สอนใช้ มือถือ คอมพิวเตอร์ สอนสร้างเว็บ

วิธีแก้ไขแบตบวมดันจอยังไงในปลอดภัย

แบตบวมดันจอ

 ปัญหาแบตโทรศัพท์เสื่อม หมดเร็ว หรือแบตบวมดันจอ เป็นหนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้โทรศัพท์หลายคนกังวล และมักสงสัยว่ามันเกิดจากอะไร ยิ่งถ้าโทรศัพท์ของคุณมีอาการแบตเตอรี่บวม ก็อาจจะยิ่งส่งผลให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้อย่างเช่น โทรศัพท์ระเบิด แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญของโทรศัพท์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะมันมีอายุการใช้งานจำกัด เมื่อมันเริ่มเสื่อมสภาพ อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เช่น แบตเตอรี่ดันหน้าจอ เครื่องเสีย ปุ่มกดเสียหาย ไปจนถึงเกิดเหตุร้ายแรงที่สุดอย่างเครื่องไหม้หรือระเบิด และวันนี้เราก็มีวิธีแก้ไขแบตบวมดันจอมาฝากทุกคน จะมีวิธีไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

วิธีการสังเกตและวิธีแก้ไขแบตบวมดันจอ

การสังเกตแบตบวมดันจอสามารถดูได้ด้วยความรู้สึกภายนอกโดยปกติแล้วเมื่อแบตเตอรี่บวมมันจะดันหน้าจอด้านหน้าและทำให้หน้าจอเป็นสีขาว นอกจากนี้มันจะมีการแยกที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างตัวกล้องและหน้าจอยังเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่ของคุณบวม และอีกหนึ่งวิธีที่สังเกตอาการนี้ได้ง่ายๆ คือ ตัวแบตเตอรี่จะขยายใหญ่ขึ้นจนเริ่มดันตัวเครื่องและหน้าจอของโทรศัพท์มือถือจนผิดรูปไป ซึ่งเป็นปัญหารุนแรงที่ส่งผลต่อชิ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น

  1. ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องลดลง

ปัญหาข้อนี้ถือว่ายังไม่ร้ายแรงมากนัก อย่างการเกิดอาการแบตเสื่อม แต่สำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้งานมือถือแบบจริงจังตลอดวัน ก็อย่าลืมเช็คสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น แอปพลิเคชันอาจมีปัญหา เมมโมรี่เครื่องเต็ม เป็นต้น

  1. เครื่องโทรศัพท์ร้อนง่าย

หากแบตเตอรี่เสื่อมหรือบวม ตัวเครื่องจะมีความร้อนมากกว่าปกติ เพราะความร้อนจากแบตเตอรี่ถ่ายทอดมายังตัวเครื่องได้ง่ายมากขึ้น

วิธีแก้ไขแบตบวมอย่างปลอดภัย

เมื่อคุณทราบแล้วว่าโทรศัพท์มือถือของคุณแบตเตอรี่บวมแน่นอน ทางแก้ไขปัญหานี้ คือ ปิดเครื่อง ห้ามชาร์จไฟ และนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตมือถือใหม่ โดยให้เลือกเปลี่ยนแบตจากศูนย์บริการของแบรนด์นั้น ๆ หรือเลือกแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก มอก. ไม่ควรนำก้อนแบตเตอรี่ ไปแช่ตู้เย็น เพื่อยืดอายุการใช้งานหรือเจาะแบต เพื่อให้หายบวมเด็ดขาด เพราะมันเป็นวิธีการที่ผิดและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ทางแก้ไขที่ดีที่สุดควรเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่โทรศัพท์ก้อนใหม่ที่ปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงขณะใช้งานมือถืออีกด้วย

ต้องเร่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีอาการบวมหรือเสื่อมทันที พร้อมทำการปิดเครื่องก่อนเปลี่ยนแบตเตอรี่อันใหม่ และห้ามชาร์จไฟเด็ดขาด!! เพราะถ้าคุณยังคงใช้งานมันต่อไปเรื่อย ๆ หรือชาร์จไฟ กระแสไฟที่ชาร์จจะถ่ายโอนไปที่ก้อนแบตที่มีสภาพการใช้งานไม่เต็มร้อย อาจส่งผลให้ตัวเครื่องมีความเสี่ยงสูงจนเกิดอาการไหม้ หรือระเบิดเลยก็ได้ และที่สำคัญหากเปลี่ยนเป็นของแท้จากศูนย์บริการ หรือร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือได้มาตรฐานตามข้างต้นที่เราแนะนำ รับรองเลยว่าคุณจะได้แบตเตอรี่ที่ปลอดภัย ไม่ทำให้เสี่ยงอันตราย

สาเหตุแบตบวม

หลังจากที่คุณได้ทำความเข้าใจกับวิธีการสังเกตและวิธีแก้ไขแบตบวมดันจอแล้ว ต่อมาเรามาดูสาเหตุที่ส่งผลให้แบตเตอรี่บวม ซึ่งแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ที่เห็นว่าบวมได้บ่อยที่สุด คือแบตเตอรี่กลุ่มลิเธียม ว่าจะเป็นลิเธียมไอออน (Lithium ion) หรือลิเธียมโพลิเมอร์ (Lithium Polymer) โดยอุปกรณ์ที่เห็นเจอปัญหาแบตบวมบ่อยที่สุดก็คือ แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ นั่นเอง ซึ่งแบตเตอรี่กลุ่มนี้มีโอกาสที่จะเกิดอาการแบตบวมได้ทั้งสิ้น อาการบวมนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่

  1. แบตเตอรี่เสื่อมตามอายุการใช้งาน : หากแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพการเก็บประจุไฟลดลง คุณสามารถสังเกตได้จากเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่จะหมดไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งาน และการดูแลรักษาของผู้ใช้งาน
  2. พฤติกรรมการใช้งาน : สุขภาพแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน เพราะผู้ใช้งานบางคนชอบเล่นมือถือขณะชาร์จไปด้วย ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม เกิดอาการบวมได้ง่าย เนื่องจากมีการทำงานที่หนักเกินไป
  3. การใช้เคสมือถือแบบที่เป็นยาง : การที่คุณเลือกใช้เคสมือถือแบบยาง อาจทำให้การระบายความร้อนระหว่างชาร์จแบตเตอรี่ทำงานได้ไม่เต็มที่ และมีการสะสมความร้อนสูง
  4. แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นของปลอม : การที่คุณเลือกใช้แบตเตอรี่ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะส่งผลต่อตัวเครื่องและแบตเตอรี่ได้หากใช้งานไปสักระยะ ซึ่งการใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานเป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันแบตบวมที่ดีที่สุด
  5. Adapter ไม่ได้มาตรฐาน : บางครั้งปัญหาแบตเตอรี่บวมหรือเสื่อมไว อาจเกิดจากการใช้งาน Adapter ที่ไร้มาตรฐาน รวมไปถึงปลั๊กไฟที่ใช้เสียบอีกด้วย เพราะมันอาจทำให้เกิดไฟกระชากบ่อย จนส่งผลร้ายต่อแบตเตอรี่ก็เป็นได้
  6. ใช้งานจนแบตเตอรี่หมด 0% : เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่ควรเริ่มชาร์จได้ควรมีให้เหลือสัก 30% แล้วชาร์จเลย ดีกว่าใช้งานจนเครื่องดับไปเอง

Sponsor: https://hilo-88.com/

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

HILO-88.COM
HILO-88.COM