เมื่อไม่นานมานี้ Apple ได้ประกาศลดราคาไอโฟน11 ลงเหลือราคาเริ่มต้นที่ 22,100 บาท หลังจากประกาศเปิดตัว iPhone 12 Series ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2020 อันที่จริงก่อนที่จะมีการประกาศเปิดตัว iPhone 12 Series ป้ายราคา 24,900 บาท ของ iPhone 11 นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับ Hi-End ที่มาพร้อมชิปทรงพลังและกล้องที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะการเป็นโทรศัพท์ที่เป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของ Apple
คุณสมบัติเด่นของ iPhone 12 Series คือความสามารถในการเชื่อมต่อ 5G ซึ่ง Apple และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้ทำสัญญากันมาหลายปีว่าจะนำความเร็ว5G ที่รวดเร็วเป็นพิเศษสำหรับการเล่นเกมบนคลาวด์ การสนทนาทางวิดีโอคุณภาพสูง การสตรีมวิดีโอและประสบการณ์โดยรวมที่รวดเร็วและดีขึ้นโดยรวมถึงการใช้แอปที่ต้องการข้อมูลจำนวนมาก
ในขณะเดียวกัน 5G ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังมีหลายคนที่ยังไม่ได้เร่งรีบที่จะซื้อโทรศัพท์ 5G แต่อย่างน้อย 5G ที่เร็วกว่า 4G LTE ในปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องใช้เวลามากขึ้นในการขยายความครอบคลุมให้ทั่วถึง และยังมีการปรับปรุงเกี่ยวกับกล้องและ MagSafe ใหม่ใน iPhone 12 Series ก็เพิ่มความดูดีมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามการที่ Apple ได้ประกาศลดราคาไอโฟน11 ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่า iPhone XR ที่เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Apple ประมาณ 1,500 บาท โดยการปรับลดราคาลงในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Apple ต้องการลงมาเล่นตลาด Entry Level ซึ่งเน้นขายแบบได้ ‘จำนวน’ (Volume) มากกว่าแบบที่ตลาดHi-End ที่เน้นส่วนต่างกำไร
ราคาไอโฟน11 ถูกปรับลดลงแต่ประสิทธิภาพยังเหลือล้น
iPhone 11 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2019 ซึ่งในปัจจุบันราคาไอโฟน11เริ่มต้นอยู่ที่ 22,100 บาท โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, เขียว, เหลือง, ม่วง และ แดง (PRODUCT)RED มาพร้อมกับกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย Ultra Wide และ Night Mode พร้อมด้วยชิพ A13 Bionic Bionic และสามารถชาร์จแบบไร้สายได้ โดยภายในกล่องจะมีตัวเครื่อง iPhone 11 พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 14 ที่มีลุคที่สดใหม่ของสิ่งที่คุณใช้เป็นประจำ แถมยังให้คุณทำสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายกว่าที่เคย และยังมีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณมีสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในเวลาที่ถูกจังหวะ ส่วนแอปที่คุณใช้อยู่ตลอดเวลาก็จะฉลาดยิ่งขึ้น และยังเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และมีสาย USB-C เป็น Lightning กับเอกสารคู่มือ
ราคาไอโฟน11 ล่าสุดจาก Apple Store Online ในไทย และราคาแต่ละเครือข่ายที่วางขายอย่าง ทรู, AIS, ดีแทค มีราคาที่แตกต่างกันทั้งราคาเครื่องเปล่า และราคาติดโปร ดังนี้
ราคาไอโฟน 11 ที่ Apple Store Online ไทย
- 64GB ราคา 22,100 บาท
- 128GB ราคา 24,100 บาท
- 256GB ราคา 28,100 บาท
ราคาไอโฟน 11 ที่ TrueMove H
- 64GB ราคาเครื่องเปล่า 22,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 13,200 บาท
- 128GB ราคาเครื่องเปล่า 26,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 19,200 บาท
- 256GB ราคาเครื่องเปล่า 30,900 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 23,200 บาท
ราคาไอโฟน 11 ที่ AIS
- 64GB ราคาเครื่องเปล่า 22,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 13,200 บาท
- 128GB ราคาเครื่องเปล่า 24,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 15,200 บาท
- 256GB ราคาเครื่องเปล่า 28,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 18,700 บาท
ราคาไอโฟน 11 ที่ DTAC
- 64GB ราคาเครื่องเปล่า 22,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 13,200 บาท
- 128GB ราคาเครื่องเปล่า 24,100 บาท และราคาติดโปรเริ่มต้นที่ 15,200 บาท
สรุปสเปค iPhone 11
ถึงแม้ในปี 2563 ราคาไอโฟน11 จะถูกปรับให้ลดลงเหลือเริ่มต้นที่ 22,100 บาท จากราคาเปิดตัวที่ 24,900 บาท พร้อมกับตัดอะเดปเตอร์ชาร์จ และหูฟังออกจากกล่อง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับลดราคาลงที่เมื่อรวมกับโปรโมชันของOperator แล้ว ส่งผลทำให้ iPhone 11 น่าสนใจมากยิ่งขึ้นและมาพร้อมสเปคที่ทรงพลัง
สเปค iPhone 11
- ขนาดตัวเครื่อง 150.9 x 75.7 x 8.3 มม. และมีน้ำหนัก 194 กรัม
- หน้าจอ Liquid Retina Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 828 x 1792 พิกเซลที่ 326 PPI
- ชิพ A13 Bionic Neural Engine, RAM 4 GB
- มีความจุ 64 GB, 128 GB และ 256 GB
- กล้องหลัง 2 ตัว พร้อมเลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 และมุมมองภาพ 120° และเลนส์ไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล มีระบบการซูมเข้าแบบออปติคอล 2 เท่า
- สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดระดับ 4K ที่ 24 fps, 30 fps หรือ 60 fps
- กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- GPS/GNSS ภายในตัว
- รองรับ Dolby Atmos
- มีเซ็นเซอร์ Face ID, บารอมิเตอร์, Gyroscope 3 แกน, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- สามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
จากสเปคที่เราได้กล่าวข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าไอโฟน 11 และไอโฟน 12 ยังมีบางจุดที่ใกล้เคียงกัน อยู่ค่อนข้างเยอะ อย่างขนาดหน้าจอที่เป็น 6.1 นิ้ว เช่นเดียวกัน แต่ iPhone 12 เลือกใช้จอแบบ Super Retina XDR ที่เป็นจอ OLED ซึ่งแตกต่างจาก iPhone 11 ที่เป็นจอ Liquid Retina HD ที่ใช้จอ LCD ทำให้การแสดงผลดีขึ้น ทั้งคอนทราสต์ และความสว่างที่เพิ่มขึ้น
หากคุณต้องการ iPhone รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นชัดเจน ตัวเลือกอย่าง iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์มากกว่า และแน่นอนว่ามีราคาที่สูงขึ้นไปอยู่ในช่วง 3-5 หมื่นบาท