ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ได้หลากหลายวิธี ดังนั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีการย้ายข้อมูลที่สุดแสนจะง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณเลือกทำตามวิธีที่เราได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้ เพียงเท่านี้ข้อมูลที่สำคัญของคุณก็จะถูกโอนย้ายไปอยู่ใน iPhone เครื่องใหม่ของคุณแล้ว

สิ่งที่ควรทำก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone

สิ่งที่ควรทำก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone
สิ่งที่ควรทำก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone

คุณรู้หรือไม่? ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ หรือทิ้งโทรศัพท์เครื่องเก่า สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรก ก็คือ การย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเก่า ไปยังเครื่องใหม่ ซึ่งมีผู้ใช้หลายคนต้องการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้วิธีการย้ายข้อมูลที่ถูกต้อง

บางคนต้องการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone 13 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด จึงมีความกังวลว่าข้อมูลบางอย่างอาจจะหายไป ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone 2023 คุณต้องดำเนินการและตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เตรียมความพร้อมสำหรับการย้ายข้อมูลเรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่คุณควรทำก่อนเริ่มถ่ายโอนข้อมูลโทรศัพท์ มีดังนี้ 

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 เครื่องเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่ปลอดภัยหรือไม่?
  • ก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone เครื่องเก่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า iPhone ของคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอหรือไม่?
  • เสียบปลั๊กชาร์จแบตสมาร์ทโฟนทั้ง 2 เครื่องให้พร้อมสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล (เพราะอาจจะใช้เวลาในการย้ายนาน)
  • หากคุณต้องการโอนบุ๊กมาร์ก Chrome ให้อัพเดต Chrome เป็นเวอร์ชันล่าสุดบนอุปกรณ์ Android ของคุณ
  • สำรองข้อมูลโทรศัพท์ Android ของคุณไปที่ Google Drive เพื่อปกป้องข้อมูลหาย
  • ออกจากระบบ RCS (Rich Communication Service) บน Google Messages

วิธีสำรองข้อมูลของคุณไปยัง Google Drive

สำรองข้อมูลของคุณไปยัง Google Drive
สำรองข้อมูลของคุณไปยัง Google Drive

อีกหนึ่งข้อดีเกี่ยวกับบริการของ Google เมื่อคุณต้องการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ก็คือ Google Drive ซึ่งเป็นบริการเก็บไฟล์ข้อมูลไว้บนเซิร์ฟเวอร์ โดยผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้งานไฟล์ข้อมูลเหล่านั้นได้จากทุกที่ทุกเวลา และบริการนี้สามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iOS

ดังนั้น เมื่อคุณต้องย้ายข้อมูล หรือ ย้ายรูปจาก Android ไป iPhone เราขอแนะนำให้คุณทำการสำรองข้อมูลไว้ใน Google Drive ด้วย เพื่อป้องกันข้อมูลที่อาจจะสูญหาย นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการเก็บข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย หากคุณ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ไม่ได้ การสำรองข้อมูลไว้ใน Google Drive ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมันสามารถเข้าถึงได้บนอุปกรณ์หลายเครื่องทั้ง Android, iOS, PC และ Mac

ซึ่งในปี 2023 นี้คุณสามารถสำรองข้อมูลไว้ใน Google Drive ได้ตั้งแต่ข้อมูลประวัติการโทรและ SMS เอกสาร รูปภาพและวิดีโอ การตั้งค่า และข้อมูลแอป เช่น รายชื่อติดต่อ (แอป Google Contacts เท่านั้น) ได้อย่างง่ายดาย 

หากต้องการซิงค์บุ๊กมาร์ก Chrome ของคุณกับ iPhone ให้อัปเดตแอป Chrome บนสมาร์ทโฟน Android เครื่องเก่าก่อน และนี่คือขั้นตอนการสำรองข้อมูลไปยัง Google Drive บนโทรศัพท์ Android ให้ไปที่การตั้งค่า > Google > สำรองข้อมูล (หรือค้นหาข้อมูลสำรองในการตั้งค่า) จากนั้นเลือกสำรองข้อมูลเดี๋ยวนี้


วิธีลงชื่อออกจาก RCS

Rich Communication Services (RCS)
Rich Communication Services (RCS)

ก่อนทำการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone มีอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรทำ คือ การลงชื่อออกจาก Rich Communication Services (RCS) ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้คุณสามารถส่งข้อความที่เข้ารหัส รวมถึงข้อความ วิดีโอ ภาพถ่าย และ GIF

หากโทรศัพท์ Android ของคุณใช้ Google Messages สำหรับข้อความ คุณต้องปิด RCS ก่อนเปลี่ยนโทรศัพท์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจจะทำให้ข้อความสำคัญขาดหายไป โดยวิธีลงชื่อออกจาก RCS บนอุปกรณ์ Android ก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ไปที่แอป Google Messages แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

  1. แตะที่ “ตัวเลือกเพิ่มเติม”
  2. แตะที่ “การตั้งค่า”
  3. แตะที่ “คุณสมบัติการแชท”
  4. เลือกปิดการเปิดใช้งานคุณสมบัติการแชท
วิธีลงชื่อออกจาก RCS
วิธีลงชื่อออกจาก RCS

วิธีที่ 1 ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone โดยการใช้แอพ Move to iOS

เมื่อคุณได้ทำการสำรองข้อมูลในโทรศัพท์เครื่องเก่าเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลา ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone แล้ว ซึ่งวิธีที่หนึ่งที่เราได้นำมาแนะนำนี้ ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยการใช้ โปรแกรมย้ายข้อมูล Android ไป iPhone หรือที่เรียกว่า แอพ Move to iOS ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone 2566 เป็นอย่างมาก เพราะสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสุด ๆ

แอพ Move to iOS
แอพ Move to iOS

โดยคุณสามารถดาวน์โหลดแอพนี้บนโทรศัพท์ Android ได้จาก Google Play Store สะดวก รวดเร็ว และทำงานแบบไร้สายในการถ่ายโอนข้อมูล แต่อย่าลืมว่าวิธีนี้ต้องทำการถ่ายโอนบนแอพก่อนตั้งค่า iPhone ของคุณเท่านั้น โดยข้อมูลที่คุณสามารถถ่ายโอนด้วย แอพ Move to iOS ได้มีดังนี้

  • รายชื่อติดต่อ
  • ปฏิทิน 
  • ประวัติข้อความ
  • ข้อความ WhatsApp
  • ภาพถ่าย และอัลบั้มภาพ
  • วิดีโอ 
  • ไฟล์ และโฟลเดอร์
  • การตั้งค่าบางอย่าง
  • บัญชี Google ของคุณ 
  • บัญชีอีเมลอื่น ๆ
  • แอปพลิเคชันฟรีบางตัว

และนี่คือ ขั้นตอนการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone โดยการใช้แอพ Move to iOS :

  1. ไปที่ Play Store บนโทรศัพท์ Android และดาวน์โหลดแอพ Move to iOS
  2. เปิด iPhone ของคุณ แล้วเลือกย้ายข้อมูลจาก Android
  3. เปิดแอพ Move to iOS บนโทรศัพท์ Android ของคุณ
  4. อ่านและยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข ให้แตะ “ตกลง”
  5. เปิด iPhone เครื่องใหม่ของคุณ และวางไว้ใกล้กับโทรศัพท์ Android แล้วแตะ “Set Up Manually”
หน้าแรกของแอพ Move to iOS
หน้าแรกของแอพ Move to iOS
  1. เมื่อหน้าจอ iPhone ปรากฏ Apps & Data ให้แตะ “Move Data from Android”
แตะ “Move Data from Android”
แตะ “Move Data from Android”
  1. รอให้รหัสแบบใช้ครั้งเดียวปรากฏบนหน้าจอ iPhone แล้วนำรหัสนั้นมาป้อนลงในโทรศัพท์ Android ของคุณ
รับรหัสแบบใช้ครั้งเดียว
รับรหัสแบบใช้ครั้งเดียว
  1. เลือกเชื่อมต่อบนโทรศัพท์ Android เพื่อเข้าร่วมเครือข่าย Wi-Fi ชั่วคราว
  2. เลือกข้อมูลที่ต้องการถ่ายโอนจากโทรศัพท์ Android ไปยัง iPhone แล้วเลือก “ดำเนินการต่อ”
  3. จากนั้นปล่อยให้อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องเริ่มถ่ายโอนข้อมูล หรือจนกว่า iPhone ของคุณจะแสดงการโอนย้ายเสร็จสิ้น เพียงเท่านี้ข้อมูลในโทรศัพท์ Android ก็จะถูกย้ายไปที่ iPhone ของคุณแล้ว

วิธีที่ 2 ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บนคอมพิวเตอร์

ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บนคอมพิวเตอร์
ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บนคอมพิวเตอร์

นอกจากการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone โดยการใช้แอพ Move to iOS แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีการย้ายข้อมูลโทรศัพท์โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพ นั่นก็คือ การถ่ายโอนข้อมูลของคุณได้ด้วยตนเองบนคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น PC หรือ Mac ก็สามารถทำได้

หากคุณต้องการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone 6s Plus ก็สามารถเลือกใช้วิธีนี้ได้เลยเช่นกัน และวิธีนี้ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone เปิดใช้งานแล้ว เพียงทำตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้

การ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บน PC

  1. ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บน PC เริ่มต้นด้วยการเสียบสายพอร์ต USB เชื่อมต่อโทรศัพท์ Android ของคุณเข้ากับ PC
  2. จากนั้นให้นำเข้ารูปภาพและวิดีโอจากโทรศัพท์ Android ไปยังโฟลเดอร์ใหม่บน PC ของคุณ
  3. เมื่อนำเข้าข้อมูลครบแล้วก็ให้ถอดสายเชื่อมต่อโทรศัพท์ Android ออกแล้วเสียบสายเชื่อมต่อกับ iPhone เข้ากับ PC
  4. เปิด iTunes บน PC ของคุณ
  5. เลือกคลิกที่ปุ่มอุปกรณ์สำหรับ iPhone ของคุณ (มุมซ้ายบน)
  6. เลือกข้อมูลจากโฟลเดอร์บนคอมพิวเตอร์ที่คุณต้องการซิงค์ในเมนูการตั้งค่าทางด้านซ้าย (เพลง รูปภาพ ไฟล์ ฯลฯ)
  7. คลิกเลือกช่องเพื่อทำเครื่องหมายสำหรับแต่ละหมวดหมู่ที่คุณต้องการซิงค์
  8. คลิกนำไปใช้หรือซิงค์ที่มุมล่างขวา หลังจากที่คุณเลือกทุกสิ่งที่คุณต้องการซิงค์แล้ว

การ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บน Mac

  1. ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone ด้วยตัวเอง บน Mac เริ่มต้นด้วยการเสียบสายพอร์ต USB เชื่อมต่อโทรศัพท์ Android ของคุณเข้ากับ Mac
  2. ใช้แอพถ่ายโอนไฟล์ของ Android เช่น Google File Transfer เพื่อนำเข้าไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ใหม่บน Mac
  3. เมื่อนำเข้าข้อมูลครบแล้วก็ให้ถอดสายเชื่อมต่อโทรศัพท์ Android ออกแล้วเสียบสายเชื่อมต่อกับ iPhone เข้ากับ Mac
  4. จากนั้นไปที่แถบค้นหาบน Mac (หรือ iTunes ใน Mac OS เวอร์ชันเก่า) แล้วเลือก iPhone ของคุณ
  5. กำหนดการตั้งค่าในตัวค้นหาสำหรับไฟล์แต่ละประเภทที่คุณต้องการซิงค์ (เพลง หนังสือ ภาพถ่าย ไฟล์ ฯลฯ) 
  6. คลิกเลือกช่องเพื่อทำเครื่องหมายและเลือกใช้สำหรับแต่ละหมวดหมู่ที่คุณต้องการซิงค์ เพียงเท่านั้นข้อมูลทั้งหมดก็จะถูกย้ายไปยัง iPhone ของคุณ

สิ่งที่คุณควรรู้เมื่อทำการ ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone แล้ว

สิ่งที่ควรรู้ก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone
สิ่งที่ควรรู้ก่อน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone

มีผู้ใช้บางคน ย้ายข้อมูล Android ไป iPhone 11 แล้วมีบางสิ่งขาดหายไป ซึ่งเป็นข้อเสียของการเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ เพราะคุณไม่สามารถถ่ายโอนทุกอย่างได้ เนื่องจาก Android และ iOS ใช้ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน จึงทำให้ข้อมูลบางอย่างไม่สามารถถ่ายโอนมายังเครื่องใหม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • แอพที่ซื้อในโทรศัพท์ Android บางตัว
  • แอพฟรีที่ไม่มีใน App Store ของ iOS
  • ประวัติการซื้อในแอพ
  • การตั้งค่าการเข้าถึงและการแสดงผล
  • ข้อความในแอพส่งข้อความบางแอพ 

ถึงแม้ว่าแอพ Move to iOS จะสามารถย้ายแอปพลิเคชันฟรีบางแอพจะไว้ในระบบปฏิบัติการ iOS ได้ แต่ก็มีข้อแม้ว่าแอพนั้นต้องสามารถใช้งานได้ทั้งบนระบบ Android และ iOS เท่านั้น สำหรับแอพแบบชำระเงินและแอพที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้ คุณจะต้องไปที่ App Store บน iPhone และค้นหาเพื่อดูว่าแต่ละแอพมีอยู่ใน iOS หรือไม่?

หากพบการแอพนั้นไม่มีให้บริการใน iPhone ให้คุณลองค้นหาแอพที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ใน Google เพียงพิมพ์ “ชื่อแอพ เทียบเท่ากับ iOS” เพื่อขอคำแนะนำในอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ หากคุณถ่ายโอนข้อมูลจาก Android ไปยัง iPhone เรียบร้อยแล้ว ก่อนทำการทิ้งเครื่องเก่า หรือส่งมอบโทรศัพท์ Android ให้กับบุคคลอื่น

คุณควรล้างข้อมูลในเครื่องเก่าของคุณให้หมดก่อนที่จะส่งต่อ โดยไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > รีเซ็ต > ลบเนื้อหาและการตั้งค่าทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง แต่อย่าลืมสำรองข้อมูลไว้ใน Google Drive ของคุณก่อนนะ เพราะหลังจากล้างข้อมูลเครื่องเก่าแล้ว คุณไม่สามารถเรียกคืนข้อมูลเหล่านั้นได้อีก facetime เสียเงินไหม

AUTHOR

SUWANNA PREEBUNPUL
SUWANNA PREEBUNPUL

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน นักเขียนออยนะคะ ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ชอบท่องเที่ยว และถ่ายรูป นิสัยส่วนตัวของออยชอบทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีงานเขียนแนวใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะขอบคุณค่าาาา

CONTACT >> INSTAGRAM, FACEBOOK, LINE

ผู้สนับสนุน : https://hilo-88.com/

Categories
สอนใช้

OTP คืออะไร เห็นกันอยู่ทุกวันแต่มันคือรหัสอะไรกันแน่ วันนี้ไปไขข้อสงสัยกัน

OTP คืออะไร

ตัวช่วยที่จะเพิ่มความรหัสภัยใช้กับข้อมูลของเรานั่นก็คือรหัสผ่าน แต่สำหรับบางท่าน หรือบางแอปพลิเคชันมักจะมีอีกตัวช่วยนั่นก็คือ OTP แล้ว OTP คืออะไร วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเจ้ารหัสผ่านขั้นที่สองที่ขึ้นชื่อได้ว่า “เป็นรหัสผ่านที่ปลอดภัยที่สุด” หรือมีชื่อเรียกอีกแบบว่า 2FA(2-Factor Authentication) โดยเฉพาะในปัจจุบันถ้าถามว่าOTPมีประโยชน์อย่างไร ต้องขอบอกเลยว่ารอบด้าน ไม่ว่าจะป้องกันการโจรกรรมทางไซเบอร์ ป้องกันการโดนเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือทรัพย์สินของเราเอง OTP เลยถือเป็นอีกรูปแบบของรหัสผ่านที่ไม่ว่าจะยุคไหนก็ยังใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

OTP คืออะไร ความเป็นมา และความหมายของรหัส OTP

OTP คืออะไร

สำหรับคนที่สงสัยว่า OTP คืออะไร วันนี้จะขอเล่าตั้งแต่แรกเกิดของ OTP ตัวแรก ในแรกเริ่มเดิมทีแล้วไม่ได้เป็นรูปแบบของข้อความ SMS อย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน แต่เป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า Dongle มีหน้าตาคล้ายแฟลชไดรฟ์ มีหลักการทำงานก็คือการสุ่มตัวเลข โดย ประโยชน์ของOTP ในยุคนั้นใช้เพื่อปลดล็อกรหัสต่างๆ และแน่นอนว่าในยุคสมัยนั้นราคาสูงคนบุคคลทั่วไปไม่สามารถเอื้อมถึงได้แน่นอน จนได้รับการพัฒนามาเป็นรูปแบบ SMS อย่างที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

OTP คืออะไร

ชื่อเต็มก็ที่นิยมเรียกกันจะมีอยู่ 3 ชื่อด้วยกัน OTPย่อมาจาก One-time Authorization Code, One time PIN หรือ Dynamic Password โดยหลักการทำงานของแต่ละชื่อเรียกจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว ก็คือมีไว้สำหรับขอเข้าใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หรือในปัจจุบันจะนิยมใช้เป็นรหัสขอเข้าแอปพลิเคชัน

OTP รหัสผ่านแบบ 2FA ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจริงหรือไม่

OTP คืออะไร

แน่นอนว่าดีกว่าการมีรหัสผ่านเพียงชั้นเดียวอยู่แล้ว แต่ชั้นที่สองของเรานั้นปลอดภัยถึงนั้นไม่สามารถโดนแฮกได้หรือไม่ คำถามนี้ถูกตอบโดย Merritt Maxim รองประธานของ Forrester Research ว่า “ไม่” เพราะอดีตก็เคยมีการดักจับ OTP ผ่าน SMS เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

  • OTP ถูกดักจับผ่าน Open-source

พูดกันตามตรงแล้ว OTP เป็นรหัสผ่านที่สามารถดักจับได้ง่าย แต่ OTP ปลอดภัยไหม เมื่อเทียบกับรหัสผ่านชั้นนอกแล้ว ช่องโหว่ของรหัสผ่านทั่วไปนั้นสะดวกกับแฮกเกอร์กว่ามาก อย่างเช่น เมื่อปี 2018 ยุคที่ผู้คนเริ่มหันมาใช้โทรศัพท์มือถือ ได้มีการโจรกรรมข้อมูลผู้ให้บริการโปรโตคอลที่มีชื่อว่า Signaling Sysyem No.7 ผ่าน Open-source

OTP คืออะไร
  • ดักจับ OTP จากการโอนข้อมูล SIM

OTP คืออะไรที่เราพบเจอบ่อยที่สุดใน SMS และแน่นอนว่าต้องมาจากผู้ให้บริการเครือข่าย โดยมีมีอีกกรณีเคยเกิดขึ้นมาแล้วในองค์กรผู้ให้บริการด้ายเครือข่ายมือถือ โดยมีโอเปอเรเตอร์ที่กำลังให้บริการผู้ที่มิจฉาชีพที่พยายามหว่านล้อม ให้พนักงานโอนย้ายข้อมูลจาก eSIM จากเครื่องของเหยื่อมายังเครื่องของมิจฉาชีพแทน แค่ในกรณีนี้ต้องขึ้นอยู่กับความรัดกุมของผู้ใช้บริการ ส่วนผู้ใช้งานอย่างเราถ้าเลือกเครือข่ายที่เชื่อถือได้ก็สบายใจกันได้เลย

  • การแฮก Email จาก OTP

OTP ปลอดภัยไหม คำถามนี้คงจะเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น จากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับรหัส OTP ในอดีต แต่ก็ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะอีกที่ ที่เราจะเจอ OTP ได้บ่อยๆก็คือในกล่องข้อความ Email โดยส่วนใหญ่แล้วการดัก OTP จากอีเมลส่วนใหญ่จะใช้วิธีการฟิชชิ่ง หลอกให้เรากรอกข้อมูลในแบบฟอร์มต่างๆ เพียงเท่านี้เราก็ตกหลุมพรางให้แฮกเกอร์เข้าไปโลดแล่นใน Email เราได้ง่ายๆ

OTP คืออะไร

หลังจากที่พอจะได้รู้กันไปแล้วว่ารหัสOTP คืออะไร อาจจะยังไม่รู้ว่าความปลอดภัยของรหัสOTP เมื่อเทียบกับรหัสผ่านรูปแบบอื่นถือว่ามีความปลอดภัยสูงพอสมควร จนนิยมใช้ร่วมกับธุรกรรมต่างๆ ประโยชน์ของOTP เช่น ธนาคาร การโอนเงิน การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว และจากเกร็ดความรู้วันนี้ถ้าเรากุมรหัสนี้ไว้ให้มิดรับรองว่าจะสามารถใช้รหัสOTP ได้อย่างอุ่นใจขึ้นแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย:

https://gclubspecial168.com รวบรวมพนันออนไลน์ไว้ให้คุณที่นี่ที่เดียว

Categories
Featured สอนใช้

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ นาฬิกาที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี อาจจะเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในอนาคต

ก้าวล้ำพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ที่กำลังจะกลายเป็นไอเทมสำคัญที่ต้องใช้จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน 

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เริ่มจากนาฬิกาในกลุ่มคนรักสุขภาพ 

ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้สมาร์ทวอทช์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับคนที่รักสุขภาพ และชอบเล่นกีฬาออกกำลังกาย เพราะมีฟังก์ชันมากมายที่เป็นประโยชน์เช่น การบอกจำนวนระยะทาง ความเร็วในการวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน นับจำนวนก้าว บอกอัตราการเต้นของหัวใจ นับจำนวนเวลาของการพักผ่อนในแต่ละวันว่าเพียงพอหรือไม่ และบอกอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ รวมไปถึงออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมการออกกำลังกายส่วนตัวได้อย่างเหมาะสมกับผู้ใช้งาน เป็นต้นซึ่งมีการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ โดยล้วนให้ความแม่นยำที่ค่อนข้างสูงเป็นอย่างมาก

นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ มีการพัฒนาฟังก์ชันเพิ่มขึ้น เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย

ปัจจุบันสมาร์ทวอทช์ มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างเข้าไปไม่ว่าจะเป็น การใช้ GPS ที่เป็นค่ามาตรฐานที่ต้องมีนำมาผสมผสานการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน ต่าง ๆ ทำให้ใช้งานบนข้อมือได้เลย และยังช่วยระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจนเมื่อต้องการความช่วยเหลือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทรเข้าโทรออกได้อย่างไหลลื่น รวมไปถึงความบันเทิงอย่างการฟังเพลง เช็กสภาพอากาศ ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ เลยก็ว่าได้

นอกจากจะเป็นอุปกรณ์เพื่อความสะดวก นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ยังกลายเป็นนาฬิกาแฟชั่น

ถึงแม้รูปทรงของสมาร์ทวอทช์ส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กันหมดแต่ก็ดูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ดูเรียบ ๆ แต่ก็ไม่ซ้ำใคร ทำให้กลายเป็นนาฬิกาที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะทำงาน ออกไปเที่ยว หรือเล่นกีฬา ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีการปรับดีไซน์กันบ้างแล้วอย่างเช่น Casio ก็ปรับใช้โมเดลของ G-Shockในการผลิตสมาร์ทวอทช์ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในตลาด

ส่วนแบ่งตลาดนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ปี 2020 ครึ่งแรกโตถึง 20% - digital Age  Magazine

รูปภาพจาก https://digitalagemag.com/2020-smartwatch-market-share

ทำไมนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ อาจจะเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในอนาคต

ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พัฒนาอย่าต่อเนื่อง รวมไปถึงการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพหรือความบันเทิง จึงเชื่อว่าในอนาคตสมาร์ทวอทช์อาจจะเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้นอย่าง ปัจจุบัน Apple Carkey ที่ทำให้สมาร์ทวอทช์เป็นกุญแจรถ BMW สามารถปลดล็อกรถผ่านข้อมือ นอกจากนี้ยังสามารถปลดล็อกประตูบ้านได้ เชื่อว่าอีกไม่นานคงมีการต่อยอดเทคโนโลยีนี้ต่อไปอีกอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้คือประโยชน์ และแนวโน้มในอนาคตของนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ซึ่งอาจจะมีความสำคัญไม่แพ้โทรศัพท์มือถือ เพราะสามารถทำให้ชีวิตได้รับความสะดวกสบายหลายอย่างผ่านข้อมือของผู้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย

อ่านบทความอื่นๆ : 

สนับสนุนโดย :

ufaball.bet เว็บตรง ศูนย์รวมการเดิมพันกีฬาอันดับหนึ่งไม่ว่าจะบอลชุด บอลเต็ง บอลเสต็ป และกีฬาอีกหลายประเภท ราคาดีที่สุดในขณะนี้ ขั้นต่ำเพียง 10 บาท พร้อมโปรโมชั่นคืนยอดเสีย 5% ในทุกเดือน เล่นง่าย จ่ายจริง ร่วมเดิมพันกีฬาสุดมันส์กับเราได้ที่

Categories
Featured สอนใช้

แท็บเล็ต อุปกรณ์ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการศึกษา 

นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างมีการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้นกว่าเดิม นั่นก็คือการเรียนออนไลน์นั่นเอง  อุปกรณ์การเรียน ออนไลน์นั้นสามารถเป็นได้ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ทั้งแบบ DESKTOP และ NOTEBOOK รวมไปถึง แท็บเล็ต ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้นั่นเอง 

แท็บเล็ต อุปกรณ์สำคัญที่คนวัยเรียนจะขาดไปไม่ได้อีกแล้ว

แท็บเล็ต ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ อุปกรณ์การเรียน การศึกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเรียนออนไลน์หรือไม่ก็ตาม เพราะสามารถเก็บข้อมูลเอกสารได้เป็นจำนวนมาก จดบันทึกได้อย่างสะดวกสบาย พกพาง่าย มีความคล่องตัวสูง เราจะพาไปดูกันว่าสำหรับคนที่ต้องการจะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการเรียน จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

รวมรายชื่อ แท็บเล็ตที่น่าสนใจสำหรับใช้เรียนออนไลน์โดยเฉพาะ

  1. APPLE IPAD AIR GEN 5 เริ่มกันที่แบรนด์ยอดนิยม รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวท๊อปล่าสุดอย่าง M1 ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วผัวรุ่นก่อนถึง 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะทำงานกราฟฟิก เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่เล่นเกมก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย ใช้งาน APPLICATION แบบมัลติฟังชั่นก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน 
  2. HUAWEI MATEPAD PRO 11 2022 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด จากแบรนด์ HUAWEI ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำกราฟฟิก การเรียน เล่นเกม รวมไปถึงการรับชม CONTENT ทำงานเอกสาร ยันงานนำเสนอก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัว สามารถใช้งานร่วมกับปากกา HUAWEI M เพนซิลรุ่น 2 แบบเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความไหลลื่นในการจดบันทึกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  3. HONOR PAD 8 อุปกรณ์การเรียน จากแบรนด์ทางเลือกที่มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบและวัสดุในการผลิตที่เป็นโลหะ ทำให้มีความแข็งแรงทนทานสูง ตัวเครื่องโค้กหมด ถึงจะหน้าจอใหญ่แต่ตัวเครื่องก็บางเฉียบไม่เทอะทะ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและคล่องตัว มีลำโพงใส่เมื่อถึง 8 ตัวเลยทีเดียวประกอบไปด้วยลำโพงแบบปกติ 4 ตัวและลำโพงเบสอีก 4 ตัว จัดเต็มความบันเทิงให้กับคุณไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม STREAMING หรือแม้แต่การเรียนออนไลน์ก็ตาม
  4. LENOVO TAB K10 อุปกรณ์ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากจะพกพาเครื่องใหญ่ที่ไปไหนมาไหนลำบาก เพราะรุ่นนี้มีหน้าจอเพียงแค่ 13 นิ้วเท่านั้นแต่มาพร้อมกับความละเอียดคมชัดระดับ FHD+ ไม่ว่าจะเรียน เล่นโซเชียล ทำงาน เล่นเกม ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายและครบครัน มาพร้อมกับความจุตัวเครื่องกว่า 64 GB แบตเตอรี่ความจุถึง 7700 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานติดต่อกันได้อย่างยาวนานหลายชั่วโมงแบบไร้กังวล

เลือกอุปกรณ์สำหรับเรียนออนไลน์อย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานของเรา

แท็บเล็ตแต่ละรุ่นที่เรามาแนะนำกันในวันนี้มีทั้งการออกแบบ ขนาดหน้าจอ รวมไปถึงคุณสมบัติภายในที่แตกต่างกันออกไป เราจึงต้องพิจารณาว่าเรานั้นมีการใช้งานแบบไหนบ้าง หากเราต้องทำงานกราฟิกหรือชื่นชอบการรับชม CONTENT ที่ต้องอาศัยความละเอียดคมชัดของหน้าจอสูง ก็อาจจะต้องเลือกรุ่นที่มีหน้าจอคมชัด แต่หากคุณมีไว้เป็น อุปกรณ์การเรียน  อยากจะพกไปไหนมาไหนได้แบบสบาย การเลือกที่ขนาดเครื่องเล็กลงมาหน่อยก็จะตอบโจทย์ได้ดีเช่นเดียวกัน 

อ่านบทความอื่นๆ : 

สนับสนุนโดย :

ufaball.bet คาสิโนที่มาแรงที่สุด ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำผ่านระบบออโต้กับเว็บตรง ปลอดภัย 100% พร้อมรับโปรโมชั่นคืนยอดเสีย 5% ในทุกเดือน ไม่ว่าจะแทงบอลเต็ง หรือ บอลสเต๊ป ได้อัตราค่าน้ำสูงที่สุดในประเทศ

Categories
News สอนใช้

DJI Osmo Mobile 6 ไม้กันสั่นสำหรับมือถือที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

ไม้กันสั่นนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจำเป็นต่อการทำงานของเหล่าสายครีเอเตอร์เป็นอย่างยิ่ง และผู้ผลิตสินค้าไอทีหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มมีการผลิตสินค้าที่ทั้งมีคุณภาพ และราคาไม่สูงเกินไปออกมาให้งานต่อการเข้าถึงสินค้าต่าง ๆ เหล่านั้น DJI ก็นับว่าเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน และล่าสุดกับการเปิดตัวของ DJI Osmo Mobile 6 ไม้กันสั่นสำหรับมือถือ ที่นอกจากจะมีคุณภาพที่ดีแล้ว ยังมีราคาที่ไม่สูงเกินไป เหมาะกับสายครีเอเตอร์ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพเป็นอย่างยิ่ง

รีวิว DJI Osmo Mobile 6 รุ่นใหม่ ไฉไลกว่าเกิม

สำหรับDJI Osmo Mobile 6 เป็น ไม้กันสั่นมือถือ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีฟังก์ชันการใช้งานน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดย ไม้กันสั่นDJI รุ่นนี้มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา เชื่อมต่ออุปกรณ์ง่าย และที่สำคัญมีโหมดการใช้งานที่ค่อนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง

โดย ไม้กันสั่น รุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัด พับเก็บได้ และพกพาสะดวก มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 3 แกน และสามารถเปิดใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงดึงแกนของไม้ขึ้นมาไม้กันสั้นก็พร้อมที่จะใช้งานทันที แบบไม่จำเป็นต้องกดปุ่มใด ๆ และพับเก็บเพื่อปิดเครื่องเมื่อสิ้นสุดการใช้งาน นอกจากนี้แกนของไม้ยังสามารถยืดออกเพื่อปรับระดับความยาวของไม่ได้ซึ่งเป็นระดับที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้า และที่สำคัญยังมีน้ำหนักเบาเพียง 340 กรัมเท่านั้น

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า ไม้กันสั่นรุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจมากมาย เช่น Quick Launch คือฟังก์ชันที่ช่วยให้คุณสามารถใช้งานและเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะทันทีที่คุณกางก้านของไม้ออกมา ตัวไม้ก็จะเข้าสู่แอป DJI Mimo โดยอัตโนมัติ และเมื่อคุณนำมือถือโดยเฉพาะ iPhone มาประกอบเข้ากับไม้ Notification ของแอปก็จะเด้งขึ้นมาบนหน้าจอมือถือ และเพียงคุณแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว คุณก็สามารถเริ่มใช้งานอุปกรณ์ได้ทันที

ราคาของDJI Osmo Mobile 6 ที่เปิดตัวมาพร้อมราคาที่แพงกว่ารุ่นก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย

สำหรับราคาของDJI Osmo Mobile 6 เปิดตัวออกมาด้วยราคาที่ไม่ต่างจากDJI OM 5 ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้มากนัก โดยDJI Osmo mobile 6ราคา อยู่ที่ 5,499 บาท แต่สำหรับDJI OM 5 จะมีราคาอยู่ที่ 5,099 บาท ดังนั้นสำหรับใครที่อยากได้ไม้กันสั้นสเปคดี ๆ ราคาไม่แรงเกินไปOsmo Mobile 6 ยังนับว่าเป็นไม้กันสั่นขนาดพกพาอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

อ่านบทความอื่นๆ : แนะนำ คีย์บอร์ดไอแพด ที่ถูกและดี ตอบโจทย์คนงบน้อย

สนับสนุนโดย :

midwestrailplan.org เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มเดิมพันกับคาสิโนออนไลน์

Categories
News สอนใช้

DJI Osmo Action 3 แอคชั่นแคมที่ซื้อครั้งเดียวจบทุกปัญหา

เปิดตัว และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ DJI Osmo Action 3 ซึ่งแอคชั่นแคมจากแบรนด์ DJI นับว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่ว่าจะเปิดตัวสินค้ารุ่นใดออกมาก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริง ๆ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันกับการมาของOsmo Action รุ่น 3 ที่งานนี้บอกเลยว่า ซื้อครั้งเดียวครบ จบในที่เดียว

รีวิว DJI Osmo Action 3 แอคชั่นแคมที่ชั่วโมงนี้ไม่มีไม่ได้

สำหรับDJI Osmo Action 3 เป็นแอคชั่นแคมที่เปิดตัวมาทั้งหมด 2 เซ็ตด้วยกัน ได้แก่DJI Osmo Action 3 Standard Combo และ DJI Osmo Action 3 Adventure Combo ซึ่งทั้ง 2 เซ็ตจะแตกต่างกันที่อุปกรณ์เสริมที่จะได้มาพร้อมกับตัวเครื่องเท่านั้น โดยDJI Osmo Action รุ่นนี้มาพร้อมกับ เซนเซอร์กล้องขนาด 1/1.7 นิ้ว เลนส์ที่ให้มุมมองที่กว้างถึง 155 องศา ถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุด 4k 120 Fps และ Full HD 1080p 240 Fps และสามารถถ่ายภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล 

ในส่วนของหน้าจอ รุ่นนี้มีทั้งหมด 2 หน้าจอซึ่งเป็นระบบสัมผัสทั้งคู่ โดยจอด้านหน้า (อยู่ข้างเลนส์) จะมีขนาดอยู่ที่ 1.4 นิ้ว และจอหลัง 2.25 นิ้ว นอกจากนี้ในส่วนของระบบกันน้ำDJI Osmo action 3 กันน้ำ แบบไม่ต้องใส่อุปกรณ์เสริมได้ลึกถึง 16 เมตร และหากใส่ Waterproof Case เสริมเข้าไปก็จะสามารถกับน้ำได้ลึกถึง 60 เมตรเลยทีเดียว

Action Cam แต่ได้อุปกรณ์เสริมแบบครบครัน

มาถึงในส่วนราคาของDJI Osmo Action 3 กันแล้ว และตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า กล้องdji รุ่นนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 เซ็ต และ Dji osmo action 3 ราคา แต่ละเซ็ตแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาดังนี้

DJI Osmo Action3 Standard Combo รุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 12,500 บาท โดยภายในกล่องคุณจะได้รับสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้ 

  • กล้อง Osmo Action 3 
  • Osmo Action 3 Extreme Battery
  • Osmo Action 3 Horizontal-Vertical Protective Frame
  • Osmo Action 3 Rubber Lens Protector
  • Osmo Action 3 Quick-Release Adapter Mount
  • Osmo Flat Adhesive Base
  • Osmo Locking Screw
  • Type-C to Type-C PD Cable
  • DJI Logo Sticker

DJI Osmo Action3 Adventure Combo รุ่นนี้จะมีราคาอยู่ที่ 15,500 บาท โดยภายในกล่องคุณจะได้รับสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้ 

  • กล้อง Osmo Action 3
  • Osmo Action 3 Extreme Battery (3 ก้อน)
  • Osmo Action 3 Horizontal-Vertical Protective Frame
  • Osmo Action 3 Rubber Lens Protector
  • Osmo Action 3 Quick-Release Adapter Mount
  • Osmo Flat Adhesive Base
  • Osmo Locking Screw
  • Type-C to Type-C PD Cable
  • Osmo Action 3 Multifunctional Battery Case
  • Osmo 1.5m Extension Rod
  • DJI Logo Sticker

จะเห็นได้ว่า สินค้าทั้ง 2 เซ็ตมีราคาแตกต่างกันเพียง 3,000 บาทเท่านั้น แต่ได้อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นต่อการใช้งานแบบครบครัน ดังนั้นใครที่เป็นมือใหม่และอยากได้ได้กล้องแอคชั่นแคมดี ๆ ได้อุปกรณ์เสริมครบ แถมงบไม่บานปลาย Adventure Combo ก็นับว่าเป็นเซ็ตที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่หากใครที่เป็นสายอุปกรณ์เน้นการใช้อุปกรณ์เสริมระดับเทพ และชื่นชอบการหาอุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ มาลองใช้เสมอ Standard Combo ก็นับว่าเป็นหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ และอาจจะเหมาะกับความต้องการของคุณไม่แพ้กัน 

บทความอื่นๆ : GoPro 11 มาแล้ว งานนี้สายลุยไม่ควรพลาด

สนับสนุนโดย :

GCLUB บาคาร่าอันดับหนึ่ง บริการออนไลน์ 24 ชั่วโมง พร้อมธุรกรรมที่รวดเร็วระบบฝากถอนออโต้ที่มีเสถียรภาพ ไม่เกิน 5 วินาที เปิดบริการมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2005 จนปัจจุบัน เล่นได้ผ่านสมาร์ทโฟนทุกระบบ iOS และ Android

Categories
News สอนใช้

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER อุปกรณ์ให้อาหารสัตว์อัจฉริยะสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ที่มีธุระนอกบ้านเป็นประจำ 

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER เป็น เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ที่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงการออกไปทำธุระนอกบ้านไม่ได้ไม่ว่าจะออกไปหลักชั่วโมงหรือหลักวันก็ตาม อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถให้อาหารสัตว์ได้แบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องอยู่บ้านก็สามารถทำให้สัตว์เลี้ยงอิ่มท้องได้อย่างไร้กังวล 

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER อุปกรณ์ให้อาหารสัตว์อัจฉริยะที่จะช่วยคุณไร้กังวลเมื่อต้องจากบ้านไปหลายวัน

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDERที่เราจะพาทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คนเลี้ยงสัตว์รู้สึกสบายใจได้มากขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องออกเดินทางไปทำธุระนอกบ้านติดต่อกันหลายชั่วโมงหรือหลายวันแล้วต้องปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันตามลำพังภายในบ้านของตนเอง อย่างน้อยเราก็สามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับประทานอาหารทุกมื้อตรงเวลาเหมือนกับเราอยู่บ้านกับเขาอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจ เราจะพาไปดูกันว่า เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ รุ่นนี้จะมีฟีเจอร์อะไรที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนเลี้ยงสัตว์กันบ้าง 

คุณสมบัติการใช้งานของอุปกรณ์ให้อาหารสัตว์อัจฉริยะรุ่นXIAOMI SMART PET FOOD FEEDER 

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDERเป็น เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ จากแบรนด์ XIAOMI ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะในยามจำเป็นที่เราต้องจากบ้านไปนานหลายชั่วโมงหรือหลายวันแล้วต้องทิ้งให้สัตว์เลี้ยงอยู่ตามลำพังภายในบ้าน อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งกับสุนัขและแนวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางเลยทีเดียว ตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย มันจึงสามารถเข้าได้กับทุกสไตล์ของบ้านคุณ ด้านบนจะเป็นแท่งทรงสี่เหลี่ยมสำหรับใส่อาหาร มีฟังก์ชันมากมายไม่ว่าจะเป็น

  • บรรจุอาหารแห้งเข้าไปได้สูงถึง 1.8 กิโลกรัม
  • มีแถบไฟ LED แสดงสถานะด้านบน 

ส่วนด้านล่างนั้นจะเป็นชามให้อาหารสัตว์ที่ผลิตมาจากวัสดุที่ได้รับการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพว่าเป็นไปตามวัสดุสำหรับสัมผัสอาหารจากองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือ อาหารในปริมาณนี้สุนัขและแมวสายพันธุ์เล็กที่โตเต็มวัยจะสามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 20 วันเลยทีเดียว ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเทอาหารออกมามากจนเกินไปและทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณอ้วน สามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชั่น MI HOME APP ได้อย่างง่ายดาย สามารถสั่งการอุปกรณ์ดังกล่าวได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเวลาการให้อาหารหรือแม้แต่ปริมาณในแต่ละมื้อ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแจ้งเตือนผ่านทางแอพพลิเคชั่นเมื่ออาหารใกล้จะหมดลงอีกด้วย 

ข้อดีในการใช้งานของอุปกรณ์ให้อาหารสัตว์อัจฉริยะ 

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDER

XIAOMI SMART PET FOOD FEEDERเป็น เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการให้อาหารสัตว์ ไม่จำเป็นต้องตักอาหารให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำทุกวัน สามารถทำโอทีได้แบบสบายใจเพราะให้อาหารสัตว์เลี้ยงได้เลยจากที่ทำงาน ผลิตมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานและปลอดภัย ช่วยให้คุณรู้สึกเบาใจได้บ้างเมื่อต้องออกไปทำธุระข้างนอก อุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 2,990 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้าน XIAOMI หรือตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมรายการแล้ววันนี้

อ่านบทความอื่นๆ : mi band 7 สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi

สนับสนุนโดย :

ufaball.bet  เว็บตรงไม่มีขั้นต่ำ เชิญทุกท่านมาร่วมสนุกกับการเดิมพันกีฬาไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล มวย บาส หรือการแข่งขัน e-sport ฝาก-ถอนระบบออโต้ สามารถเล่นผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกระบบปฏิบัติการณ์

Categories
Featured News สอนใช้

Galaxy Z Flip4 รุ่น Bespoke Edition สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung

Galaxy Z Flip4

ล่าสุดทาง Samsung ได้ทำการเปิดตัว Galaxy Z Flip4 โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้คือ การที่มีรุ่นพิเศษที่ให้คุณสามารถออกแบบสีของตัวเครื่องให้เข้ากับสไตล์ของคุณได้ โดยมีชื่อรุ่นว่า Bespoke Edition ซึ่งเป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่มีสไตล์โดดเด่นเป็นของตัวเองและไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเหมาะกับสายมูสีมงคลทุกคนอีกด้วย

Galaxy Z Flip4

เปิดสเปคของ Galaxy Z Flip4 รุ่น Bespoke Edition ที่สุดของสมาร์ทโฟนที่คุณอาจตามหา

Galaxy Z Flip4 รุ่น Bespoke Edition หรือGalaxy Z Flip4 Bespoke Edition คือสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษที่ลูกค้าจำเป็นต้องสั่งจองล่วงหน้า ซึ่งคุณจะสามารถครีเอทสไตล์ของมือถือในรูปแบบของคุณได้ ทั้งในส่วนสีของกรอบหน้า กรอบหลัง และกรอบรอบ ๆ ของตัวเครื่อง ซึ่งทางแบรนด์จะมีดีไซน์ยอดนิยมให้คุณสามารถใช้เพื่อเป็นแนวทางทั้งหมด 5 ดีไซน์ แต่คุณยังสามารถครีเอทส่วนต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นได้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้แล้ว Samsung Z Flip 4 สเปค ก็น่าสนใจแต่ก็ยังมีหลาย ๆ ส่วนที่เรารู้สึกว่ารุ่นนี้อาจจะไม่ได้ต่างจากรุ่น Samsung Z Flip 3 มานัก โดยสเปคของ Z Flip 4 นั้นจะมาพร้อมหน้าจอ Ultra-Thin Glass4 ที่เมื่อกางออกแล้วจะมีความกว้างของหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว ที่สำคัญพัดได้มากถึง 200,000 ครั้ง ต่อมาเป็นในส่วนของกล้องที่จะมีกล้องหลังทั้งหมด 2 กล้อง ที่เป็นกล้องมุมกว้าง และ กล้องมุมกว้างพิเศษ ความชัดระดับ 12MP เลนส์ละ 1 ตัว และกล้องหน้าความชัดระดับ 10MP 1 ตัว และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ รุ่นเป็นมือถือที่สามารถกันน้ำ (IPX8) ได้ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที ซึ่งสเปคต่าง ๆ ข้างต้นเป็นสเปคเดียวกับ Z Flip 3 แต่ในส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้างเช่น หน้าจอฝาเครื่องขนาด 1.9 นิ้ว ที่คุณสามารถปรับแต่งได้เองเพื่อแสดงถึงสไตล์ความเป็นคุณได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการวิดีโอ, ภาพถ่าย หรืออีโมจิ AR ของคุณเองเป็นต้น

Galaxy Z Flip4

ราคาและการสั่งจอง Bespoke Edition ง่าย ๆ ใช้เวลาเพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ Galaxy Z Flip4 รุ่น Bespoke Edition จำเป็นต้องมีการสั่งจองล่วงหน้า ซึ่งระยะเวลาในการผลิตแต่ละเครื่องจะใช้เวลาเพียง 3 – 4 สัปดาห์เท่านั้น โดยคุณสามารถสั่งจองได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ของ Samsung ซึ่ง Samsung z flip 4 ราคา เริ่มต้นอยู่ที่ 39,900 บาท ความจุ 256G RAM 8GB นอกจากนี้สำหรับใครที่สั่งจอง new Samsung z flip 4 ก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2022 นี้ คุณยังจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ รวมไปถึงข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เช่น ฟรีอัพเกรดความจุเป็น 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 6,000 บาทหรือ รับ BOYY BOBBY CHARM มูลค่า 8,900 บาท, ลดเพิ่ม 5,000 บาท เมื่อนำเครื่องเก่ามาแลกใหม่, ส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับซื้อ Galaxy Watch5 และ Galaxy Buds2 Pro และที่พิเศษสุด ๆ สำหรับผู้ที่ซื้อ

Samsung z flip 4 AIS พร้อมเปิดเบอร์ใหม่กับ AIS รับส่วนลดแพ็คเกจรายเดือน (5G Max Speed) สูงสุด 3,600 เลยทีเดียว โปรโมชันดี ๆ แบบนี้พลาดไม่ได้แล้ว

อ่านบทความ > mi band 7 สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi

สนับสนุนโดย :

ไฮโลออนไลน์ แทงขั้นต่ำ 10 บาท ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ บริการตลอด 24 ชั่วโมง สมัครวันนี้ รับโปรโมชั่น ฝากแรกของวันรับเครดิตเพิ่ม 20% รับเงินคืน 5% ทุกสัปดาห์ สมัครเลยที่นี่ HTTPS://HILOSPEC.COM/

HILO-88.COM
HILO-88.COM