สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ
Categories
Featured News สอนใช้

แนะนำแล็ปท็อปปี 2020 ที่ดีที่สุด พกพาง่าย มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยมสำหรับนักออกแบบ

แนะนำแล็ปท็อปปี 2020 ที่ดีที่สุด

เราเชื่อว่านักออกแบบทุกคนต่างต้องการแล็ปท็อปที่ดีที่สุดและพกพาได้พร้อมแบตเตอรี่ที่ดีเยี่ยมใช้งานได้ยาวนานสำหรับการออกแบบกราฟิก เพื่อเรียกใช้โปรแกรมต่างๆ เช่น Photoshop หรือ Adobe Premiere Pro ในขณะที่ทำงานระหว่างการพูดคุยการประชุมหรือการทำงานระหว่างเดินทาง 

เหนือสิ่งอื่นใดการซื้อแล็ปท็อปสำหรับงานออกแบบไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อ คุณควรต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่คุณเลือกสอดคล้องกับการทำงานออกแบบหรือไม่ และแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับนักออกแบบต้องผสมผสานไปด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานออกแบบ มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดและบางเบาพกพาง่าย

แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับนักออกแบบกราฟิกปี 2020

นี่คือสุดยอด 4 แล็ปท็อปแห่งปี 2020 ที่เหมาะสำหรับนักออกแบบกราฟิกที่เรานำมาแนะนำในวันนี้จะมีรุ่นไหนบ้างตามมาดูกันเลย

  1. MacBook Pro: เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์จาก Apple มีจอแสดงผลสูงสุด 16 นิ้วด้วยความละเอียด 3072 x 1920 ใช้โปรเซสเซอร์ 2.8 Ghz Intel Core i7 หรือ 2.4Ghz Intel Core i9 มี RAM สูงสุดถึง 32GB โดยมีพื้นที่จัดเก็บ 256GB SSD หรือสูงสุด 8TB SSD นอกจากนี้ยังใช้การ์ดแสดงผล AMD Radeon Pro 555 หรือ AMD Radeon Pro 5500 แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งของ MacBook Pro คือความขาดแคลนตัวเลือกพอร์ตที่มีให้ ซึ่งคุณจะได้รับพอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 4 พอร์ต (ซึ่งเข้ากันได้กับการเชื่อมต่อ USB-C) 
  2. Microsoft Surface Laptop 3: ในขณะที่แล็ปท็อป Surface รุ่นก่อนหน้าไม่มีอะไรที่ดึงดูดนักออกแบบมากนัก แต่แล็ปท็อปรุ่น 3 ที่ใหม่กว่ากลับน่าสนใจมากขึ้น โดยรุ่นนี้มีขนาดจอแสดงผล 15 นิ้ว ความละเอียด 2496 x 1664 ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5 3580U หรือ AMD Ryzen 7 3780U มี RAM 8GB ถึง 16GB และมีพื้นที่จัดเก็บ 128GB ถึง 1TB SSD พร้อมการ์ดแสดงผล AMD Radeon Vega 9 และ RX Vega 11 นอกจากนี้ยังสามารถใช้ปากกา Surface บนจอแสดงผลได้ (จำหน่ายแยก) และบางมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
  3. Dell XPS 15: XPS 15 ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับแล็ปท็อปขนาด 14 นิ้วทั่วไป แต่มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วที่แทบจะไม่มีกรอบและกรอบบางมาก เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมของ Dell ซึ่งบรรจุส่วนประกอบและเทคโนโลยีล่าสุดทั้งหมดไว้ในแพ็คเกจขนาดเล็กนี้ ซึ่งรุ่นนี้มีความละเอียด 1920 x 1080 หรือ 3840 x 2160 ใช้โปรเซสเซอร์ 8 Intel Core i5 ถึง i7 อีกทั้งมีRAM 8GB ถึง 32GB มีพื้นที่จัดเก็บ 128GB SSD ถึง 1TB SSD และการ์ดแสดงผล Nvidia GeForce GTX 1650
  4. HP Spectre x360: HP อ้างว่า Spectre x360 นี่เป็นแล็ปท็อปที่น่าประทับใจมากจากแบรนด์ย่อย ‘prosumer’ ของ HP มันไม่ได้เพรียวบางเหมือนของ Dell หรือ Lenovo แต่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีถึง 17.5 ชั่วโมง อีกทั้งยังพ่นสไตลัสได้ฟรีซึ่งแตกต่างจาก Surface Book 2 ซึ่ง x360 มีจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 3840 x 2160 พร้อมทั้งใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i7-1065G7 มี RAM 16GB มีพื้นที่เก็บข้อมูล 512 GB และมีกราฟิกการ์ด Intel UHD Graphics 620

ข้อสังเกตแล็ปท็อปที่สำหรับการออกแบบกราฟิก

เมื่อคุณจะซื้อแล็ปท็อป โดยเฉพาะรุ่นพรีเมี่ยม เรื่องสเปคและคุณสมบัติถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งมีข้อสังเกตหลักๆดังนี้

  1. โปรเซสเซอร์: เนื่องจากนักออกแบบมีแนวโน้มที่จะใช้โปรแกรมที่ต้องใช้แล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพสูง ในการสร้างสรรค์งานค่อนข้างเยอะ จึงควรจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ คุณอาจเรียกโปรเซสเซอร์ ว่า CPU (หน่วยประมวลผลกลาง) หรือว่าชิป AMD และ Intel 
  2. RAM: นักออกแบบควรเลือก RAM ในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 8GB แต่ 16GB ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด RAM ย่อมาจากหน่วยความจำ พูดง่ายๆก็คือมันช่วยให้แล็ปท็อปของคุณสามารถทำงานให้เสร็จได้เร็วขึ้น 
  3. พื้นที่เก็บข้อมูล: พื้นที่เก็บข้อมูลมี 2 ประเภทที่ใช้ในแล็ปท็อประดับพรีเมียม ได้แก่ Harddisk Drive (HDD) และ Solid state drive (SSD) HDD เป็นรุ่นเก่า แต่ก็ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ล้าสมัย มักจะมีราคาถูกกว่าและมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากกว่า SSD ในราคาเดียวกัน SSDs เป็นรุ่นใหม่ และมีราคาแพงมาก ช่วยให้คอมพิวเตอร์อ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก ด้วย SSD แล็ปท็อปของคุณจะบูตได้เร็วขึ้นและเรียกใช้และเปิดโปรแกรมได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือมีพื้นที่เก็บข้อมูลน้อยลงมากเมื่อใช้ SSD
  4. การ์ดจอ: การ์ดแสดงผลหรือ GPU นั้นคล้ายกับโปรเซสเซอร์ แต่ทำงานในลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อย การ์ดแสดงผลดีกว่าในเรื่องการแสดงสิ่งต่างๆบนหน้าจอ 
  5. ขนาดหน้าจอ: หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมีประโยชน์ในการสร้างสรรค์ผลงานมาก โดยขนาดหน้าจอควรมีอย่างน้อย13 นิ้วโดยที่ 15 นิ้วหรือ 16 นิ้วถือว่ากำลังพอดี

สมัครบาคาร่า

Categories
Featured News สอนใช้ แนะนำแอปฯ

แนะนำแท็บเล็ตแห่งปี 2020 เหมาะสำหรับเด็ก สร้างความบันเทิงให้กับลูก ๆ ของคุณ

แนะนำแท็บเล็ตแห่งปี 2020

ผู้ปกครองทุกคนคงทราบดีว่าแท็บเล็ต เป็นสื่อการเรียนการสอนแทนตัวหนังสือ เพราะง่ายต่อการเรียนรู้ของเด็กและสร้างความบันเทิงให้ลูก ๆ ของคุณ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคุณจะเห็นว่าแท็บเล็ตที่วางขายในท้องตลาดนั้นมีจำนวนมากมายหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ โดยแต่ละแบรนด์ก็มีดีไซน์และประสิทธิภาพการใช้งานที่แตกต่างกันไป

 ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบแต่ละแบรนด์ได้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อ แต่ก็กลายเป็นปัญหาหนักใจให้คุณเหมือนกันเพราะแต่ละแบรนด์ต่างก็มีจุดเด่นที่ต่างกันทำให้คุณไม่ทราบว่าควรเลือกซื้อแท็บเล็ตแบบไหนดีที่จะเหมาะกับลูกของคุณ และวันนี้เราก็มีแท็บเล็ตแห่งปี 2020 ที่เหมาะสำหรับเด็กมาแนะนำทุกคน เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อแท็บเล็ต

แท็บเล็ตที่ดีที่สุดและเหมาะสำหรับเด็ก 

แท็บเล็ต” ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่กำลังเรียนรู้และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาใช้งานแท็บเล็ต เพื่อการเรียนรู้ทางออนไลน์ และสร้างความบันเทิง ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีสำหรับยุคสมัยที่รวมทุกอย่างไว้ในอินเตอร์เน็ต ส่วนข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การพกพาที่ง่ายกว่าโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์นั่นเอง แถมแท็บเล็ตบางรุ่นก็สามารถโทรได้ เหมือนโทรศัพท์อีกด้วยจะมีแท็บเล็ตรุ่นไหน แบรนด์ไหมบ้างที่แหมาะสำหรับลูกของคุณไปติดตามกันเลย

1. Apple iPad 10.2

เป็นอีกหนึ่ง แท็บเล็ต ที่เหมาะสำหรับเด็กโตหรือวัยรุ่นที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ความบันเทิงไปจนถึงการเรียนรู้ทางออนไลน์ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีและมีหน้าจอขนาดใหญ่ iPad 10.2 ค่อนข้างคุ้มค่าตามมาตรฐานของ Apple มีขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ iOS แถมยังมีส่วนลดสำหรับนักเรียนด้วย โดยราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 10,900 บาท

2. iPad Mini

iPad Mini ของ Apple เปิดตัวในปี 2019 เป็นแท็บเล็ตแบบพกพาที่ดีที่สุด โดยมีขนาดหน้าจอ 7.9 นิ้ว ฟอร์มแฟคเตอร์ที่เล็กกว่า iPad 10.2 ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับมือเด็ก แต่มีราคาที่สูงกว่า ระบบปฏิบัติการ iOS เหมาะสำหรับเด็กโตพกพาไปโรงเรียน แถมยังมีส่วนลดสำหรับนักเรียนด้วย โดยราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 13,900บาท

3. Apple iPad 9.7 

iPad 9.7 เป็นแท็บเล็ตรุ่นคลาสสิกจาก Apple ถือเป็น iPad ที่ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน ขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว เข้ากันได้ดีกับปากกา Stylus สำหรับวาด, เขียน, ระบาย และรีทัชรูปภาพ ระบบปฏิบัติการ iOS มีน้ำหนักเบาและพกพาง่าย ด้วยความที่รุ่นนี้มีและหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกอย่างตั้งแต่แอพไปจนถึงสตรีมมิ่ง นอกจากนี้ยังทนทานต่อการกระแทกและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 10+ ชั่วโมง โดยมีราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 11,500 บาท 

4. Lenovo Tab 4 10

Lenovo Tab 4 10 เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้แท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ ด้วยระบบบัญชีที่เป็นมิตรกับเด็กโดยเฉพาะที่ตกแต่งแท็บเล็ตด้วยอินเทอร์เฟซที่มีสีสันและใช้งานง่ายมากขึ้นและเคสเฉพาะที่มีจำหน่ายด้วย ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆ ซึ่งมีขนาดหน่วยความจำ 32GB อาจไม่มากเกินไป แต่มีช่องเสียบการ์ด Micro SD ทำให้คุณสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ ระบบปฏิบัติการ Android โดยมีราคาเริ่มต้นที่อยู่ที่ 7,499 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ถูกที่สุดในบรรดาแท็บเล็ตที่เรานำมาแนะนำ

5. Huawei MediaPad M6 Turbo 8.4

ยุคนี้ของดีจากจีนมีหลากหลายอย่าง Huawei ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สร้างภาพลักษณ์ที่น่าสนใจจนได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติที่ราคาถูก อึด และทน แถมถ่ายรูปสวย ซึ่งแท็บเล็ตรุ่น MediaPad M6 Turbo 8.4 โดยมีจุดเด่นอยู่ที่มาตรฐานของระบบเสียงชื่อดัง Harman Kardon และเทคโนโลยี Huawei Histen ที่ให้พลังเสียง Hi-Res ที่ช่วยตอบโจทย์ด้วยความบันเทิง นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรี่ยังรวดเร็ว ส่วนไฮไลท์สำคัญคือมีท่อระบายความร้อนกับฟีเจอร์ GPU Turbo เพิ่มความสนุกในการเล่นเกมได้ต่อเนื่อง ซึ่งแท็ตเล็ตตัวนี้จะเน้นไปในเรื่องสื่อบันเทิง ที่จะตอบโจทย์สำหรับเด็กๆ ในการดูหนังฟังเพลง เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงระบบที่รองรับกับเกมอีกด้วย

บาคาร่า

Categories
Featured News สอนใช้

นักวิเคราะห์กล่าว iPhone 12 มีความเป็นที่นิยมมากกว่า iPhone 11

iPhone 12 มีความเป็นที่นิยมมากกว่า iPhone 11

Wave7 ได้ทำการสำรวจร้านค้าผู้ให้บริการในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับ iPhone 12 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งลดราคา iPhone 11 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ลงด้วย ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนลังเลว่าควรจะซื้อ iPhone 12 นี้เลยหรือจะซื้อ iPhone 11 ใช้ไปก่อนเพื่อรอ iPhone รุ่นใหม่ที่น่าสนใจกว่านี้ แต่เมื่อเอาสเปคมาเทียบ iPhone 12 มีการอัพเกรดจาก iPhone 11 ในส่วนของหน้าจอที่ดีขึ้นและวัสดุที่ทนทานขึ้น นอกเหนือจากนั้นเป็นการอัพเกรดซอร์ฟแวร์มากกว่า ดังนั้นเราจึงได้นำเอาข้อมูลที่นักวิเคราะห์ได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับ iPhone 12 ที่มีความเป็นที่นิยมมากกว่า iPhone 11 มาฝากทุกคนซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของใครหลายๆคนก็ได้ค่ะ

ทำไม iPhone 12 ถึงได้รับความนิยมมากกว่า iPhone 11 

Wave7 ได้ทำการสำรวจร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาพบว่า 81% ของร้านค้าที่สำรวจบอกว่า 5G เป็น “ปัจจัยหลัก” ในการขายช่วงแรกที่ iPhone 12 ได้วางขาย Wave7 ทำรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับร้านค้าผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายของสหรัฐอเมริกา จากการศึกษาล่าสุดพบว่า 62% ของร้านค้าตัวแทนกล่าวว่าความสนใจในรุ่น iPhone 12 นั้นกระแสดีกว่าความสนใจของรุ่น iPhone 11 เมื่อปีที่แล้วอีก 43% กล่าวว่ายอดขาย iPhone 12 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเปิดตัว iPhone 11 ในปี 2019 และมีเพียง 30% เท่านั้นที่บอกว่ายอดขายในช่วงต้นลดลงเมื่อเทียบกับปี 2019 การศึกษาครั้งนี้ได้เสร็จสิ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม อีกทั้ง iPhone 12 ยังมีราคาที่ถูกกว่า iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น

การเปิดตัวครั้งนี้ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของ Apple เพิ่มขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์ที่ Verizon ยกตัวอย่างเช่น Verizon 27% ของโทรศัพท์ที่รายงานว่าขายในเดือนตุลาคมเป็นรุ่น iPhone 12 ในขณะที่มีเพียง 11% เท่านั้นที่เป็น iPhone 12 Pro Jeff Moore Principal ของ Wave7 ทวีตว่า “เป็นเรื่องยากที่จะหารุ่น iPhone 12 Pro ในสต็อกของเดือนตุลาคม”

5G ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผู้คนสนใจ iPhone 12 มากขึ้น

ผลการสำรวจที่น่าตกใจที่สุดสำหรับการสำรวจครั้งนี้คือจำนวนผู้ซื้อ iPhone 12 ต่างก็สนใจเครือข่ายไร้สาย 5G ซึ่งตามที่รายงานพบว่า 5G ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับผู้ซื้อ iPhone มากนักเพราะส่วนใหญ่ 5G ของ Verizon และ AT&T ที่มีอยู่ทั่วประเทศมักจะมีผลลัพธ์ที่ช้ากว่าเครือข่าย 4G Verizon โดย 5G คือใช้ได้เฉพาะกับคนไม่กี่ล้านคนของอเมริกัน ในขณะที่ 5G ระดับกลางของ T-Mobile ที่มีการปรับปรุงการเชื่อมต่อและมีการครอบคลุมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศมากเท่าที่ควร แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ซื้อ iPhone โดยร้านค้าตัวแทนประมาณ 85% ของ Verizon และ T-Mobile กล่าวว่าการรวม 5G เป็นปัจจัยสำคัญในการขาย iPhone 12 

ทำไม iPhone 12 ถึงได้รับความนิยมมากกว่า iPhone 11 ทั้งๆที่มีราคาที่แพงกว่า

จากการเปรียบเทียบสเปค iPhone 12 มีการอัพเกรดจาก iPhone 11 ในส่วนของหน้าจอ iPhone 12 สามารถแสดงผลความละเอียดได้สูงกว่าและมีความคมชัดกว่า นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นจอ OLED ทำให้สามารถทำความสว่างได้สูงกว่าอีกด้วย ส่งผลให้สามารถมองมือถือกลางแจ้งได้ดียิ่งขึ้น และใช้วัสดุอะลูมิเนียมกับCeramic Shield ที่เพิ่มทนทานขึ้น

อีกทั้ง iPhone 12 รองรับเครือข่าย 5G มีชิปประมวลผล A14 Bionic ที่เหนือกว่า แต่หากคุณเป็นคนที่อยากได้ไอโฟนราคาไม่แรงมาก ไม่ได้ใช้งานหนัก ๆ รวมถึงไม่ได้ใส่ใจ 5G มากนัก iPhone 11 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะถึงแม้จะเป็นรุ่นเก่าแต่ชิป Apple A13 Bionic ก็แรงสุด ๆ อยู่ดี อีกทั้งกล้องที่มีก็ไม่ได้ต่างไปจาก iPhone 12 มากนัก

แต่สำหรับใครที่อยากได้ของใหม่จริง ๆ อยากได้เล่นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ต้องการใช้ 5G iPhone 12 ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณอยากใช้ของใหม่แต่ก็อยากประหยัดเงินอีกนิดเราขอแนะนำ iPhone 12 mini เพราะสเปคภายในทุกอย่างเหมือนกันหมด ต่างกันที่ขนาดหน้าจอและขนาดตัวเครื่องเท่านั้น

ในส่วนของเรื่องราคาถึงแม้ iPhone 12 จะที่ราคาในไทยเริ่มต้นที่ 29,900 บาท ซึ่งสูงกว่า iPhone 11 แต่ iPhone 12 ทุกรุ่นก็ยังได้รับความนิยมมากกว่า โดยปัจจัยหลักมาจากการที่เป็น iPhone เครื่องแรกที่ใช้สัญญาณเครือข่าย 5G นอกจากนี้ยังมีสเปคที่มีประสิทธิภาพมากกว่า วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความคงทนสูง อีกทั้งมีการดีไซน์ที่คล้ายกับ iPhone 4 แต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ด้วยเหตุผลเหล่านี้ผู้บริโภคจึงยินดีที่จะเสียเงินซื้อของที่แพง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า

สมัครบาคาร่า

HILO-88.COM
HILO-88.COM